อดีตคือฐานความสำเร็จ

อดีตคือฐานความสำเร็จ

บทความ “Think out of The Box” 2-3 ตอนที่ผ่านมาเน้นความสำเร็จของคนสร้างแพลตฟอร์มในยุคใหม่ขึ้นมา

โดยต่อยอดจนกลายเป็นระบบนิเวศน์ทางธุรกิจ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่กูเกิล หรือเฟซบุ๊คที่คุ้นเคยกัน แต่ยังมีเทนเซ็นต์ อาลีบาบา จากประเทศจีนที่ขยายอิทธิพลจนติดอันดับ 1 ใน 10 ธุรกิจชั้นนำของโลกไปแล้ว

เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทเหล่านี้ล้วนล้มลุกคลุกคลานผ่านความล้มเหลวมาแล้วหลายต่อหลายครั้งโดยที่ไม่มีใครรออัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเพราะรู้ดีว่านี้เป็นยุคที่ใครๆ ก็สามารถขี่คลื่นเทคโนโลยีคว้าชัยชนะสร้างความสำเร็จให้ตัวเองได้

คนที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้จึงไม่ใช่คนที่รอคอยให้โอกาสมาถึงเหมือนกับรออัศวินม้าขาว ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีวันมาถึง จึงโทษแต่ทุกอย่างรอบตัวไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางสังคม หรือครอบครัวที่ไม่เปิดกว้างให้ รวมไปถึงที่ทำงานที่ไม่ให้โอกาสจึงไม่เติบโตก้าวหน้า

ในขณะที่บางคนจะมองเห็นโอกาสรอบตัวและคว้ามันไว้โดยไม่ลังเลเพราะเขาสะสมความพร้อมไว้พอสมควรแล้ว แม้จะต้องเหนื่อยยากจนถึงขั้นต้องล้มเหลวไปในบางครั้งแต่เขาก็พร้อมจะรับโอกาสใหม่ๆ และใช้บทเรียนที่ได้มาเป็นฐานสร้างความสำเร็จได้ในที่สุด

ปัจจัยที่คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จได้ก็เพราะความกล้าคิดกล้าทำ และกล้ารับผิดชอบต่อโอกาสใหม่ๆ ที่เปิดให้อย่างไม่ลังเล และนอกเหนือจากนั้นก็ยังต้องรู้จักความยืดหยุ่นไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์และระเบียบขั้นตอนต่างๆ มากจนเกินไป

โดยเฉพาะการทำธุรกิจในยุคที่ใช้ดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อน การปล่อยให้องค์กรเดินตามระบบระเบียบเดิมๆ อย่างเคร่งครัดย่อมไม่เป็นผลดีแน่นอน ขั้นตอนทั้งหลายที่ซับซ้อนวุ่นวายจึงต้องนำมาทบทวนใหม่ทั้งหมด อะไรที่ทำให้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องเปลี่ยนแปลงทันที

การทำงานจะอาศัยระเบียบขั้นตอนภายในองค์กรเป็นศูนย์กลางไม่ได้ แต่ต้องจับเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง บางขั้นตอนอาจต้องประสานงานภายในนานถึง 30 วัน แต่ในมุมมองลูกค้าเห็นว่า 1 สัปดาห์ก็เพียงพอแล้วก็ต้องหาทางลดขั้นตอนลงให้ได้

ปัญหาใหญ่ในองค์กรคือการเชื่อมโยงประสานงานกันระหว่างแผนกที่มักจะมีเส้นบางๆ แบ่งกั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบระเบียบต่างๆ จำนวนมาก หรือการเมืองภายใน แต่สิ่งเหล่านี้จะให้เป็นอุปสรรคจนเป็นผลกระทบไปถึงลูกค้าไม่ได้

บ่อยครั้งที่เราจะเห็นแต่ละฝ่ายแข่งขันกันเอง บางครั้งเราอาจทุ่มเทจนชนะอีกฝ่ายหนึ่งแต่ผลสุดท้ายอาจทำให้องค์กรต้องพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งชัยชนะของฝ่ายนั้นก็หมดความหมาย การบริหารงานในทุกวันนี้จึงต้องยืดหยุ่นเหมือนกับน้ำที่อยู่ในภาชนะรูปทรงใดๆ ก็ได้ ตามแต่ความต้องการของลูกค้า

เมื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ เราก็มีโอกาสสร้างความเชื่อถือและสะสมแต้มต่อสร้างเป็นเครดิตในระยะยาวจนท้ายที่สุดเมื่อเขาต้องการสินค้าหรือบริการด้านนี้ลูกค้าจะนึกถึงเราเป็นลำดับแรก รวมถึงแนะนำเราให้กับลูกค้าคนอื่นๆ เพราะเขามั่นใจในผลงานที่เราสะสมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้หากเราไม่เอาจริงเอาจังกับงานที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นพนักงานหรือผู้บริหารในองค์กร หรืองานในธุรกิจของตัวเองก็ตามต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ และต้องตั้งเป้าจะเป็นคนที่มีคุณค่าต่อองค์กรและต่อสังคมให้ได้

คนที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจทุกวันนี้ล้วนมาจากองค์ประกอบเหล่านี้ เพราะไม่มีใครก้าวขึ้นมาสู่การเป็นผู้นำในโลกธุรกิจทุกวันนี้ได้เพราะโชคช่วยหรือเพราะความบังเอิญ แต่ทั้งหมดล้วนสำเร็จขึ้นมาได้เพราะความตั้งใจในอดีตต่างหาก