เลือกตั้งไทยต้อง ดีกว่าอาเซียนอื่น!

เลือกตั้งไทยต้อง ดีกว่าอาเซียนอื่น!

เมื่อวานผมเขียนถึง “ประชาธิปไตย” ในอาเซียน และยืนยันว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยครั้งหน้าจะต้องพิสูจน์ว่าคุณภาพการเมืองไทย

จากนี้ไปจะต้องก้าวไปสู่แถวหน้าของภูมิภาคนี้

คำว่า “ประชาธิปไตยไทยนิยม” คงไม่ทำให้เราก้าวไปสู่ความเป็นชาติที่ภาคภูมิใจในความเป็นประเทศที่ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพและความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองอย่างโดดเด่น

เพราะยังไม่มีใครสามารถนิยามคำว่า “ไทยนิยม” ว่ามันคืออะไร

ยิ่งถ้าใครบอกผมว่าเราจะต้องมี “ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ” ก็ยิ่งจะสร้างความสับสนให้กับผู้คนหนักหน่วงขึ้น

เผลอ ๆ จะยิ่งเละไปกว่าเดิมอีก

เลือกตั้งไทยต้อง ดีกว่าอาเซียนอื่น!

เมื่อวานผมอ้างถึงประชาธิปไตยของเพื่อนบ้านมาเลเซีย กัมพูชา และฟิลิปปินส์ซึ่งต่างก็มีการเลือกตั้งทั้งสิ้น แต่ก็หนีไม่พ้นถูกวิพากษ์ว่าเป็นระบบ “รวมศูนย์อำนาจ” ไว้ที่พรรคการเมืองเดียว อีกทั้งผู้เห็นต่างก็ถูกกลั่นแกล้ง และกดดันในรูปแบบต่าง ๆ

พม่ามีการเลือกตั้งอย่างชัดเจนหลังจากถูกเผด็จการทหารปกครองมาหลายสิบปี แต่ทหารก็ยังมีอิทธิพลในรัฐบาลไม่น้อยโดยเฉพาะในประเด็นความมั่นคงจนทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงที่ยะไข่ทั้งที่เกี่ยวกับชาวโรฮิงญา และชาวพุทธที่เพิ่งจะมีการปะทะนองเลือดกับทหารพม่า

คนพม่าคงจะรู้สึกว่ามีสิทธิมีเสียงทางการเมืองมากขึ้นหลังจากการเลือกอองซาน ซูจีเป็นผู้นำคนใหม่ แต่หนทางสร้างชาติให้เกิดความก้าวหน้าและมั่นคงก็ยังอยู่ห่างไกล และที่หนักหนาสากรรจ์เป็นพิเศษคือการที่ยังไม่อาจจะสร้างความปรองดองในหมู่ชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ได้ทั้ง ๆ ที่การเลือกตั้งที่ผ่านมาควรจะมีเป้าหมายหลักคือการสร้างความสมานฉันท์ในหมู่ประชาชน

เวียดนามเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ มีพรรคเดียวและมีระบบการปกครอง “ประชาธิปไตย” แบบคอมมิวนิสต์ของเขา ประชาชนไม่มีสิทธิมีเสียงแสดงความเห็นขัดแย้งกับพรรคและรัฐบาลได้

ภาพรวมด้านการเมืองของอาเซียนทั้งหมดนี้ทำให้คนไทยต้องกระตุ้นให้เกิดความสำนึกไปทั่วประเทศว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้จะมีความหมายอันสำคัญยิ่ง

นั่นก็คือว่าเราจะต้องให้เกิดความมั่นใจว่าการหย่อนบัตรครั้งต่อไปนี้จะสามารถยกระดับคุณภาพการเมืองของไทยให้ก้าวไปจากการย่ำเท้าอยู่กับที่

ทำอย่างไรประเทศไทยจึงจะบอกกล่าวกับชาวโลกว่า การปฏิวัติรัฐประหารจะเป็นประวัติศาสตร์แล้ว และจะไม่เกิดขึ้นอีก

ทำอย่างไรจึงจะให้คนไทยทั้งหลายเชื่อมั่นว่าเราจะมีคนดีคนเก่งคนมีคุณภาพอาสามาทำงานการเมืองอย่างคึกคัก และจะไม่ยอมให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีอำนาจ และอิทธิพลในอันที่จะพาประเทศชาติไปในทิศทางเฉพาะที่พวกเขาต้องการเท่านั้น ไม่ว่าคนกลุ่มนั้นจะเป็นใครก็ตาม

ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่าไทยจะมีการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้นี้ แต่มาถึงจุดนี้ความพยายามใด ๆ ที่จะยื้อไปเรื่อย ๆ คงจะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนได้

ประเด็นใหญ่จึงอยู่ที่ว่าเราจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่สร้างสรรค์และพลิกประเทศไทยไปสู่เส้นทางแห่งความหวังได้อย่างไร