อิหร่านแลกหมัดซาอุฯ ‘ฮิตเลอร์’ ปะทะ ‘เผด็จการ’

อิหร่านแลกหมัดซาอุฯ ‘ฮิตเลอร์’ ปะทะ ‘เผด็จการ’

เมื่อวานเขียนถึงความระหองระแหงระหว่าง อิหร่านกับซาอุดีอาระเบีย ซึ่งอาจบานปลายกลายเป็นสงครามได้ หากไม่หาทางแก้ปัญหาที่ต้นตอ

เพราะนี่อาจจะเป็นสงครามตัวแทนของมหาอำนาจ ที่มี อเมริกาหนุนซาอุฯ ด้านหนึ่ง และ จีนกับรัสเซียที่อยู่ข้างอิหร่านอีกข้างหนึ่ง

เมื่อไม่นานมานี้ ก็เกิดการแลกหมัดด้วยวาทะร้อนๆ ระหว่างสองประเทศ ที่ทำท่าจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ใช่การบาดหมางระหว่างเพื่อนบ้านเรือนเคียงแบบธรรมดาแล้ว

อิหร่านแลกหมัดซาอุฯ ‘ฮิตเลอร์’ ปะทะ ‘เผด็จการ’

ทั้งสองประเทศเปิดศึกวิวาทะข้ามประเทศอย่างเผ็ดร้อน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เรียกเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ว่า “เผด็จการ” หลังจากมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียขานชื่อ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านว่า “ฮิตเลอร์แห่งตะวันออกกลาง”

นายบาห์รัม กาเซมี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านบอกว่า พระราชดำรัสล่าสุดของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย สะท้อนพระราชจริยวัตรที่ “อ่อนหัด โง่เขลา และไร้ค่า” ไม่ควรที่ใครใครจะให้ความสำคัญได้

รัฐบาลเตหะรานบอกให้ผู้นำซาอุฯ เรียนรู้ชะตากรรมทางการเมือง ของผู้นำประเทศหลายๆ ชาติในตะวันออกกลางที่เป็นเผด็จการเป็นตัวอย่างที่อาจจะนำไปสู่หายนะ

อีกทั้งยังเตือนว่าหากซาอุฯ ยังเดินหน้าแทรกแซงกิจการภายในของเลบานอน ก็จะต้องเจอกับปัญหาสำหรับทั้งซาอุฯ และพันธมิตรทั้งหลาย

นี่เป็นคำตอบโต้จากกระทรวงต่างประเทศอิหร่านที่ระเบิดขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐตีพิมพ์บทสัมภาษณ์เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดี อาระเบีย (ควบตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมด้วย)

ผู้นำซาอุฯไม่ลังเลที่ประกาศว่าจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับอิหร่านที่กำลังขยายอิทธิพลในภูมิภาค

“ซาอุดีอาระเบียไม่ต้องการให้ฮิตเลอร์ในอิหร่านทำกับตะวันออกกลาง เหมือนที่ฮิตเลอร์เคยทำกับยุโรปมาแล้ว”

นี่คือถ้อยประโยคร้อนแรงทำให้อิหร่านไม่อาจจะนิ่งอยู่เฉยได้

ในบทสัมภาษณ์นั้นมีการกล่าวอ้างถึงการสู้รบในเยเมนด้วย

นั่นเป็นสมรภูมิที่ซาอุฯได้เปิดฉากถล่มทางอากาศหลายพันครั้งตลอด 2 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา

เป้าหมาย คือ การปราบปรามกลุ่มฮูธี ที่ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมนและได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

มกุฎราชกุมาร ซาอุดีอาระเบีย ตรัสว่า ซาอุฯ กำลังได้เปรียบ เพราะซาอุฯ และพันธมิตรสามารถควบคุมพื้นที่เยเมนได้แล้วถึง 85%

แม้จะไม่เป็นข่าวมากนัก แต่สงครามในเยเมนมีความโหดร้ายมาตลอด ศึกสงครามที่นั่นทำให้มีผู้คนล้มตายแล้วร่วมหมื่นคน

กลุ่มฮูธีที่ยังยึดเมืองใหญ่ ๆ ไว้ได้ใช้ขีปนาวุธนำวิถีพุ่งเป้ามายังสนามบินหลักในกรุงริยาดห์ของซาอุดีอาระเบียเมื่อเร็ว ๆ นี้

ซาอุดีอาระเบีย ไม่รีรอที่จะชี้นิ้วไปที่อิหร่านว่า เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง และซาอุฯจะไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยเป็นอันขาด

ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับซาอุฯ จึงไม่ใช่เพียง “สงครามน้ำลาย” อย่างเดียว เพราะการเผชิญหน้าของ 2 ประเทศยักษ์ในตะวันออกกลางกำลังทำท่าจะพันตูกันด้วยอาวุธร้ายแรง ที่มีเดิมพันสูงระดับโลก

2 จุดเดือดของโลกวันนี้ จึงอยู่ที่เกาหลีเหนือและอิหร่านเป็นสำคัญ อย่าคลาดสายตาเป็นอันขาด!