หรือเขาคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่กินแกลบ
ทำไมคนมีตำแหน่งแห่งหนมีเงินมีทองในบ้านเมืองนี้พูดอะไรแล้วพวกเขาคิดว่าคนไทยจะต้องเชื่อหรือครับ
ทำไมเขาคิดว่าคนไทยไม่ได้กินข้าวเหมือนพวกเขาหรือ
หรือเขาคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่กินแกลบ ถ้ามีฐานะในสังคม มีอำนาจ มีบารมีแล้ว จะแถลงอะไรอย่างไร มีเหตุผลหรือไม่อย่างไร ฟังขึ้นหรือไม่อย่างไรก็ได้ทั้งนั้นเพราะไม่มีใครทำอะไรเขาได้อย่างนั้นหรือ
ไม่ว่าจะเป็นกรณี "นาฬิกาหรู" “เงินยืมเพื่อน 300 ล้าน" หรือ “ซีอีโอล่าสัตว์” ที่เราได้ยินได้ฟังคำพูดจากผู้เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบนั้น สะท้อนว่าพวกเขาไม่สนใจความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ไม่ยอมรับว่าได้กระทำผิดใด ๆ
และที่สำคัญที่สุดคือไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนตาสีตาสาอย่างพวกเรา
เขาบอกว่าเขา “ยืมเพื่อนมา” เราก็ต้องเชื่อ
เขาบอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็ต้องเชื่อ
วลีทองที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” จึงดังก้องกังวานไปทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง
ยิ่งมีการเอ่ยว่า “เดี๋ยวให้ผู้ใหญ่มาเคลียร์กันได้” ก็ยิ่งตอกย้ำว่าคนไทยไม่ได้มี ความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน อย่างที่เป็นหลักการของบ้านเมืองที่มีขื่อมีแป
ยิ่งมีคนเอ่ย “อยากได้อะไรบอก เดี๋ยวจะส่งมาให้” ยิ่งยืนยันว่าคนทำผิดหลุดได้ในทุกกรณี เมื่อมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน
พูดแล้วบอกว่าไม่ได้พูดก็ได้
พูดแล้วบอกว่าไม่ได้มีเจตนาตามคำพูดนั้นก็ได้
พูดจาอะไรที่ดูถูกสติปัญญาของประชาชนก็อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่เนื้อหาแห่งพฤติกรรมไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
เพราะเขาเห็นว่าความรู้สึกของประชาชนไม่มีผลกระทบต่อการกระทำของเขา
เพราะความเหลื่อมล้ำแห่งสังคมไทยและการเลือกปฏิบัติมีกระจายอยู่ทั่วไปในทุกระดับชั้นของสังคมไทย
เพราะศรีธนญชัยใหญ่กว่าพันท้ายนรสิงห์
เพราะคนไทยถูกสั่งสอนว่า “รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”
และเพราะสังคมไทยยังยึดมั่นในระบบอุปถัมภ์
จึงทำให้เจ้าหน้าที่ที่เราคาดหวังว่าจะต้องปกป้องผืนป่าและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างซื่อสัตย์ต้องเจอกับ “แขกของนาย” ที่มี “ผู้ใหญ่ประสานมา”
และเมื่อเกิดการจับกุมและตั้งข้อหาก็ตามมาด้วยคำถามว่า ผู้ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาจะถูกย้ายหรือไม่ แทนที่จะเกิดความเชื่อมั่นว่าความยุติธรรมจะปกป้องคนซื่อสัตย์ต่อหน้าที่
เหตุแห่งความสงสัยคลางแคลงในความรู้สึกของประชาชนเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคดีที่กำลังเป็นข่าวร้อนแรง หากแต่เป็นเพราะตัวอย่างที่เคยเกิดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
คนมีตำแหน่ง มีเงิน มีฐานะ มีเส้นสายในสังคมไทยไม่เคยต้องรับผลกรรมของการกระทำที่จงใจละเมิดกติกาบ้านเมือง
กฎหมายทุกฉบับในประเทศนี้มี “ช่องว่าง” ช่วยเหลือคนเหล่านี้ได้เสมอ
ขณะเดียวกันกฎหมายทุกฉบับของประเทศนี้ก็สามารถหา “ประเด็น” ที่จะตีความเพื่อลงโทษพลเมืองไทยธรรมดาที่ไร้เส้นสาย ไร้อำนาจต่อรอง และไร้ฐานะได้เสมอเช่นกัน
ที่เราต้องทนฟังข้ออ้างและข้อแก้ตัวที่เหยียบย่ำความศักดิ์สิทธิ์แห่งกฎกติกาของบ้านเมือง การกระทำที่ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำของสังคมอย่างรุนแรงและหนักหน่วง และการไม่แคร์ความรู้สึกของคนเดินถนนใด ๆ เลยนั้นมีเหตุผลประการเดียวเท่านั้น
นั่นคือเขาเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่กินแกลบ