แด่บอสด้วยรัก

แด่บอสด้วยรัก

โดยทั่วไปคนอาจมองว่าวันวาเลนไทน์เป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว แต่ในความเป็นจริงความรักมีหลายแบบและอยู่ได้ในทุกที่แม้กระทั่งที่ทำงาน

และหลายคนในที่ทำงานก็มองหาความรักอยู่ ซึ่งคนๆนั้นก็คือผู้บังคับบัญชาหรือที่ภาษาไทยง่ายๆเรียกกันว่า “เจ้านาย” นั่นเอง

อย่างไรก็ตามพนักงานบางกลุ่มไม่ชอบคำนี้เพราะดูมันใหญ่โตเบียดบังผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดูตัวเล็กเกินไป บางคนจึงนิยมใช้คำภาษาอังกฤษเรียกผู้บังคับบัญชาว่า “บอส” แทน ฟังดูทันสมัยเป็นกันเองขึ้นมาหน่อย บ๊อสก็เหมือนคนทั่วไปที่มองหาความรักความเอาใจใส่จากทีมงาน อยากให้ทีมงานรู้ใจตนเองจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระและทำงานได้บรรลุเป้าหมายโดยที่ตัวเองไม่ต้องปากเปียกปากแฉะคอยดูแลกำกับการแสดงในทุกฉาก ตัวบ๊อสจะได้มีเวลาไปทำงานด้านกลยุทธ์วางแผนได้มากขึ้น

ส่วนทีมงานที่เป็นลูกน้องก็มองหาความรักจากบอสเช่นกัน อยากให้บ๊อสช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้ก้าวหน้า อยากให้บอสมีตามองเห็นว่าพวกเขาตั้งใจทำงานและมีผลงานแม้ว่าจะไม่มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดบอส ไม่ใช่เห็นเฉพาะคนที่อยู่รอบข้าง สรุปก็คือทั้งบอสและลูกน้องต่างก็ต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่จากกันและกัน หลายคนไม่ได้ถึงกับต้องการความรัก แต่อย่างน้อยที่สุดย่อมต้องการให้อีกฝ่ายชอบตน สัปดาห์แห่งวันวาเลนไทน์ปีนี้จึงขอชวนคุยกันว่าทั้งบอสและลูกน้องสามารถทำให้อีกฝ่ายมีความรักใคร่ชอบพอตนได้อย่างไร โดยขอเริ่มจากวิธีการทำให้บอส “เลิฟ” เราก่อนนะคะ

เริ่มจากการที่ลูกน้องต้องรู้จักมองหาข้อดีของบอสที่ตนเองนับถือ อย่าลืมว่ามนุษย์ทุกคนไม่มีใครสมบุรณ์แบบ ดังนั้นถ้าเรามองแต่จุดด้อยของใครก็ตามที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยหรือทำงานอยู่ด้วย เราจะรู้สึกในแง่ลบ รู้สึกเบื่อหน่าย หนักๆเข้าอาจมีอาการต่อต้านโดยไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าท่านไม่ชอบบอสของท่านมากๆ สีหน้าสีตา กิริยาท่าทีเวลาที่ท่านพูดและทำงานกับเขาย่อมแสดงให้บอสรู้ตัวว่าท่านไม่ชอบเขา และสิ่งที่ท่านได้รับจากบอสก็คงเป็นในแนวทางเดียวกันกับที่ท่านสื่อไปยังเขา

กลายเป็นว่าต่างคนต่างไม่ชอบกันแต่ต้องมาทำงานด้วยกัน แล้วใครเสียเปรียบมากกว่า?

ย่อมเป็นตัวท่านที่อยู่ในฐานะที่เสียเปรียบกว่า ดังนั้นเมื่อจำเป็นต้องทำงานกับบอสที่ท่านไม่ชอบเขาในบางเรื่อง ขอให้พยายามมองจุดดีที่เขาพอมีอยู่บ้าง เช่นบอสเป็นคนมีความคิดดี มีความเก่ง แต่ในขณะเดียวกันเป็นคนที่พูดจายะโสโอหังอวดตน พูดจาไม่ดีกับลูกน้อง ก็ขอให้ท่านพยายามใช้จุดดีของเขา เช่น เข้าไปขอคำแนะนำและแนวทางแก้ปัญหาดีๆจากเขามาใช้ในการทำงานของท่าน ถ้าท่านมีความอดทน พยายามไม่เก็บเอาคำพูดแย่ๆของเขามาจดจำใส่หู เขาอาจจะแปลกใจว่ามีท่านเพียงคนเดียวที่สามารถทำงานกับเขาได้ และเลยอาจมองท่านในแง่ดีและพูดจากับท่านดีขึ้นก็ได้เพราะเขาเริ่มชอบท่านขึ้นมาบ้างแล้ว นานๆเข้าท่านก็อาจสามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้ แต่ถ้าท่านโชคร้ายที่มีบอสที่หาข้อดีไม่มีเลยจริงๆ ขอแนะนำให้ขอย้ายแผนกงานเสียจะดีกว่าค่ะ แต่ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ ขอให้ท่องคาถาอดทนจนกว่าเขาหรือท่านจะได้ย้ายไปแผนกอื่น

มีจิตสำนึกของความเร่งด่วน (Sense of urgency) บอสทุกคนเวลามอบหมายงานให้ลูกน้องทำ ย่อมคาดหวังให้ลูกน้องทำงานชิ้นนั้นโดยรวดเร็วทันที ไม่นำงานนั้นไปเก็บดองเอาไว้ ปัญหาก็คือลูกน้องอาจมีงานอื่นที่เร่งด่วนกว่าจึงไม่สามารถทำงานชิ้นนั้นให้เสร็จก่อนได้ ซึ่งดิฉันมีข้อแนะนำว่าในการรับมอบหมายงานจากบอส ท่านควรถามว่าต้องการให้แล้วเสร็จเมื่อไร หากมีงานชิ้นอื่นที่ทำอยู่ ควรถามบอสว่าต้องการให้ทำงานชิ้นไหนก่อน

ลูกน้องที่ฉลาดต้องรู้วิธีสื่อสารกับบอส อย่า “เซย์โน” ง่ายๆ หรือปฏิเสธง่ายๆ ต้องมีจิตวิทยาในการสื่อสาร ท่านต้องรู้จักวิธีที่จะปฏิเสธโดยไม่พูดปฏิเสธ กล่าวคือแทนที่จะรีบปฏิเสธทันทีเลยว่า “ตอนนี้ผมกำลังยุ่งกับงานนี้อยู่ครับ คงไม่สามารถทำงานนี้ได้” ซึ่งบอสฟังแล้วคงอดนึกขัดใจหงุดหงิดไม่ได้ แต่ถ้าท่านพูดว่า “บอสครับ อยากให้งานนี้เสร็จเมื่อไรครับ” และถ้าบอสบอกว่าต้องการให้ทำในทันที ท่านก็อาจพูดต่อว่า “ผมก็อยากทำให้บอสครับ แต่ตอนนี้กำลังทำงานชิ้นนี้ค้างอยู่ บ๊อสอยากให้ผมวางมืองานชิ้นนั้นก่อน แล้วรีบมาทำงานนี้ หรือว่างานชิ้นใหม่นี้พอจะรอได้อีกสักสอง-สามวันไหมครับ เสร็จงานชิ้นนั้นแล้ว ผมจะรีบทำงานนี้ให้” หรือถ้าบอสบอกว่าต้องรีบทำทั้งสองงาน (แบบนี้ก็มีเยอะ) ก็อย่าเพิ่งเครียดแล้วรีบปฏิเสธว่าทำไม่ได้ ให้ตั้งสติแล้วรู้จักหาทางแก้ปัญหา เช่น “ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมขอคนจากทีมงานอื่นให้มาช่วยด้วยได้ไหมครับ ถ้ามีคนมาช่วยเพิ่มก็จะสามารถทำได้เร็วขึ้นครับ

ลูกน้องที่ไม่ปฏิเสธง่ายๆ รู้จักคิดหาทางแก้ปัญหา พยายามทำงานโดยมีจิตสำนึกเร่งด่วน แทนที่จะมีแต่ปัญหามาให้บอสต้องเป็นคนแก้ไขย่อมแสดงให้บอสเห็นว่าลูกน้องเป็นผู้ที่ตั้งใจทำงานจริง สู้ไม่ถอย สามารถรับภาระหน้าที่งานใหญ่ได้ในอนาคต

เป็นคนใฝ่เรียนรู้สิ่งใหม่ ปรับตัวเร็ว เช่นเดียวกับที่บอสไม่ชอบฟังการปฏิเสธจากลูกน้องว่าไม่มีเวลาทำงานให้ บอสก็ไม่ชอบฟังลูกน้องพูดว่า “ดิฉันทำไม่ได้ค่ะ เพราะไม่เคยทำ ไม่มีความรู้” เนื่องจากไม่มีใครรู้อะไรมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ทุกคนต้องเรียนรู้ต้องฝึกหัดทุกอย่างกันมาทั้งนั้น การปฏิเสธไม่ทำงานเพราะไม่มีความรู้โดยรวดเร็วทันทีอย่างที่ไม่แสดงความพยายามว่าจะไปแสวงหาความรู้หรือฝึกหัดอะไรเพิ่มเติมเลย หรือว่าไม่ทำงานนั้นเพราะไม่ชอบ ไม่คุ้น เป็นคำตอบที่ไม่น่าจะหลุดปากออกมาง่ายๆหากปรารถนาจะเป็นพนักงานคนดีคนเก่ง เว้นเสียแต่เป็นเรื่องสุดความสามารถจริงๆ

พนักงานที่หวังความก้าวหน้าในงานต้องไม่ใช่คนที่รอให้บอสเรียกตัวมาฝึกอบรม แต่เป็นคนที่ขวนขวายหาความรู้ใหม่ วิธีการใหม่ๆมาทำงานเพื่อให้รวดเร็วขึ้น ประหยัดขึ้นด้วยตนเอง ไม่ใช่ทำให้เสร็จไปวันๆ ทำเท่าที่บอสสั่ง แค่นี้ไม่ดีพอสำหรับการจะเป็นพนักงานศักยภาพสูงค่ะ คนที่มีศักยภาพสูงต้องกระตือรือร้นขอบอสไปเรียนรู้ในสิ่งที่จะนำมาสร้างงานให้ดีขึ้น อาสาทำงานในหน้าที่ที่ไม่เคยทำเพื่อพยายามสร้างทักษะใหม่ในการทำงาน คนที่ปรับตัวไว เรียนรู้ไวจะเป็นคนที่บอสมองหาและมองเห็นก่อนคนอื่น และมักจะได้รับการเลื่อนขั้นได้รับรางวัลเร็วกว่าคนอื่น

รู้จักยกย่อง สร้างชื่อเสียงให้และไม่นินทาบอส การนี้ไม่ได้หมายความว่าท่านจะต้องเป็นคนประจบประแจงจนเข้าขั้นที่เรียกว่าสอพลอ การประจบหมายถึงการพูดเอาใจให้คนรัก ซึ่งถ้าพูดในสิ่งที่เป็นความจริง ก็ไม่เสียหายอะไร แต่การสอพลอนั้นหมายความว่าให้ร้ายป้ายสีผู้อื่นเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาเกลียดชังผู้นั้นและได้ประโยชน์แก่ตน ลูกน้องที่รู้จักยกย่องสรรเสริญในสิ่งที่บอสเก่งจริงในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม เช่น ต่อหน้าบอสของบอสอีกทีหนึ่งหรือท่ามกลางผู้บริหารคนอื่น ย่อมทำให้บอสได้หน้า ได้รับความนับถือ ได้รับการเลื่อนขั้น แต่ถ้าไปสอพลอยกยอในสิ่งที่บอสทำไม่ถูก ทำให้เขายิ่งทำในสิ่งที่คนอื่นเกลียดและทำให้บอสเกลียดคนอื่นด้วย แบบนี้ไม่ถูกต้อง และนอกจากจะไม่เป็นคนสอพลอแล้วยังไม่ควรนินทาบอสหรือเพื่อนร่วมงานด้วย เพราะถ้ารู้ถึงหูของเจ้าตัวย่อมเสี่ยงกับการเสียความสัมพันธ์กับคนๆนั้น

มีกิริยามารยาทและการพูดจาสุภาพ ไม่ว่าใครย่อมชอบคนพูดจาดี มีกิริยามารยาทสุภาพไม่หยาบคายก้าวร้าวด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งเป็นบอสที่อาวุโสสูงกว่า การให้เกียรติและมีกิริยาอ่อนน้อมด้วยเป็นเรื่องที่สมควรทำ ถือเป็นมารยาทของมืออาชีพ ไม่ใช่เรื่องของการประจบสอพลอ

ทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญไม่มากประการจนเกินไปที่ลูกน้องคนไหนก็ทำได้โดยไม่ต้องฝืนใจประจบสอพลอในเรื่องที่ไม่เป็นจริงหรือไม่ถูกต้อง เป็นคุณสมบัติที่ใช้ได้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆด้วย เป็นคุณสมบัติที่บอสเก่งๆหลายท่านในทุกวงการเคยเป็น เคยทำมาแล้วในอดีตก่อนมาเป็นบอสคนเก่ง มาส่งสิ่งดีๆให้บอสเพื่อคุณค่าที่เพิ่มมากขึ้นของตัวท่านเองดีไหมคะ?