2020 SCB Vision ส่งสัญญาณเตือนถึงทุกองค์กร

2020 SCB Vision ส่งสัญญาณเตือนถึงทุกองค์กร

เมื่อวานผมเขียนถึงคำประกาศการปรับตัวของบริษัทโทรคมนาคมยักษ์อย่าง AIS ผ่านซีอีโอ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ได้อย่างน่าสนใจแล้ว

ในวันเดียวกันนี้เอง ซีอีโอของธนาคารยักษ์คือไทยพาณิชย์คุณอาทิตย์ นันทวิทยาก็สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศ 2020 SCB Vision

หรือทิศทางการปรับตัวอย่างหนักหน่วงรุนแรงเร่งร้อนของธนาคารเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยแห่งนี้ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ทุกวันนี้ไม่มีใครพูดถึงแผน 5 ปี หรือ ยุทธศาสตร์ 10 ปี กันแล้วเพราะทุกอย่างผันแปรได้ทุก 3-6 เดือน!

ต้องถือว่าเป็นความชัดเจน และกล้าหาญ ของคุณอาทิตย์ที่บอกกล่าวกับประชาชนว่าหากไม่ปรับไม่เปลี่ยน สถาบันการเงินแห่งนี้จะเผชิญกับวิกฤติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เทคโนโลยีที่ว่านี้มาในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Blockchain หรือ fintech หรือ เงินสกุลดิจิทัล ไปถึง AI และ machine learning ล้วนแล้วแต่มีสิทธิที่จะทำให้องค์กรธุรกิจ ที่ไม่ปรับตัวต้องถึงกับสูญพันธุ์ได้ง่าย ๆ

รายได้ของธนาคารจากส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ก็กำลังหดหาย และสิ่งที่เรียกว่า “ค่าธรรมเนียม” จากบริการทั้งหลายก็จะกลายเป็นเรื่องอดีต เพราะเทคโนโลยีสามารถทำให้การโอนเงินและกิจกรรมที่เกี่ยวกับการเงินการทองไม่ต้องมีค่าบริการอะไรอีกต่อไป

2020 SCB Vision ส่งสัญญาณเตือนถึงทุกองค์กร

คุณอาทิตย์ นันทวิทยา ใช้ห้องประชุมมหิศรของธนาคารเองประกาศทิศทางใหม่ใน 3 ปีข้างหน้า อย่างจะแจ้งเช่นภายในปี 2020

SCB จะลดสาขาจาก 1,200 เหลือเพียง 400 สาขา

จำนวนพนักงานจะหดตัวลงจาก 27,000 คนในวันนี้เหลือ 15,000 คน (ทั้งนี้รวมพนักงานที่จะเกษียณอายุด้วย)

แต่คุณอาทิตย์ไม่ลืมที่จะตอกย้ำว่าการทำให้โครงสร้างองค์กรเล็กลงนั้นเป็นเพียงในมิติของโครงสร้างบุคลากรและพื้นที่ทำงานเท่านั้น

แต่จะ ‘ใหญ่ขึ้นในใจลูกค้า’

เพราะหัวใจของความสำเร็จในยุคแห่งความ “ระส่ำ” (disruption) นั้น การตระหนักตลอดเวลาถึง ความต้องการของลูกค้า และการปรับบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเท่านั้น ที่จะกำหนดถึงโอกาสของความอยู่รอดขององค์กรนั้น ๆ

คุณอาทิตย์ย้ำว่าภายใต้ทิศทางใหม่นี้จะไม่มีการปลดพนักงานหรือ Lay Off ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังจะรับพนักงานใหม่ๆ เพิ่มอีก

เพราะพนักงานใหม่ที่มีทักษะ และความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิทัศน์ใหม่ของธุรกิจการธนาคารเท่านั้น ที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับธนาคารภายใต้การที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายหลายด้านพร้อม ๆ กัน

คุณอาทิตย์ยืนยันแนวทางใหม่นี้จะไม่กระทบขวัญและกำลังใจของพนักงานและขออย่าให้ใครต้องขวัญเสีย และจะพัฒนาพนักงานให้เคลื่อนย้ายไปสู่ศูนย์บริหารความมั่งคั่งSCB Investment Center และหน่วยงานอื่น ๆ ในธนาคารที่ปรับตัวให้ทันกับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นและจะปรากฏตัวในวันข้างหน้า

ที่สำคัญคือการทำให้แบงก์ไทยพาณิชย์กลายเป็น Platform ที่ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าจำนวนหลายล้านคนที่จะได้รับบริการดีกว่าเดิม

ที่เรียกขานกันในภาษาสมัยนี้ว่า experience หรือประสบการณ์ที่นำมาซึ่งความสุขและสะดวกสบาย

ไม่ต้องสงสัยว่าต่อแต่นี้ไปธนาคารจะมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน Social Media และ Applications รวมถึงช่องทางดิจิทัลอื่น ๆ ที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป

คุณอาทิตย์สร้างความฮือฮาพอสมควร เมื่อเขาประกาศในงานว่า ถ้าเขาในฐานะผู้บริหารสูงสุดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ก้าวข้าม Digital Disruption ได้ภายในปี 2020

ก็จะทำ “ฮาราคีรี” ตัวเองโดยการลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

ความเคลื่อนไหวของซีอีโอธนาคารยักษ์ครั้งนี้ ต้องถือว่าเป็นการเขย่าวงการอย่างแรงเพราะเป็นการส่งสัญญาณว่าไม่มีใครใหญ่เกินไปที่จะล้มได้

Never too big to fail!

จากนี้ ผมรอฟังการประกาศยกเครื่องขององค์กรธุรกิจน้อยใหญ่กลางเล็กท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำจากทุกทิศ

ขอให้กำลังใจผู้บริหารและพนักงานทุกองค์กรในการฟันฝ่าวิกฤตไปพร้อม ๆ กันเพราะความอยู่รอดของเอกชนคือความหวังของประเทศชาติที่จะฝ่าข้ามวิกฤติจริง ๆ