เรามาเตรียมตัวเลือกตั้งกันเถอะ!
ไม่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่ต่อคำมั่นสัญญาของ Roadmap ของ ค.ส.ช. ว่าด้วยตารางเวลาของวันเลือกตั้ง หรือใครจะยื้อให้ยืดต่อไปอีกอย่างไร
ท้ายที่สุดทหารก็ไม่อาจจะต้านแรงกดดันของการที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการ ที่ประชาชนคนไทยจะมีสิทธิเลือกตัวแทนของตนเข้าไปบริหารประเทศ
ดังนั้น ผมคิดว่าเราควรจะมาช่วยกันระดมสมองว่า จะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้านี้นำประเทศชาติสู่ความเป็นประชาธิปไตยกันอย่างจริงจังเสียที
ใครจะตีความคำว่า “ประชาธิปไตยไทยนิยม” อย่างไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า การหย่อนบัตรครั้งหน้านี้จะบริสุทธิ์ยุติธรรม และสะท้อนถึงความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่
คำนิยามของการเลือกตั้งที่ free and fair มีความสำคัญต่อความศรัทธาของประชาชนคนไทยต่อคำว่า “ประชาธิปไตย” อย่างยิ่ง
ดังนั้น หากการใช้สิทธิใช้เสียงครั้งหน้านี้ไม่มีการเตรียมการกันอย่างรอบด้าน หากประชาชนไม่รู้สึกว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันวงจรเก่า ๆ ก็จะหวนกลับมาหลอกหลอนเราอีก
ทุกภาคส่วนของสังคมไทยจึงควรจะต้องเริ่มรณรงค์ให้มีการถกแถลงกันถึงรายละเอียดของการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างพร้อมเพรียงและจริงจัง
ใครจะเห็นพ้องกับรายละเอียดของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ใครจะย้อนแย้งกติกาที่กำหนดไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้งอย่างไรก็จะต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเปิดเผย ต่อเนื่องและครบทุกมิติ
หากมองไปรอบบ้านเรา บรรยากาศการเมืองค่อนข้างอึมครึม เพราะส่วนใหญ่เป็นแนวโน้มไปสู่การ “รวมศูนย์อำนาจ” ไม่ว่าประเทศนั้นจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม
กัมพูชาและมาเลเซียกำลังจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่หากดูจากสภาพความเป็นจริงของการเมืองเพื่อนบ้านสองประเทศนี้ประชาชนของเขาก็ไม่อาจจะเชื่อว่าพวกเขาอยู่ใต้ระบอบ “ประชาธิปไตย” อย่างแท้จริง
นายกฯฮุนเซนของกัมพูชากุมอำนาจไว้เกือบเบ็ดเสร็จ พรรคฝ่ายค้านถูกกลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่าง ๆ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน หนีไปอยู่ต่างประเทศ กลุ่มคนที่เห็นต่างกับฮุนเซนถูกกดดันอย่างรุนแรง
สำหรับคนเขมรแล้ว การเลือกตั้งครั้งหน้าของกัมพูชามีทางเลือกเพียงพรรครัฐบาลที่ครองอำนาจมากว่า 30 ปีหรือพรรคเล็กพรรคน้อยที่ต้องสวามิภักดิ์ต่อพรรครัฐบาลอยู่ดี
มาเลเซียถูกปกครองด้วยระบอบพรรคใหญ่พรรคเดียวคือ UMNO มาตลอดหลายสิบปีเช่นกัน แม้จะมีการเลือกตั้ง แต่เสียงของพรรคฝ่ายค้านก็ไม่อาจตรวจสอบเรื่องราวอื้อฉาวเกี่ยวกับคอร์รัปชั่นใหญ่ ๆ หลายเรื่องเพราะอำนาจไปกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มการเมืองกลุ่มเดียว
แม้อดีตนายกฯมหาธีร์ในวัย 92 จะพยายามหวนคืนมาเพื่อโค่นนายกฯนาจิบ ราซัค และการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นมาเร็ว ๆ นี้ก็ไม่ได้ให้ความหวังกับประชาชนคนมาเลเซียว่าความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ
ฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ซึ่งเป็นขวัญใจประชาชนจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ก็มีแนวโน้มจะมุ่งไปสู่การรวบอำนาจในตัวผู้นำคนเดียว สื่อที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกำลังถูกเพ่งเล็งและกลั่นแกล้ง เว็บไซต์ข่าวที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาชื่อ Rappler เพิ่งถูกปิดไปด้วยข้ออ้างกฎหมายที่คนทำข่าวรู้ว่าเป็นกระบวนการปราบคนที่ไม่อยู่ข้างเดียวกับรัฐบาลอย่างเป็นระบบ
ดูเหมือนในอาเซียนจะมีอินโดนีเซียประเทศเดียวที่ยังดูเหมือนว่าประชาชนจะมีความภาคภูมิใจได้ว่ายังมีความเป็นประชาธิปไตยในความหมายที่ให้ความสำคัญกับเสียงของคนเล็กคนน้อย
ไทยเราอยู่ใต้การปกครองของทหาร จึงเข้าข่ายเป็นประเทศไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างปฏิเสธไม่ได้
ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ ผมจึงคิดว่าคนไทยจะต้องมีความพร้อมเพรียงในการเตรียมตัวเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งใหม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยอย่างแท้จริง!