การลงทุนนอกเมนู ตอน 4

การลงทุนนอกเมนู ตอน 4

การลงทุนนอกเมนู ตอน 4

สวัสดีปีใหม่จีนครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ช่วงตรุษจีนนี้บรรยากาศการลงทุนแถวบ้านเราค่อนข้างเงียบเหงาเพราะตลาดหุ้นปิดทำการกันหลายตลาดด้วยกัน ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกต่างพากันพักฐานลดความร้อนแรงหลังจากที่มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือนด้วยกัน แต่ด้วยสภาพคล่องที่ยังล้นอยู่ตลอดจนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างชัดเจนขึ้นยังน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นอยู่แม้ว่าจะไม่ร้อนแรงเท่าที่ผ่านมาก็ตาม

วันนี้ผมจะเขียนถึงการลงทุนนอกเมนูเป็นตอนสุดท้าย เมื่อคราวที่แล้วเราค้างกันถึงเรื่องการซื้อลอตเตอรี่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่คนไทยนิยม (ผมไม่ได้จัดว่าเป็นการลงทุนนะครับ) ซี่งถ้าเรามาดุกันที่ตัวเลขของผลตอบแทนถ้าคำนวณตามหลักสถิติแล้วจะให้ผลตอบแทนที่เป็นลบ แต่คนไทยก็ยังนิยมซื้อลอตเตอรี่มาเป็นเวลาช้านาน เหตุผลหนึ่งก็เพราะการซื้อลอตเตอรี่นั้นให้ความพึงพอใจในรุปแบบที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่นได้ลุ้นความสุขใจที่ได้ลุ้น ซึ่งหากท่านผู้อ่านสนใจการลงทุนที่ให้โอกาสในการลุ้นโชคเช่นนี้ ผมแนะนำให้ไปลงทุนผ่านสลากออมสิน (หรือฉลากธอส ธกส) จะดีกว่าและยังนับได้ว่าเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง แม้ผลตอบแทนที่ได้โดยเฉลี่ยจะไม่สูงเหมือนการลงทุนในหุ้นหรือการลงทุนนอกเมนูอื่นๆที่กล่าวมาแล้วก็ตาม ผมอยากให้เทียบการลงทุนในสลากออมสิน กับการฝากประจำหรือการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลซึ่งเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างปลอดภัยมากกว่า

ซึ่งมีผู้แนะนำกันมาว่าหากจะซื้อสลากออมสินและให้มั่นใจว่าจะถูกรางวัลแน่ๆให้ซื้อขั้นต่ำ 50000 บาท ซึ่งก็ถูกต้องตามหลักสถิติ โดยผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้จะถูกระบุไว้ในเวปไซต์ หรือท่านผู้อ่านสามารถเอาดอกเบี้ยต่อปีที่ระบุไว้บวกด้วย 0.72 ก็จะได้ผลตอบแทนขั้นต่ำที่รวมการถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัวเข้าไปแล้ว และถ้าเราลองเอาหลักสถิติมาคำนวณหาผลตอบแทนคาดหวังโดยเฉลี่ยจากการถูกรางวัลทุกรางวัลมาคำนวณปรับด้วยความน่าจะเป็นในการถูกรางวัลต่างๆจะได้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มประมาณร้อยละ 1.59 ดังนั้นถ้าสลากออมสินที่ท่านผู้อ่านซื้อไว้ระบุว่าท่านจะได้รับดอกเบี้ย 0.6 บาทต่อหน่วย (หรือร้อยละ 1.2 ต่อ 3 ปี หรือ ร้อยละ 0.4 ต่อปี) ผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนก็จะตกอยู่ประมาณร้อยละ 1.99 ซึ่งหลายท่านอาจมองว่าเป็นผลตอบแทนที่ไม่สูง แต่ก็เป็นการลงทุนที่ถือว่าค่อนข้างปลอดภัย แถมยังให้โอกาสในกาลุ้นว่าเราจะได้รางวัลใหญ่หรือไม่ ซึ่งถ้าลงทุนครั้งแรกๆและถูกรางวัลใหญ่เลยผลต่อแทนที่ได้ก็นับว่ามากมายอยู่

การลงทุนนอกเมนูอันสุดท้ายเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของบิทคอยน์ครับ เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับความสนใจ (ทั้งแง่บวกและแง่ลบ) จากนักลงทุนมากอยู่ ซึ่งบิทคอยน์ที่ว่านี้ เป็นเงินดิจิตอลสกุลหนึ่ง (แปลว่ายังมีเงินดิจิตอลแบบนี้อีกหลายๆสกุลด้วยกัน) ซี่งหากมองในรูปแบบว่ามันเป็นสกุลเงินหนึ่งแล้วก็หมายความว่าฟังก์ชั่นหลักในการใช้งานของมันก็คือการเป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยน เหมือนเงินบาท เงินดอลล่าร์สรอ เป็นต้น และมีออัตราแลกเปลี่ยนเทียบกับเงินสกุลต่างๆมากมาย โดยอัตราแลกเปลี่ยนที่ว่าก็เหมือนกับทองคำ ก็คือขึ้นกับอุปสงค์และอุปทานของเจ้าบิทคอยน์ที่ว่าในตลาด นอกจากนั้นมันยังมีปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาบิทคอยน์ เช่น กฏระเบียบจากทางการ เช่นในช่วงเดือน กันยายน 2560 ที่ผ่านมาราคาบิทคอยน์ดิ่งลงประมาณ 40% เนื่องจากทางการจีนประกาศแบนบิทคอยน์ เป็นต้น หรือสื่อต่างๆอาจส่งผล(ส่วนใหญ่จะเป็นเชิงลบ)ต่อราคาบิทคอยน์ได้เช่นการที่สื่อตีข่าวเรื่องการใช้บิทคอยน์ในทางที่ผิดกฎหมายเป็นต้น

ดังนั้นถ้าเราคิดว่าบิทคอยน์เป็นสกุลเงินหนึ่งที่ช่วยทำให้ธุรกิจหรือชีวิตของเราสะดวกขึ้นในแง่นี้บิทคอยน์ก็จะเป็นประโยชน์เนื่องจากมันสะดวกและมีต้นทุนที่ต่ำ แต่ถ้าเราจะลงทุนหรือเก็งกำไรในบิทคอยน์อันนี้ถือว่าเป็นอีกประเด็น ซึ่งผมต้องขอให้ท่านผู้อ่านใช้ความระมัดระวังหรือมีการจำกัดการลงทุนหรือตัดขาดทุน เพราะบิทคอยน์เป็นเรื่องใหม่และราคามีความผันผวนค่อนข้างสูง

ครับท้ายสุดนี้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านโชคดีในการลงทุนครับ