เจาะลึก “ก๊วนล้ม คสช.”

จริงๆแล้ว กลุ่ม “โรม-จ่านิว” ก็คือ กลุ่มที่ทำกิจกรรมคัดค้านเผด็จการทหารมาตั้งแต่ปี 2557 โดยมีกลุ่มนักวิชาการปีก “ไม่เอาทหาร ไม่เอาเสื้อเหลือง ไม่เอานกหวีด” เป็นที่ปรึกษาคอยวางเกมวางแผน

การเคลื่อนไหวรุกไล่ คสช. มีการดำเนินมาเป็นระยะๆ แต่เวลานั้น ผู้คนยังฝังใจจำเรื่อง “ม็อบ” บวกกับคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ยังอยู่ในที่ตั้ง เพราะไม่มีไฟเขียวมาจากใครบางคน

ส่วนการชุมนุม 10 ก.พ. ที่รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกเป็น 2 ส่วนชัดเจน

กองหน้าคือ กลุ่มนักศึกษาหรือนักกิจกรรมรุ่นใหม่ มีไม่เกิน 20 คน

กองหนุนคือ กลุ่มคนเสื้อแดงที่มารวมตัวกันราวกับ “งานคืนสู่เหย้าชาวเสื้อแดง” ประมาณ 400-500 คน

ทำไมต้องเป็นเสื้อแดง? ดูได้อย่างไร? เรื่องนี้สังเกตไม่ยาก เริ่มจากการปลุกเร้าให้คนมาชุมนุมนั้น

1.สื่อสายเสื้อแดง ทั้งทีวีดาวเทียม 3 ช่อง ,เฟซบุ๊ค, ไลน์ และทวิตเตอร์ ประโคมข่าวใหญ่โต และวันทำกิจกรรม สื่อเหล่านี้ต่างไลฟ์สดการชุมนุมผ่านเฟซบุ๊ค ตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยันหน้า สน.ปทุมวัน

2.สื่อสายแดงฮาร์ดคอร์ในต่างประเทศ ได้แก่รายการวิทยุใต้ดิน ที่ส่งกระจายเสียงผ่านยูทูบ มีคนเสื้อแดงรับฟังจำนวนหนึ่ง นักจัดรายการทั้งหลายต่างปลุกระดมให้ออกไปถนนราชดำเนิน

ก่อนหน้าวันที่ 10 ก.พ. กลุ่มสุรชัย แซ่ด่าน, กลุ่มลุงสนามหลวง และกลุ่มไฟเย็น(ขุนทอง-แยม) ได้พูดเชิญชวนคนเสื้อแดงกันทุกคืน มิหนำซ้ำยังมีการเปิดสายหน้าไมค์ให้แสดงความคิดเห็นและชวนกันไปชุมนุมไล่ คสช.

แถมวันนั้น ผู้ใช้นามแฝงว่า “ญาญ่า” ไลฟ์เฟซบุ๊คการทำกิจกรรมคนอยากเลือกตั้ง ผ่านแฟนเพจป้าหนิง ดีเค ที่อยู่ในยุโรป ซึ่งเธอใช้ไลน์โทรเข้าไปในรายการวิทยุใต้ดินของสุรชัย แซ่ด่าน และลุงสนามหลวง หรือชูชีพ ชีวะสุทธิ์ อยู่เป็นประจำ

นับจากนี้ไป คสช.จะเผชิญหน้ากับการท้าทายมากขึ้น แม้จะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่ปัญหาความขัดแย้งภายใน ส่งผลให้ความเสื่อมศรัทธาจากคนทั่วไป มีแต่จะเพิ่มขึ้น

พูดถึงกองหนุน คสช. ตกอยู่ในภาวะ “พะอืดพะอม” กลืนไม่ลงคอ มีแต่จะอ้วกท่าเดียว

ครั้นจะแสดงจุดยืนต้านเผด็จการ ก็เกรงไปเข้าทางฝ่ายทักษิณ ครั้งจะกระเตงต่อไป ก็เหลือจะทนกับพฤติกรรมมูมมามของ “นักการเมืองเสื้อสีเขียว” บางคน

สถานการณ์การเมืองในวันข้างหน้า จะมีอุบัติเหตุเกิดได้ตลอดเวลา ไพร่ฟ้าหน้าใสไม่พึงประมาท!!