คาตาโลเนียไม่ใช่สเปน--แต่ไม่มีสิทธิเอกราช! (1)

คาตาโลเนียไม่ใช่สเปน--แต่ไม่มีสิทธิเอกราช! (1)

เมื่อประมาณ 600 ปีก่อนคริสตกาล ชาวกรีกเป็นพวกแรกที่เข้ามาบริเวณที่เป็น Catalonia ปัจจุบัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อตั้งเป็น “สถานีการค้า”

หรือที่เรียกว่า Empuries ก่อนหน้านั้น บริเวณคาบสมุทร Iberia อันเป็นที่ตั้งของประเทศสเปนปัจจุบันนี้มีชนชาติอยู่อาศัยหลายชนชาติด้วยกัน แต่ไม่มีลักษณะของประเทศหรืออำนาจปกครองเหนือพื้นที่ทั้งหมด

ในปี 218 ก่อนคริสตกาล โรมันได้เข้ามาที่ Empuries เพื่อต่อสู้กับ Hannibal หลังจากนั้นก็ได้ครอบครอง Iberia ซีกใต้ฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียนทั้งหมดและเรียกว่า Hispania ซึ่งเป็นภาษาลาตินที่เป็นรากศัพท์ของคำว่า Spain ในปัจจุบันนี้

ปี ค.ศ. 711 พวกมุสลิมได้บุกเข้ามายึดครองคาบสมุทรไอบีเรียเกือบทั้งหมด แต่พวก Visigoth อันเป็นชนชาติส่วนใหญ่ในขณะนั้นได้รุกกลับและสามารถจัดตั้งเป็น Kingdom of Asturias เมื่อสามารถรุกต่อไปทางใต้ก็จัดตั้งเป็น Kingdom of Castile ในปี ค.ศ. 1065 จุดเปลี่ยนของชัยชนะต่อพวกมุสลิมเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 721 ที่ Toulouse

ในขณะนั้น ฝั่งตะวันออกของเทือกเขา Pyrenees เป็นจักรวรรดิ Carolingian ในบริเวณประเทศฝรั่งเศสปัจจุบัน ซึ่งพยายามจัดให้มีรัฐกันชนเพื่อป้องกันพวกมุสลิมในคาบสมุทรไอบีเรีย โดยการยึด Navarre, Aragon และ Catalonia ตามลำดับ Catalonia มีเมืองเล็ก ๆ ในสังกัดหลายเมืองและถูกปกครองโดย Count of Barcelona ซึ่งเป็นเจ้าเมืองที่ได้รับศักดินาจากจักรวรรดิ Carolingian หรือบางทีก็เรียกว่า Franks

ปี ค.ศ. 985 Barcelona ถูกโจมตีโดยพวกมุสลิมและพวก Franks ไม่สามารถมาช่วยได้ Borrell II จึงประกาศอิสรภาพไม่ยอมอยู่ภายใต้ศักดินาต่อไป

อย่างไรก็ตาม พวก Franks ไม่ได้ยอมรับเป็นทางการ แผนที่ที่แสดงอาณาเขตของพวก Franks จึงยังคงครอบคลุมถึง Catalonia ต่อไปจนถึงศตวรรษที่ 11

ตั้งแต่ ค.ศ. 987 เมืองเล็ก ๆ ภายใต้สังกัดแคว้น Catalonia อยู่ร่วมกันด้วยสนธิสัญญาโดยมี Count of Barcolona เป็นผู้นำ พวก Catalan จึงยึดถือเอาปีนี้เพื่อทำการเฉลิมฉลอง millennium ของ Catalonia

คาตาโลเนียไม่ใช่สเปน--แต่ไม่มีสิทธิเอกราช! (1)

ดังนั้น Castile กับ Catalonia จึงมีสถานะเป็น Count เหมือนกันในยุคที่ใกล้เคียงกัน ในศตวรรษที่ 12 Castile ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ Aragon กำลังขาดผู้สืบสกุล Ramiro II จึงพยายามมองหาพันธมิตรที่พอจะคานอำนาจได้โดยการให้พระราชธิดาที่มีพระชันษา 1 ขวบอภิเษกกับ Ramon Berenguer IV แห่ง Barcelona ในปี ค.ศ. 1137 ซึ่งกลายมาเป็นผู้ปกครองร่วมของ Kingdoms of Aragon & Catalan Counties (โปรดสังเกต “s” ที่แสดงพหูพจนอันเป็นตัวชี้ว่า Catalonia ประกอบด้วยเมืองอิสระหลาย ๆ เมืองมารวมกัน) แต่ว่าทั้งสองส่วนนี้ยังคงมีกฎหมายและประเพณีของตนเอง เช่นเดียวกับ Scotland กับ England ที่ยังคงมีกษัตริย์ปกครองคนเดียวกันแต่แยกกันทางการเมืองจนกระทั่งรวมกันเป็น United Kingdoms ตั้งแต่ พ.ศ. 1707

Catalonia และ Aragon รวมกันเป็นจักรวรรดิและมีกษัตริย์ที่ปกครองร่วมกันเรียกว่า Crown of Aragon ซึ่งทำหน้าที่คล้ายสหพันธ์รัฐและแตกต่างจาก Kingdom of Aragon ที่จะหมายถึงส่วนที่เป็นราชอาณาจักรอารากอนเท่านั้น

Ramon Berengeur มีพระโอรสที่ครองราชย์ต่อมาในปี 1164 ชื่อ Alifonso II แห่ง Aragon หรือ Alfons I แห่ง Barcelona Alfons I ทรงอภิเษกกับพระขนิษฐา (น้องสาว) ของกษัตริย์แห่ง Castile ในปี 1174 และทำสนธิสัญญา Cazorla ที่จะร่วมมือกันต่อต้านพวกมุสลิม ในกรณีที่จำเป็น ดังนั้นยุคของ Alfons I จึงมุ่งไปที่การขยายอาณาเขตไปยังบริเวณที่เป็นภาคใต้ของฝรั่งเศสปัจจุบัน เช่น Provence ในปี 1166 และ Roussillon ในปี 1172 ความสัมพันธ์กับ Castile และการขยายอาณาเขตทำให้การค้าเจริญรุ่งเรืองขึ้น นี่คือจุดเริ่มที่ Catalonia ตกอยู่ภายใต้เชื้อพระวงศ์แห่ง Castile

Pero II พระโอรสของ Alfons I ครองราชย์ต่อมาในปี 1196 แต่ต้องมาเสียชีวิตลงในการรบเพื่อช่วยเหลือคู่เขยที่ Toulouse Jaume I พระโอรสที่พระชันษาเพียง 5 ขวบครองราชย์ต่อมา แต่ได้รับอำนาจมาจริง ๆ ก็ในปี 1227 เมื่อพระชันษา 19 ปี ยุคของ Jaume I มีการขยายอำนาจออกไปทางทะเลเมดิเตอเรเนียนโดยใช้กองทัพ Catalan และสามารถยึด Mallorca, Balearic Islands และ Valencia โปรดสังเกตว่า Crown of Aragon ยึด Valencia จากพวกมุสลิมในปี 1238 แต่ Castile มายึด Granada จากพวกมุสลิมก็ในปี 1492

วิวัฒนาการของ Castile อันเป็นกระแสหลักที่กลายมาเป็น Spain ในภายหลังมาจากการขยายอำนาจด้วยการทำสงครามจากการช่วยเหลือของพวกขุนศึกขุนนาง กษัตริย์จะทำการตอบแทนความดีความชอบด้วยการมอบศักดินาให้ ไร่นาภายใต้ Castile จึงเพาะปลูกโดยผู้ยากไร้ที่เช่าที่นาทำกินจากพวกขุนศึกขุนนางอีกต่อหนึ่ง

ในขณะที่ Jaume I ให้ปฏิญญากับพวกขุนนางในฐานะแห่งความเท่าเทียมกัน ในปี 1283 Catalonia มีสภานิติบัญญัติเป็นครั้งแรกโดยมีผู้แทนจากขุนนาง ข้าราชการ และพ่อค้า เพื่อตัดสินใจในเรื่องกฎหมายและนโยบายการบริหารกิจการบ้านเมือง เรียกว่า Corts Catalanes ซึ่งเป็นสถาบันที่มีวิวัฒนาการมาเป็นลำดับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1265 จาก Consell de Cents หรือสภาของเมือง Barcelona ส่วน Corts Catalanes วิวัฒนาการเพิ่มเติมในภายหลังมาเป็น Generalitat ในศตวรรษที่ 16 เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายบริหารที่ปกครองแคว้น Catalonia

Jaume III (1291-1327) ซึ่งเป็นพระราชปนัดดา (เหลน) ของ Jaume I ถือเป็นยุคทองสูงสุดของ Crown of Aragon มีอาณาเขตแผ่ขยายไปครอบคลุมเพิ่มเติมถึง Sicily, Sardinia และ Corsica ถ้าไม่นับ Jaume II กษัตริย์องค์ที่ 4 หลังจากนั้น มีพระนามว่า Marti I ถือเป็นกษัตริย์ Catalan องค์สุดท้าย ซึ่งสวรรคตในปี ค.ศ.​1410

ผู้ที่มีโอกาสสืบเชื้่อสายกษัตริย์ในขณะนั้นมี 2 คน หนึ่งในนั้นได้แก่ Jaume of Urgell ซึ่งเป็นพระราชปนัดดา (เหลน) ของ Alfons IV of Aragon อีกคนหนึ่งได้แก่ Fernando of Antequera ซึ่งเป็นโอรสของพระขนิษฐาของ Marti I หรือเป็นพระราชนัดดาของพระบิดาของ Marti I เขายังมีศักดิ์เป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ของ King Juan I of Castile

ในปี ค.ศ. 1412 ผู้แทนของสภาจาก Aragon, Catalonia and Valencia ประชุมกันเพื่อลงคะแนนว่าจะเลือกใครเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป แต่ Aragon กับ Valencia เลือก Fernando เนื่องจากเห็นว่าราชสำนัก Barcelona ได้ครองมานานเกินไป การเลือกกษัตริย์ที่เป็นเชื้อสาย Castle จะทำให้พวกเขามีอำนาจต่อรองใหม่ ๆ ได้ ในปี ค.ศ.​1414 Fernando I ได้เป็นกษัตริย์แห่ง Crown of Aragon และเป็นองค์แรกแห่ง Trastamara Dynasty ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากฝรั่งเศส เนื่องจาก Fernando มาจากราชสำนัก Castile เขาจึงคุ้นเคยกับแนวทางเผด็จการและระบบศักดินาแบบ Castile และทำให้ชะตากรรมของ Catalonia ต้องเปลี่ยนทิศทางไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ยุคของ Fernando I นั้นสั้นมาก พระองค์สวรรคตในปี 1416 Alfonso ได้เป็นกษัตริย์สืบต่อมา แต่เกือบจะไม่ได้อยู่ดูแลประเทศเลยจนสวรรคตในปี 1458 และ Juan ได้ครองราชย์สืบต่อมา ยุคของ Juan มัวแต่ยุ่งกับการแย่งอำนาจกับพระโอรส Carles ที่เป็นรัชทายาทของ Navarre ไม่สนใจสภาวะข้าวยากหมากแพงและการค้าต่างประเทศ ชาว Catalans จึงไม่พอใจและลุกขึ้นต่อสู้พร้อม ๆ กับร้องขอความช่วยเหลือจาก Castile และโปรตุเกสที่มีความสัมพันธ์กัน

ขณะเดียวกัน Juan ให้ Fernando พระโอรสแต่งกับ Isabel of Castile ในปี 1469 เพื่อดึงให้ Castile มาอยู่ข้างตนเอง ผลที่เกิดขึ้นคือ การรวมตัวกันระหว่าง Crown of Castile กับ Crown of Aragon ที่เป็นเชื้อสาย Castile ทั้งสองฝั่ง ในที่สุดสงครามกลางเมืองก็ยุติลง เนื่องจากไม่มีฝ่ายใดที่เอาชนะอีกฝ่ายได้

Isabel และ Fernando ต่างก็มีเหตุผลของฝ่ายตนในการอภิเษกสมรสซึ่งกันและกัน

Fernando ต้องการความสัมพันธ์กับรัฐที่มีอำนาจมากกว่า ส่วน Isabel ต้องการแย่งชิงบัลลังก์กับพระขนิษฐาต่างมารดา แม้ว่าจะมีราชวงศ์บางส่วนเสนอให้ทั้งสองฝ่ายประกาศตัวว่าเป็น Kings of Spains แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ปรารถนาเช่นนั้น เนื่องจากต่างฝ่ายต่างก็ต้องการรวบรวมฐานอำนาจและระบบการปกครองในฝ่ายของตนเอง (โปรดสังเกตตัวอักษร “s” ที่เป็นตัวชี้ส่วนที่แยกออกจากกัน)

อย่างไรก็ตาม Crown of Castile มีอำนาจเหนือกว่าอย่างปฏิเสธไม่ได้ ด้วยเหตุที่ Crown of Aragon กำลังตกอยู่ภายใต้ภาวะข้าวยากหมากแพงและโรคระบาด

Isabel สิ้นพระชนม์ในปี 1504 และ Juana พระธิดาองค์โตระหว่าง Isabel กับ Fernando ทรงครองราชย์สืบต่อมา Juana ทรงอภิเษกกับ Philip พระจักรพรรดิแห่ง Austria ในราชวงศ์ Habsburgs และพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในแวลาต่อมา

เมื่อ Fernando สิ้นพระชนม์ในปี 1516 Carlos V พระโอรสระหว่าง Juana กับ Philip ได้ครองราชย์ต่อมาในฐานะกษัตริย์ร่วมแห่ง Crown of Castile & Leon และ Crown of Aragon