เฟดเปลี่ยนยุค

เฟดเปลี่ยนยุค

“...เฟดกำเนิด 23 ธ.ค. 1913 ลัคนาเมถุน ผู้นำคือภพ 10 ภพนี้คือราศีมีน พฤหัสเป็นดาวเจ้าเรือน มฤตยูวิกลคติเสริด 90 พฤหัสเดิม

ศุกร์พลูโตดับเล็งลัคน์ อมาวสี 90 มฤตยูเมษ และทับพฤหัสเดิมอีกครั้ง เสาร์ธนู 90 ทศมลัคน์สนิท ปรากฏการณ์ดาวทั้ง ยืนยันการเปลี่ยนตัวประธานเฟดคนใหม่

ในดวงเจเน็ต เยลเลน มฤตยูวิกลคติเสริดเล็ง 180 ทศมลัคน์สนิท ศุกร์พลูโตดับ 90 พฤหัสเดิม-ดาวเจ้าเรือนลัคน์ อมาวสี 90 ทศมลัคน์ซ้ำสอง เสาร์ธนูทับลัคน์อีกดอก ชุดดาวเดียวกันเล่นงานทั้งดวงเฟดและเยลเลน โอกาสรอดของเธอน้อยมาก...”   นี่คือคำทำนายของผู้เขียนใน “เฟดกับเสาร์ธนู” เมื่อ 20 ต.ค.2017 (http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642892)

ผลเป็นอย่างไร

เฟดเปลี่ยนยุค

วันที่ 2 พ.ย. ทรัมป์เสนอชื่อเจอโรม พาวเวลล์เป็นประธานเฟดคนใหม่ คณะกรรมาธิการอนุมัติ 5 ธ.ค. วุฒิสภารับรอง 23 ม.ค. 2018 คำทำนายถูกต้องอีกครั้ง

เยลเลนเป็นประธานเฟดต่อจากเบน เบอร์นันเก้ ที่รับภารกิจใหญ่ในการแก้ไขวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ 2008 ด้วยการลดดอกเบี้ย และอัดเม็ดเงิน QE เข้าสู่ระบบ  

ยุคสมัยของเธอเป็นช่วงที่เศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัว หน้าที่หลักจึงเป็นการปรับระบบกลับสู่สมดุล โดยมิให้เกิดปัญหาอุปสรรคใด

หลังจากเฝ้าดู 2 ปี วันที่ 16 ธ.ค. 2015 เฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก 0.25 % แต่สถานการณ์ยังไม่นิ่ง การขึ้นดอกเบี้ยจึงทิ้งช่วงไป 1 ปี เฟดขึ้นครั้งที่ 2 อีก 0.25 % เมื่อ 14 ธ.ค. 2016 

 ปีต่อมา 2017 เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25 % อีก 3 ครั้ง คือ 15 มี.ค. 14 มิ.ย. และ 13 ธ.ค. เยลเลนประชุม FOMC ครั้งสุดท้าย 31 ม.ค. 2018 เฟดคงดอกเบี้ยเท่าเดิม

พาวเวลล์รับตำแหน่ง 5 .. การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ควรราบรื่น เพราะสถานการณ์โดยรวมดี และมีเสถียรภาพ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น 

 ดาวโจนส์ปิดสูงสุดที่ 26,616 จุดเมื่อศุกร์ 26 ม.ค. สัปดาห์ต่อมา ดัชนีร่วงเกือบ 1,100 จุด เฉพาะศุกร์ที่ 2 ก.พ.วันเดียว ร่วง 666 จุด จันทร์ที่ 5 ดาวโจนส์ร่วงต่ออีก 1,175 จุด รวมทั้งสัปดาห์ร่วงไป 1,760 จุด ส่งผลไปถึงตลาดหุ้นทั่วโลก

นี่ไม่ใช่การรับน้องใหม่ต่อพาวเวลล์ แต่เป็นเพราะอัตราว่างงานของอเมริกาต่ำสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่ค่าแรงต่อชั่วโมงกลับเพิ่มขึ้น 

ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มสูง จนเฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ประกาศไว้ นักลงทุนเทขายพันธบัตร ทำให้อัตราผลตอบแทนพุ่งเกือบสูงสุดรอบ 4 ปี ตลาดหุ้นก็ปรับตัวลงเพื่อลดความเสี่ยง เหตุผลที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่อธิบายล้วนเป็นเช่นนี้

แต่เหตุผลที่แท้จริงอาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนบอกกัน ตลาดสินทรัพย์เติบโตมากจาก QE ที่แทบไม่มีต้นทุน แม้เฟดทยอยขึ้นดอกเบี้ย ก็ไม่ปรับตัวลงเพราะสภาพคล่องยังล้นโลก 

 ตลาดเริ่มหวั่นไหวเมื่อเฟดดึง QE กลับ แต่ก็เก็งกำไรกันเรื่องกฎหมายภาษีใหม่ของทรัมป์ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นดีขึ้นระยะสั้น (แต่แย่ระยะยาว) เมื่อกฎหมายผ่านสภา และมีเหตุผลอื่นช่วยหนุน Sell on Fact จึงเกิดขึ้นและตามด้วยแรงขายชุดใหญ่

ยากที่จะฟันธงว่า ตลาดกลับเป็นขาลง เพราะเงินยังท่วมโลกอยู่ แต่ที่แน่ ๆ โอกาสที่สินทรัพย์เสี่ยงจะพุ่งขึ้นไปทำสถิติใหม่นั้น เหลือน้อยแล้ว ยิ่งขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงต่อการพังทลายมากขึ้นเท่านั้น

ในมุมโหราศาสตร์ ภาพนี้ชัดมาก เพราะวัฏจักรพฤหัสเนปจูนรอบปัจจุบันเข้าสู่ขาลงเต็มตัวตั้งแต่ส.ค. 2016 วัฏจักรดาวคือผู้กำหนดแนวโน้มระยะยาว ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงต้านทานได้ แต่สิ่งน่าสนใจที่สุดคือความสอดคล้องกันของจุดเปลี่ยนตลาด และการเปลี่ยนผ่านประธานเฟด

ตลาดเกิดจุดเปลี่ยน 29 .. – 9 .. นั่นเพราะจันทรคราส (เต็มดวง) 31 ..ที่ 17:31 องศากรกฎ 

คราสเล็งศุกร์และ 150 เนปจูน ศุกร์คือการเงิน เนปจูนคือความสับสน-กังวล-หวาดกลัว กรกฎมีกำลังมาก เพราะเป็นราศีแม่ธาตุ คราสมีอิทธิพลสูงสุดภายใน +/- 7 วัน (หน้าสัตตะวารี หลังสัตตะวาราตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกผันผวนรุนแรง เป็นไปตามดวงดาวอย่างชัดเจน

จันทรคราสทับจุดศูนย์กลางภพ 2 ของดวงเฟด ภพ 2 คือบุคลากรขององค์กร บอกถึงการเปลี่ยนตัวประธานเฟด  

จุดคราสยังทำมุม 90 และ 180 กับจุดศูนย์กลางภพ 5 – 8 – 11 อีกด้วย ภพทั้ง 4 บอกถึงมิติทางการเงิน ชี้ถึงยุทธศาสตร์และนโยบายของเฟดที่จะ (1) เข้มข้นยิ่งขึ้น หรือ (2) แปรเปลี่ยนจนคาดไม่ถึง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากภายใน 1 ปีนับจากวันเกิดคราส

โหราศาสตร์ไม่มีคำว่า “บังเอิญ” จันทรคราสกระทบพาวเวลล์ด้วย เขาเกิด .. 1953 คราสเกิดใกล้วันเกิด จึงสำคัญมาก จุดคราสเล็งอาทิตย์ราหูและ90 พฤหัสเดิมในดวง 

อาทิตย์คือเกียรติยศ ชื่อเสียงการยกย่องจากสาธารณะ ราหูคือการเปลี่ยนแปลง พฤหัสคือมหาศาล คราสชี้ถึงการเปลี่ยนสถานะใหญ่ทางสังคม อาทิตย์ยังหมายถึงพลังชีวิต ราหูคือบาปเคราะห์ใหญ่และความมืดมิด เกียรตินั้นมาพร้อมภาระรับผิดชอบที่หนักหนาสาหัส น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลเวลาเกิด จึงไม่อาจทำนายได้ว่า เขาต้องเผชิญกับอะไร

ยังมีสิ่งหนึ่งซึ่งเราทำได้ นั่นคือดวงประธานเฟดคนที่ 16 พาวเวลล์สาบานตนรับตำแหน่ง 9:00 น. ลัคน์อยู่ที่ 3:36 องศามีน

มีนคือราศีแห่งการปรับตัวตามสถานการณ์ พาวเวลล์ต้องยืดหยุ่นสูงในการทำงาน 

การที่เขาไม่ได้จบเศรษฐศาสตร์ เป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งในตัวเอง Stellium ของอาทิตย์พุธศุกร์ในภพ 11 บอกถึงความสำคัญของการร่วมมือกับผู้อื่น

อังคารเกษตร์ในภพ 9 พฤหัสศุกร์เสาร์ปริวรรตเกษตร์ในภพ 8 – 10 – 11 ทั้งหมดชี้ถึงโอกาสแห่งความสำเร็จ แต่เสาร์ในภพ 10 ก็บอกถึงอุปสรรคความยากลำบากของงาน พลูโตธนู 90 จันทร์กันย์ หมายถึงความขัดแย้งเรื่องงานกับผู้มีอำนาจใหญ่หรือเผชิญปัญหาใหญ่ในงาน ดวงมีทั้งดีและเสีย สำเร็จแค่ไหนขึ้นกับการรู้จักใช้คน

คราสชี้ถึงการเปลี่ยนยุคของเฟด โพเวลล์ต้องเจอปัญหาใหม่ที่ใหญ่ไปอีกแบบ โดยเฉพาะ 1 – 2 ปีแรก อย่ามองโลกสวยเกินไป ความประมาทย่อมนำไปสู่ความพินาศ