โรงลิเก... ประวิตรและเพื่อน

โรงลิเก... ประวิตรและเพื่อน

ด้ฟังคำตอบแบบ "ไม่ค่อยอยากจะตอบ" ของเลขาธิการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับทรัพย์สินของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ไม่ว่าจะเป็น "แหวนเพชรแทงตา" หรือ"นาฬิกาสุดหรู" ในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็พอมองเห็นภาพลางๆ แล้วว่า คำชี้แจงดราฟท์สุดท้ายของ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" เรื่องทรัพย์สิน 2 รายการนี้จะออกมาอย่างไร

หลักๆ ก็คือ อ้างว้าแหวนเพชรเม็ดโต สะท้อนแดดวิบวับ ราคาไม่ถึง 2 แสน! จึงไม่ต้องรายงาน ป.ป.ช. ส่วนนาฬิกาสุดหรูก็เป็นการ "ยืมเพื่อนมาใส่"

เรื่องแหวน ป.ป.ช.เรียกหลักฐานเพิ่ม เป็นใบเสร็จแสดงราคาที่ซื้อมา ส่วนเรื่องนาฬิกา ป.ป.ช.ทำท่าจะเชื่อตามที่ "บิ๊กป้อม" ชี้แจง เพราะมีการหลุดคำว่า "ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์และความไว้เนื้อเชื่อใจ"

ใครที่ได้อ่านข้อเขียนเรื่อง "ปีใหม่ กับสิ่งที่คาดไม่ถึง" ของ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ศาสตราภิชานมหาวิทยาลัยรังสิต และนักจัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ตอนหนึ่งท่านได้เขียนถึง"ผู้ที่ถูกกล่าวหานาฬิกาหรูซึ่งกำลังถูกตรวจสอบเรื่องปกปิดบัญชีทรัพย์สิน" ท่านทำนายเอาไว้ว่า "จะรอดความผิดตามกฎหมาย เพราะอ้างซื้อมา-ขายไป / ยืมมา-คืนไป /บางรายการก็ไม่รู้ว่าเป็นของปลอม–ของจริง และตอนนี้ ก็ยังไม่ถึงเวลาแจงบัญชีทรัพย์สิน..."

นี่คือ "ช่องรอด" ที่ทำให้พ้นเงื้อมมือกฎหมาย โดยเรื่อง "แหวน" ไม่ต้องสนใจว่าได้มาเมื่อไร เพราะราคาไม่ถึง 2 แสน ยังไงก็ไม่ต้องรายงาน หนำซ้ำอาจจะอ้างว่าได้มานานมากแล้ว เพื่อที่จะบอกว่าหาใบเสร็จไม่เจอ ส่วน "นาฬิกา" เมื่อไม่ได้เป็นผู้ครอบครอง หรือผู้ถือกรรมสิทธิ์ แค่ยืมมาใส่ แบ่งๆ กันใส่ หรือ "ฝากขาย" ก็ไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน

แต่คำชี้แจงแบบนี้ สังคมจะเชื่อหรือไม่ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้า ป.ป.ช.เชื่อ และไม่พยายามแสวงหาข้อมูลเพื่อให้ประชาชน "สิ้นสงสัย" ก็น่าเชื่อว่า ป.ป.ช.กำลังทำตัวเป็นสมาชิกโรงลิเกกับเขาด้วย เพราะ "บิ๊กๆ" ใน ป.ป.ช.เป็นคนของใคร สังคมก็รู้กันทั่ว

และนี่คือสาเหตุที่ไม่ถูก "เซ็ตซีโร่" หรือแม้แต่ "รีเซ็ต" ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญเขียนคุณสมบัติใหม่เอาไว้ชัด ยิ่งกว่าแสงจากแหวนเพชรแทงตา นาฬิกาแทงใจเสียอีก!