สร้างฐานความสำเร็จ

สร้างฐานความสำเร็จ

สำหรับคนไทยในฐานะผู้ใช้โซเชียลมีเดียอันดับต้น ๆ ของโลก ย่อมคุ้นเคยกับเฟซบุ๊คเป็นอย่างดี เพราะเป็นโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มที่เราใช้กันมายาวนาน

เช่นเดียวกับการ สื่อสารผ่านแอพพลิเคชั่น “ไลน์” ในประเทศไทยเอง ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะด้วยความสะดวกรวดเร็ว และประยุกต์ใช้ได้มากมาย ทั้งการสื่อสารส่วนบุคคลและด้านธุรกิจ

แต่หากเอ่ยถึงแอพพลิเคชั่นสนทนา หรือ แชท อย่าง QQ และ WeChat คนไทยจำนวนมากคงไม่คุ้นเคยแม้ว่าบทบาทของทั้ง 2 แพลตฟอร์มนั้น มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า เฟซบุ๊ค และเฟซบุ๊ค แมสเซนเจอร์ แม้แต่น้อย เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์ม ระดับโลกเนื่องจากเน้นเฉพาะตลาดบ้านเกิดคือประเทศจีนแห่งเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่บนเวทีโลกมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นแชทมากกว่าไลน์ หรือ เฟซบุ๊ค แมสเซนเจอร์ สิ่งที่จะยกตัวอย่างต่อไปนี้คือ แอพพลิเคชั่น QQ และ WeChat อยู่ภายใต้การบริหารงานของ TenCent (เทนเซนต์) ยักษ์ใหญ่ไอทีจากประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งเดียวของจีนที่ติดอันดับ 10 บริษัทขนาดใหญ่ของโลกซึ่งล้วนมีแต่ชื่อบริษัทอเมริกันที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เช่นแอ๊ปเปิ้ล ไมโครซอฟท์ อเมซอน

ทั้งนี้ เทนเซนต์ ปัจจุบันมีฐานผู้ใช้กว่า 500 ล้านคน และกำไรเฉพาะครึ่งปีหลังของปี 2560 ก็พุ่งสูงถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้เทนเซนต์ขยายธุรกิจต่อเนื่องไปได้ไกลกว่าที่คนทั่วไปคิด จากแอพพลิเคชั่นที่เน้นใช้การติดต่อสื่อสารมาสู่การให้สินเชื่อและกลายเป็นธนาคารไปในที่สุด

จากธุรกิจที่ใกล้ตัวผู้ใช้อย่างแอพพลิเคชั่นสื่อสาร มาสู่ธุรกิจเกมออนไลน์ ธุรกิจบันเทิง ไปจนถึงสถาบันการเงินนั้น ทำให้เราสามารถมองเห็นภาพสะท้อนได้ว่าเทนเซนต์สร้างระบบนิเวศทางธุรกิจเป็นของตัวเองได้อย่างเยี่ยมยอด โดยทั้งลูกค้าคู่ค้า ผู้ใช้งาน ต่างก็มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งนั้น บนแพลตฟอร์มทุกอย่างที่เปิดให้บริการและเปิดให้ใช้งาน

สำหรับผมแล้วเทนเซนต์ จึงเป็นธุรกิจที่สะท้อนให้เห็นว่า โพนี่ หม่า หรือ Ma Huateng ซึ่งมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ และไม่หวั่นไหวต่อขีดจำกัดในโลกธุรกิจออนไลน์ ที่เคยคิดว่าจะต้องตามหลังชาวตะวันออกเสมอไป แม้ไม่ได้มีผิวขาวผมสีทองก็สร้างธุรกิจออนไลน์ให้ติดอันดับโลกได้ ดังนั้น แล้วผมเชื่อว่าความสำเร็จของเทนเซนต์ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เริ่มจากความกล้าและความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ เพราะคนจำนวนมากเกือบไปถึงฝั่งฝันแต่กลับถอดใจเสียก่อน โพนี่ หม่า ก็เช่นเดียวกันเพราะในช่วงแรกของการก่อตั้งบริษัทไม่สามารถทำกำไรได้เลยจนต้องขายหุ้นเกือบครึ่งหนึ่งให้กับ Naspers จากแอฟริกาใต้ แต่เขาก็กลับพลิกบริษัทให้กลับมามีกำไรได้

ที่สำคัญต้องรู้จักคิดให้ทะลุข้อจำกัดทั้งหมด อย่าทำ ๆ หยุด ๆ เพราะไม่รอบคอบ แต่ต้องฝันให้ใหญ่แล้วค่อยๆ ทำทีละนิดเพื่อแก้ไขและปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ความกล้าที่จะเติบโต จึงต้องกล้าที่จะเผชิญกับความล้มเหลวด้วย นอกจากนี้ ข้อต่อมาคือความเป็นผู้นำที่ต้องกล้ารับผิดชอบ กล้าทำสิ่งใหม่ๆ แม้ว่าจะยังเป็นพนักงานก็ต้องกล้าเสนอตัวเพราะรับผิดชอบงานใหม่ ๆ อย่ามัวแต่เกี่ยงกันเหมือนบรรยากาศในห้องประชุมทั่วไปที่เราจะเห็นคนเกี่ยงกันทำงานไม่กล้าเสนอตัวรับงานใหม่

การได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะงานที่ได้ใกล้ชิดกับลูกค้านั้น จะทำให้เรามีโอกาสให้ตัวเราได้ฝึกฝน ได้รับรู้ความต้องการของลูกค้า ท้ายสุดหากทำงานได้อย่างราบรื่น เราก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จลูกค้า อย่าทำงานกับลูกค้าโดยหยิ่งผยองกับความสำเร็จในอดีตซึ่งจะทำให้เราพลาดการมีส่วนร่วมกับลูกค้าไปได้ ปิดท้ายด้วยความเชื่อมั่น ทั้งเป็นความเชื่อมั่นในตัวคู่ค้า และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนภายนอก ซึ่งหากเขาคิดถึงเราทุกครั้งเมื่อต้องการคนทำงานในเรื่องที่เราเชี่ยวชาญก็เท่ากับเราสำเร็จขั้นต้นไปแล้ว