วัดฝีมือ “รัฐบาลคสช.” ผ่าน “ไทยนิยม” ***

ที่หอบหิ้วคีย์แมนคนสำคัญ อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯและเจ้าภาพของงานอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

00 ไล่เรียงขึ้นเวทีเป่ากระหม่อมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศรวมถึงข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้เตรียมพร้อมดำเนินการตามกรอบ 10 เรื่อง1.สัญญาประชาคมผูกใจเป็นหนึ่ง 2.คนไทยไม่ทิ้งกัน 3.ชุมชนอยู่ดีมีสุข4.วิถีไทยวิถีพอเพียง 5.รู้สิทธิ รู้หน้าที่ รู้กฎหมาย6.รู้กลไกการบริหารราชการแผ่นดิน 7.รู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม8.รู้เท่าทันเทคโนโลยี 9.ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดและ10.งานตามภารกิจของทุกหน่วยงาน

00 โครงการนี้จะเริ่มคิ๊กออฟในวันที่ 21 ก.พ.นี้โดยมีทีมขับเคลื่อนในระดับตำบลและชุมชน 7,663 ทีม ใน 83,151 พื้นที่เดินเท้าเคาะประตูบ้านทุกครัวเรือน ปรับทุกข์ ผูกมิตร กับประชาชนเพื่อวิเคราะห์ความเดือดร้อน ก่อนจัดทำข้อมูลแก้ปัญหาต่อไป

00 คนที่พูดเห็นภาพที่สุดคนหนึ่ง คือ วิษณุ ที่ยกคำตรัสของในหลวง ร.9 ที่ว่า 00 “เมื่อคนยังยากจนอยู่ จะขาดความรู้ ไม่รู้ถึงสิทธิ เสรีภาพและขาดประชาธิปไตย ดังนั้น หากลืมนึกถึงคำว่าสิทธิเสรีภาพ ให้คนจนกระโดดไปเรื่องประชาธิปไตยเลย การซื้อสิทธิ์ขายเสียงก็จะเจริญงอกงาม เพราะคนเต็มใจที่จะรับ”

00 นอกจากนั้น ยังฝากทีมขับเคลื่อน ให้ไปทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่อง ประชาธิปไตย ที่เปรียบเหมือนทุเรียน มีทั้งเปลือกและเนื้อใน 00 ถ้าพอใจแค่เปลือกหรือการเลือกตั้งก็จะได้แค่นี้ แต่เนื้อในอย่างการเคารพเสียงส่วนมาก การเคารพประชาชน การมีสิทธิ เสรีภาพ การมีวัฒนธรรมทางการเมือง ความรักชาติ ความเสียสละ ความมีระเบียบ ความมีวินัย ตรงนี้คือเนื้อหาของประชาธิปไตย

00 กลยุทธ์นี้ของรัฐบาลต้องบอกว่าน่าสนใจ ว่าจะแก้ปัญหาในระดับล่างสุดได้อย่างไร โดยเฉพาะความยากจน และการสร้างหลักคิดในที่ถูกต้องในเรื่องประชาธิปไตย 00 ถือเป็นไอเดียรัฐบาลคสช. ที่หวังแก้ปัญหาการเมืองที่หมักหมมมานาน ซึ่งต้นต่อที่แท้จริงอันหนึ่งก็มาจากปัญหาความยากจน

00 ดังนั้นโครงการไทยนิยม ยั่งยืน คงเป็นตัวชี้วัดฝีมือ “รัฐบาลคสช.” ได้ว่าจะรุ่งหรือร่วง และนั่นอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะใช้กำหนดวันเลือกตั้งก็เป็นได้

โดย... ซาไก

*** ชื่อเต็มเรื่อง: วัดฝีมือ “รัฐบาลคสช.” ผ่าน “ไทยนิยม” อาจเป็นปัจจัยกำหนด “เลือกตั้ง”