“อีสานใหม่” กับการปฏิวัติสู่ความเป็นเมือง

“อีสานใหม่” กับการปฏิวัติสู่ความเป็นเมือง

มื่อไม่นานมานี้ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านการเมือง

และที่ปรึกษาศูนย์ศึกษามหานครและเมือง วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ขึ้นบรรยายในงานสัมมนาวิชาการ เรื่อง พลวัตเมืองภูมิภาคกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า คนไทยมักคิดว่าความเป็นไทยแท้คือความเป็นชนบท  ไม่ค่อยวางใจกับเมือง ไม่ค่อยสนิทใจกับเมือง รู้สึกว่าเมืองเป็นของเทศ ไม่ใช่ของไทย เป็นของเทศที่ไทยเอาเข้ามาทำ 

พวกเราโดยเฉพาะคนในยุคผมมักมองเมืองแบบไม่ค่อยวางใจ แต่ในความเป็นจริง เมืองโตขึ้นทุกวัน แต่น้อยคนที่จะนำเสนอเรื่องเมือง เรื่องชนชั้นกลาง เรื่องการกลายเป็นเมือง อีกทั้งการศึกษาเรื่องเมืองมักจะมีแต่งานศึกษาเกี่ยวกับข้อบกพร่อง ปัญหาคนจน ปัญหาสามล้อ ปัญหาโสเภณี ปัญหาสลัม 

นักวิชาการเรื่องเมืองจึงศึกษาเรื่องเมืองจากปัญหากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็สอดรับกับอารมณ์ความรู้สึกของคนไทยในช่วงที่ผมเป็นหนุ่มจนถึงวัยกลางคนตอนต้น ที่คนมักมีความรู้สึกว่าเมืองเต็มไปด้วยปัญหา

เวลานี้ประเทศไทย เมืองใหญ่กว่าชนบทแล้ว จะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม เมืองโตวันโตคืน เพราะฉะนั้น โลกทัศน์และมุมมองของเราที่ยังมองว่า เมืองเป็นปัญหา เมืองไม่ใช่ของเรา เมืองเป็นของที่ทุนนิยมวางไว้ให้เรา และกดลงมาที่เรา เมืองเกิดจากระบบโลก ผมคิดว่า นั่นคืออุปสรรคทางความคิด 

ผมแนะนำว่าควรจะสลัดทิ้งให้มาก เพราะโลกเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน 

ณ เวลานี้โลกเรา เมืองมากกว่าชนบทแล้ว สมมติถ้าโลกเรามีอายุ 365 วัน ถึงชนบทจะมากกว่าเมืองมา 364 วัน แต่วันที่ 365 เมืองเริ่มใหญ่กว่าชนบทแล้ว เพราะฉะนั้น ข้อเท็จจริงก็เป็นเช่นนี้ รับรู้กันอย่างนี้กันทั้งโลก ความเป็นจริงมันกำลังเปลี่ยน

สำหรับอีสานนั้น วันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว อีสานใหม่กำลังปรากฏขึ้นมา ปรากฏการณ์การเป็นเมืองเวลานี้เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติการเป็นเมือง (Urban Revolution) ที่ใช้คำว่า Revolution เพราะว่าเปลี่ยนวิถีชีวิตมาก

อีสานเป็นบริเวณที่เมืองใหญ่มากเหลือเกิน ยกเว้นกรุงเทพฯ กับปริมณฑลแล้ว เมืองใหญ่ของอีสาน นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ใหญ่ทั้งนั้น มหาสารคามก็น่าสนใจมาก เพียงแค่สองอำเภอ คือ อ.เมือง กับอ.กันทรวิชัย มีประชากรนักศึกษาประมาณ 7-8 หมื่นคน กลายเป็นเมืองมหาวิทยาลัยแล้ว 

แต่ในกรอบคิดของเรายังไม่มีกรอบคิดแบบนี้ เราก็ยังมองมหาสารคามเป็น 2 เทศบาล 2 อำเภอ แนวคิดของราชการก็คงยังต้องใช้แบบเดิม แต่ถ้าเราไปใช้แต่ศัพท์แสงของวิชาการของทางการมันจะช้ากว่าความเป็นจริง อีกทั้งศักยภาพของเมืองในภาคอีสานสูงมาก สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่าประชากรภาคอีสานมีจำนวนมาก แค่ประชากรอย่างเดียวก็ทำให้เมืองเล็กไม่ได้แล้ว

เมืองในอีสาน ถึงแม้ว่าความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจหรือเทคโนโลยียังไม่สูงเท่าเมืองในภาคตะวันออก แต่ว่าลำพังแค่ประชากรกับภาคเกษตรก็ทำให้เมืองใหญ่มากแล้ว อีกทั้งในสมัยก่อน การเคลื่อนแรงงานจากชนบทในอีสานเข้าไปอยู่ในกรุงเทพ แล้วส่งเงินจากการทำงานในเมืองกลับมายังภาคอีสาน แล้วคนภาคอีสานก็เข้าไปใช้บริการในเมือง ทำให้เมืองในภาคอีสานใหญ่มากไปอีก

“อีสานใหม่” กับการปฏิวัติสู่ความเป็นเมือง

การพัฒนาเมืองในอีสานยังมีอนาคตอีกมาก  และน่าจะโตเพิ่มอีกด้วยอีก 2 สาเหตุ 

ประการแรก คือ หลั่นล้าอีโคโนมี หมายถึง เศรษฐกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว การให้บริการเชิงสร้างสรรค์ เป็นเศรษฐกิจที่ว่าด้วยน้ำใจ ความห่วงใย ความสนุก การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงศิลปวัฒนธรรม 

ผมว่าเศรษฐกิจลักษณะนี้ เราควรจะต้องเรียนรู้จากภาคอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอีสานจะต้องไปดูไปเรียนรู้จากภาคเหนือเป็นหลัก ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ที่เราเรียกว่า “ล้านนา” มีเศรษฐกิจหลั่นล้าอีโคโนมีที่พอเลี้ยงตัวเองได้ทุกจังหวัด 

จังหวัดที่มีเศรษฐกิจเชิงท่องเที่ยวติดอันดับโลกก็คือ จ.เชียงใหม่ แต่ก็กินมาจนถึงลำพูน เชียงรายด้วย สามจังหวัดนี้เป็นเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่มีเศรษฐกิจหลักมาจากการท่องเที่ยวมากขึ้นทุกที 

แม้ภาคเกษตรจะยังมีความสำคัญเช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรม แต่ภาคที่โดดเด่นในล้านนาตอนบน คือ ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ตอนนี้หลั่นล้าอีโคโนมีสูงถึงร้อยละ 20 ของรายได้ประชาชาติแล้ว ในขณะที่เกษตรมีเพียงร้อยละ 8 อุตสาหกรรมร้อยละ 30

อีสานใหม่จะทำเศรษฐกิจแบบหลั่นล้าได้แน่ ดูจากเพลงฮิตของไทย หรือท่ารำที่ฮิตของไทย หรืออาหารที่ฮิตของไทย ที่เป็นระดับประเทศ เป็นของอีสานหมด

รำที่เป็นชั้นสูงของภาคเหนือไม่เป็นที่ยึดกุมของมวลชนของประชาชน แต่เซิ้ง หมอลำ เพลงลูกทุ่ง แจ่ว ส้มตำ ไก่ย่าง กลายเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของคนไทยทั้งประเทศ เพราะฉะนั้น ผมคิดว่า เรามีศักยภาพอยู่ เพียงแต่ว่าต้องเปลี่ยนให้เป็นความเป็นจริงให้มากขึ้น ต้องทำให้เป็นการท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงขึ้น คุณภาพสูงขึ้น

ประการที่สอง เมืองในอีสานเป็นเมืองสำคัญและจะโตต่อไป 

โอกาสใหม่ๆ จะได้มาจากการท่องเที่ยวและรถไฟความเร็วสูงจาก นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) จีนเข้าสู่ประเทศไทยด้วยรถไฟความเร็วสูงและทางหลวงผ่านอีสาน ไม่ใช่ภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมืองหนึ่งซึ่งจีนพูดถึงอยู่เสมอ คือ เมืองขอนแก่น เพราะฉะนั้น รถไฟความเร็วสูงก็จะมาที่หนองคาย จากหนองคายก็ผ่านจังหวัดอื่นๆ แล้วมาที่ขอนแก่นซึ่งเป็นชุมทางใหญ่ 

จากขอนแก่นก็จะเข้าไปที่โคราช จากโคราชก็จะเข้าไปที่กรุงเทพฯ รถไฟความเร็วสูงจะพาคนจีนให้มาเมืองไทยมากขึ้น รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนด้วยที่จะผ่านอีสาน เพราะฉะนั้น อีสานจะไม่ได้รองรับแค่นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยและฝรั่งแล้ว แต่จะต้องรองรับนักท่องเที่ยวจากจีนด้วย 

เราต้องคิดว่า จะทำอย่างไรที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากจีนหยุดลงเที่ยวที่อีสานให้มาก หรือก่อนจะกลับประเทศจีนก็หยุดที่อีสานให้มาก

โดย... ศูนย์ศึกษามหานครและเมือง วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต