"ป้อม-ตู่" ทู่ซี้ คุกกี้เสี่ยงทาย...

เพราะภาวะ "ขาลง" มาจาก 2 เรื่องใหญ่ๆ ที่สองพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ "บิ๊กตู่" และ "บิ๊กป้อม" ต้องเร่งตัดสินใจ

หนึ่ง คือ ปัญหาทรัพย์สินที่ไม่ได้แจ้ง ป.ป.ช.ของ "บิ๊กป้อม" ทั้ง "แหวนเพชรแทงตา นาฬิกาสุดหรู" กับ สอง ปัญหาการใช้ "อภินิหารทางกฎหมาย" เลื่อนโรดแมพเลือกตั้งออกไป โดยที่ "บิ๊กตู่" เล่นบทลอยตัว ไม่รู้ไม่เห็น อ้างเป็นเรื่อง สนช. ทำเหมือนประชาชนกินหญ้า

ทั้ง 2 ปัญหาซ้ำเติมซึ่งกันและกัน หากไม่มีกรณี "นาฬิกาพี่ใหญ่" การเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกราว 2-3 เดือนก็คงไม่เจอกระแสต้านขนาดนี้ เช่นเดียวกัน หากไม่มีพฤติกรรม "ตระบัดสัตย์" เรื่องเลื่อนเลือกตั้ง มีแต่ปัญหาแหวนและนาฬิกา รัฐบาลก็อาจพลิกแพลงหาทางออกได้ง่ายกว่านี้มาก

เมื่อเจอมรสุมใหญ่ถึง 2 ลูกพัดกระหน่ำพร้อมๆ กัน จึงถึงเวลาที่ทั้ง "บิ๊กตู่" และ "บิ๊กป้อม" ต้องเล่นเกม "คุกกี้เสี่ยงทาย" ว่าจะเอาอย่างไรกับอนาคตของตนและรัฐนาวา

งานนี้ประเมินกันว่าแม้จะยอมเฉือนเนื้อเพื่อรักษาอวัยวะ คือให้ "บิ๊กป้อม" เสียสละยอมไขก๊อกพ้นเก้าอี้ไป ยังไม่รู้ว่า คสช.จะไปรอดหรือไม่ เพราะดูจะเลยเวลาแสดงสปิริตไปนานแล้ว

ฉะนั้นสิ่งที่ "บิ๊กตู่" ต้องทำควบคู่กัน ก็คือการออกมาประกาศ "โรดแมพเลือกตั้ง" ให้ชัด แล้วไม่บิดพลิ้วอีก และอาจต้องพ่วงด้วยสัญญาประชาคมว่า ตนเองจะไม่สืบทอดอำนาจ เหมือนที่ "นายกฯหลังรัฐประหารรุ่นพี่" อย่าง "บิ๊กแอ้ด" พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หัวขบวนรัฐบาลขิงแก่ เคยทำเอาไว้เมื่อปี 50

หากตัดสินใจทำทั้ง 2 เรื่องนี้ แม้เรทติ้งของรัฐบาลจะไม่เชิดหัวขึ้นเหมือนตอนหลังรัฐประหารใหม่ๆ แต่ก็น่าจะยังพอประคองสถานการณ์ไปสู่การเลือกตั้งได้ โอกาสเกิดม็อบบานปลายน่าจะไม่มี

แต่ถ้ายัง "ทู่ซี้-ดึงดัน" ใช้มาตรการทางกฎหมายกดความเคลื่อนไหวเอาไว้ ระวังจะเหมือนน้ำเดือดในกาที่ไม่มีช่องระบาย สุดท้ายมันจะระเบิดออก

และถึงวันนั้นเกม "คุกกี้เสี่ยงทาย" จะกลายเป็น "คุกกี้เสี่ยงตาย" การรัฐประหารจะไม่ใช่แค่ "เสียของ" แต่จะไม่เหลืออะไรให้คนไทยนึกถึงเลย!