อย่าลืมว่าประเทศนี้... ยังมีประชาชน!

เพราะคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/60 เขียนหมกเม็ดเอาไว้แบบนั้น

หน้าฉากของคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/60 อ้างว่าออกมาเพื่อ "ปลดล็อก" ผ่อนปรนเงื่อนไขตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นการ "เสริมล็อก" ให้พรรคการเมืองขยับตัวยากขึ้น ช้าขึ้น และสุดท้ายก็ต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไป

เพราะคำสั่งนี้ระบุให้พรรคการเมืองจัดประชุมใหญ่ได้ ก็ต่อเมื่อมีการยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.ที่ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรม โดยประกาศและคำสั่ง คสช.จะถูกยกเลิก ก็ต่อเมื่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งโดยนัยย่อมหมายถึง “มีผลบังคับใช้” และให้เวลาพรรคการเมือง 90 วัน ดำเนินการทางธุรการต่างๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งล้วนเป็นเรื่องยากๆ ทั้งสิ้น

ขณะที่รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า เมื่อ พ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับมีผลบังคับใช้ ก็ให้จัดเลือกตั้งทั่วไปภายใน 150 วัน

นี่คือ "บ่อ" ที่คสช.ขุดล่อเอาไว้ เพราะเมื่อเงื่อนเวลาเป็นไปอย่างที่อธิบาย ก็หมายความว่า ห้วงเวลา 90 วันที่พรรคการเมืองจะต้องยุ่งกับการดำเนินการทางธุรการต่างๆ มันเหลื่อมซ้อนกับห้วงเวลา 150 วันที่ต้องจัดเลือกตั้งทั่วไป จุดนี้ทำให้ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. "สบช่อง" ในการอธิบายว่าเกรงพรรคการเมืองจะลำบาก ดำเนินการไม่ทัน จึงขยายห้วงเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 90 วัน ทำนองว่างานนี้ทำเพื่อประโยชน์พรรคการเมือง

หากมองเกมนี้ตั้งแต่ต้นเรื่อง จะเห็นได้ว่านี่คือจังหวะก้าว "เลื่อนเลือกตั้ง" ของ คสช. เพราะต้นเหตุของปัญหาที่ต้องมาใช้ "อภินิหารทางกฎหมาย" ทั้งคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/60 และยืดเวลาบังคับใช้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ก็ล้วนมาจาก คสช.เองที่ไม่ยอมปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม ทั้งๆ ที่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว

ท่านมีอำนาจในมือ แต่ทำแบบไม่เห็นหัวประชาชนแบบนี้ ขอให้กลับไปดูผลโพลล์ล่าสุดให้ดีๆ และระวังอำนาจร้อนๆ จะลวกมือ!