ยกหนึ่ง ปูตินให้คิมชนะทรัมป์!
ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินบอกว่า “ยกนี้คิม จองอึนชนะ”
ผมเห็นด้วยทันทีว่าโดนัลด์ ทรัมป์ แพ้ผู้นำเกาหลีเหนือแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
ล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐคนนี้บอกว่า “ผมมีความสัมพันธ์อันดีกับคิม จองอึน”
หลังจากที่ยกหูโทรศัพท์ไปคุยกับประธานาธิบดีมูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ บอกว่า สหรัฐอาจจะพร้อมเจรจากับเกาหลีเหนือ “ในจังหวะที่เหมาะ และบรรยากาศที่ใช่”
ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า ตัวเขาเองก็อาจจะพร้อมเจอกับคิมได้เหมือนกัน ถ้าจังหวะและบรรยากาศดี
ทั้งๆ ที่คิมจองอึนยังไม่ได้แสดงท่าทีพร้อมจะนั่งลงคุยกับอเมริกาเลยแม้แต่แอะเดียว
ทรัมป์เคยประกาศเงื่อนไขมาตลอดว่าอเมริกาจะไม่มีวันพูดคุยกับคิมได้ หากไม่ยอมยุติการทดลองขีปนาวุธและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
คิมยืนยันมาตลอดเช่นกันว่า จะไม่มีวันยอมระงับการสร้างอาวุธร้ายแรง เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะสกัดไม่ให้วอชิงตันใช้กำลังในการเข้ามาข่มขู่คุกคามตนเอง
ทรัมป์เคยบอกรัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สันของตัวเองว่า “อย่าเสียเวลา” ไปคิดพูดจากับเกาหลีเหนือเลย เพราะวิธีเดียวที่จะทำให้เปียงยางยอมก็คือการกดดันด้วยการคว่ำบาตรเท่านั้น
แต่ผ่านมาได้ไม่นาน ทรัมป์เองกลับเป็นคนบอกว่าอเมริกาพร้อมจะเจรจา และไม่ได้สำทับว่าจะต้องมีเงื่อนไขที่ให้เกาหลีเหนือเลิกการพัฒนานิวเคลียร์เสียก่อน
อย่างนี้จะไม่ให้ปูตินฟันธงว่ายกนี้คิมชนะทรัมป์ได้อย่างไร
คิมจองอึนฟอร์มเหนือกว่าทรัมป์อย่างเห็นได้ชัด
ในคำปราศรัยวันปีใหม่ คิมประกาศว่า “ปุ่มนิวเคลียร์อยู่บนโต๊ะผมตลอดเวลา”
ทรัมป์โต้ด้วยการทวีตว่า “ผมก็มีปุ่มนิวเคลียร์ ของผมใหญ่กว่าและมีพลังสูงกว่าเยอะ และปุ่มผมนี่ทำงานด้วย”
เหมือนจะปรามาสว่าปุ่มนิวเคลียร์ของคิมกดแล้วจะทำงานหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่ในคำปราศรัยเดียวกันนั้น คิมยื่นไมตรีมาให้เกาหลีใต้ บอกว่าปีใหม่นี้เกาหลีทั้งสองมีเรื่องที่ต้องเฉลิมฉลองกันทั้งคู่
เพราะเป็นปีครบ 70 ปีของการก่อตั้งเกาหลีเหนือ
และเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว
คิมถือโอกาสแสดงความพร้อม ที่จะส่งคณะเจรจาไปคุยกับเกาหลีใต้ เพื่อส่งนักกีฬาและกองเชียร์ไปร่วม ยืนยันความพร้อมที่จะหาทางออกต่อวิกฤติคาบสมุทรเกาหลีด้วยกัน
โดยที่เกาหลีใต้จะต้องไม่ให้สหรัฐเข้ามาแทรกแซงหรือบงการ
มูน แจ อินกระโดดรับข้อเสนอการเจรจาทันที กำหนดวันประชุมอย่างเร่งด่วน วันที่ 9 ม.ค. ก็มีการประชุมของทั้ง 2 ฝ่ายที่เส้นขนาน 38 หรือ เขตปลอดทหาร Demilitarized Zone (DMZ)
เป็นการพบปะของ 2 เกาหลีเป็นครั้งแรกใน 2 ปี และแน่นอน เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก
การเจรจาได้ผลเกินคาด เพราะเดิมคาดว่าจะเป็นการพูดจาเรื่องกีฬาอย่างเดียว แต่ดูเหมือนทั้ง 2 ฝ่ายจะรู้ว่านี่เป็นโอกาสทอง ที่จะต้องระบุหัวข้อเรื่องความมั่นคง และ ทางทหาร ด้วย
จึงเกิดข้อตกลงที่สร้างความฮือฮาไม่น้อย นั่นคือ การเปิดสายด่วนฉุกเฉิน หรือ hotline ระหว่างเกาหลีเหนือกับใต้หลังจากถูกปิดตายไป 2 ปี
เหมือนเด็กขี้โม้ ทรัมป์ประกาศเกือบจะทันทีว่า “นี่ถ้าผมไม่กดดันคิมจองอึนอย่างหนัก มีหรือที่เขาจะยอมมาเจรจากับทางใต้”
คิมจองอึนยังรักษาฟอร์มของตน ไม่ตอบโต้ทรัมป์ ไม่ทดลองขีปนาวุธในช่วงนี้
ทรัมป์กับมูน แจ อินต่างหากที่ต้องยอมตามเงื่อนไขของเกาหลีเหนือ นั่นคือเลื่อนการซ้อมรบไปจนกว่าหลังกีฬาโอลิมปิก
เท่ากับว่าคิมไม่ได้ยอมอะไรเลย ขณะที่ทรัมป์ถอยไป 2-3 ก้าว
ยกแรก กรรมการชื่อปูตินให้คะแนนคิมเต็มๆ ยกสองยังไม่แน่ว่าทรัมป์จะมีหมัดเด็ดอะไรที่จะเอาคะแนนคืน
แต่ฟอร์มของคิมน้อยดูดีวันดีคืน
แค่ทรัมป์ยอมขึ้นเวทีเดียวกัน คิมก็เก็บคะแนนไปได้เยอะแล้ว!