Start ให้ UP

สวัสดีครับ หลายบทความที่เราพูดกันถึงเรื่องบทบาทของการทำการตลาดดิจิทัล การตลาดออนไลน์ รวมถึงการปรับเปลี่ยนทางการตลาดในด้านต่างๆ เมื่อการเข้ามาของดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามากระทบในเกือบทุกด้าน วันนี้จึงขอกลับมาที่เรื่องของการตัวธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากดิจิทัลเทคโนโลยีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราได้ยินคำว่า Startup อยู่บ่อยครั้ง บางท่านก็รู้ก็เข้าใจ บางท่านก็ยังงงว่าจะ Start อะไร แล้วทำไมถึงไม่ใช่ธุรกิจธรรมดา ซึ่งก่อนจะขยายความเรื่อง Startup ขออธิบายความก่อนว่าการเกิด Startup เป็นผลมาจากผลกระทบของดิจิทัลเทคโนโลยี เพราะสามารถเข้าผัน idea ของคนที่มีความสามารถแต่ขาดกำลังทุนให้สร้างบริการ หรือช่องทางที่สามารถทำเป็นธุรกิจและกอบโกยรายได้อย่างมหาศาล

ถ้าจะให้นิยามความหมายแบบง่ายๆ ของ Startup อาจจะบอกได้ว่าคือการสร้างธุรกิจที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว มีกระบวนการในการสร้างรายได้ที่สามารถทำซ้ำ ขยาย ทำให้ธุรกิจประเภทนี้จะต้องมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ตัวอย่างเช่น Uber น่าจะเป็นตัวอย่างที่คนไทยคุ้นหูและเข้าใจ model มากที่สุดธุรกิจหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าคนทำธุรกิจก็ต้องการที่จะสร้างปรากฏการณ์แบบ Uber แต่ทำอย่างไรละ ผมจึงขอสรุปแบบสั้นๆ ให้เข้าใจว่า Start อย่างไร “ให้” up อันประกอบด้วย 3S 

“Space” มีช่องว่างให้เติมเต็ม

ธุรกิจที่เราสร้างต้องเป็นธุรกิจที่เข้าไปเติมเต็มช่องว่างที่อยู่ในอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่มีอยู่เดิม ที่สำคัญช่องว่างนั้นต้องมีความต้องการที่จะได้รับการเติมเต็มจากผู้บริโภค เช่น นักท่องเที่ยวต้องการหาที่พัก อยากได้ราคาถูก มีข้อมูลจำนวนมากที่ค้นหา ขณะที่โรงแรมหรือที่พักต้องการปล่อยเช้า ต้องการให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเห็นตนเอง หาเจอได้ง่าย และมีรายได้เพิ่มขึ้น ถ้ามองแบบนี้อุตสาหกรรมนี้ก็มีช่องว่างขนาดใหญ่ที่จะให้เติมเต็ม เพียงแค่เราค้นหา และสร้างบริการที่แก้ปัญหาได้ ก็สามารถที่จะสร้างธุรกิจ Startup ได้ไม่ยาก

“Speed” เริ่มและเติบโตอย่างรวดเร็ว

ธุรกิจ Startup ไม่อนุญาตให้ใช้เวลานานในการเติบโตหรือขยายธุรกิจ เหตก็เพราะธุรกิจ Startup ส่วนใหญ่ไม่ได้มีเงินทุนจำนวนมาก ในขณะที่การพัฒนาจำเป็นต้องใช้ทีมงานและเงินลงทุนในการพัฒนารวมถึงการตลาด ดังนั้นธุรกิจที่อาจจะมี idea ดีแต่ไม่สามารถลด burn rate ของธุรกิจได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วก็จะทำให้ธุรกิจขาดเงินทุนและไม่สามารถขยายธุรกิจต่อได้ในที่สุด ดั้งนั้นความเร็วจึงเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ Startup

“Sponcer”

ท้ายสุดคือคุณต้องมีเงินทุน ทุกการสร้างสรรค์มีต้นทุน ถ้าคุณมีเงินทุนของตัวเองจำนวนมากส่วนใหญ่ทุกวันนี้คุณก็จะเป็นนักธุรกิจอยู่แล้ว แต่คนที่ทำธุรกิจ Startup ส่วนใหญ่เป็นคนมีความสามารถแต่ขาดเงินทุน มี idea แต่ไม่สามารถสร้างให้เป็นจริงได้ ยิ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนถ้าคุณจะทำธุรกิจจำเป็นต้องมีเงินลงทุนในการจ้างพนักงาน ซื้อเครื่องจักรราคาแพงๆ มีสำนักงาน มีการทำโฆษณาผ่านสื่อหลักที่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ไม่มีทางลัดทำให้คน idea ดีๆ ก็จะเป็นได้แค่ลูกจ้าง แต่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวข้ามขีดจำกัดคนที่มี idea ก็สามารถสร้างสินค้าขึ้นจากอากาศและนำเสนอบริการทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้ แต่อย่างไรก็ดีธุรกิจก็ยังต้องได้รับการสนับสนุนเรื่องเงินทุน ดังนั้นถ้าคุณต้องการสร้างธุรกิจ Startup ให้ประสบความสำเร็จหัวใจสำคัญประการสุดท้ายคือเพื่อนร่วมลงทุนหรือเงินทุนสนับสนุน เพราะคนฉลาดๆ ก็ต้องกินข้าว...คุณว่าจริงไหม??