จัดพอร์ตลงทุนรับปีจอ

จัดพอร์ตลงทุนรับปีจอ

จัดพอร์ตลงทุนรับปีจอ

สัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันกล่าวถึงสภาวะการลงทุนโดยรวมและการคาดการณ์การลงทุน แต่มีแฟนคอลัมน์อยากให้ช่วยแนะนำการจัดพอร์ตให้ด้วย สัปดาห์นี้จึงขอแนะนำพอร์ตการลงทุนสำหรับครึ่งแรกของปีนี้

โดยปกติดิฉันจะแนะนำพอร์ตปีละครั้ง แต่ในช่วงหลังๆที่ความผันผวนเพิ่มขึ้นมาก ได้เปลี่ยนมาแนะนำปีละสองครั้งค่ะ เพราะอาจจะมีโอกาสการลงทุนเพิ่ม หรือโอกาสในการทำกำไร เมื่อเวลาผ่านไปครึ่งปี

ตามที่ได้เขียนไปในสัปดาห์ที่แล้วว่า ดิฉันยังมองการลงทุนในปีนี้สดใสอยู่ แต่ให้ระมัดระวัง (Cautiously Optimistic) การจัดพอร์ตครึ่งปีแรก จึงควรจัดพอร์ตรับการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยการลงทุนในหุ้นทุนจะยังดีต่อเนื่อง แต่ต้องระมัดระวังภูมิภาค หรือประเภทของธุรกิจที่ราคาหุ้นขึ้นไปสูงมากแล้ว เช่น ค่าพีอี เกิน 30 เท่า และอัตราการเติบโตเริ่มลดลง เพราะมีโอกาสในการปรับตัวลงจากข่าวร้าย และการทำกำไร

โดยภูมิภาคที่ชอบยังเป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) กลุ่มที่ชอบคือ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มไลฟ์สไตล์ และกลุ่มบริการ เช่น ท่องเที่ยว อาหาร ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ แฟชั่น (สำหรับประเทศไทย มีเพิ่มอุตสาหกรรมและบริการที่ขยายไปยังภูมิภาค) สำหรับหุ้นของตลาดที่พัฒนาแล้ว ดิฉันชอบญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มที่ชอบคือ กลุ่มเทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ และบริการ

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET INDEX) น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,600 -1,850

ทองคำน่าสนใจมากขึ้น และได้แนะนำให้เริ่มเข้าไปลงทุนตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ราคาในปีนี้น่าจะอยู่ในช่วง 1,250-1,400 เหรียญต่อออนซ์

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ในปีนี้น่าจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังไม่สูงจนน่าเป็นห่วง คาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent น่าจะอยู่ระหว่าง 60-75 เหรียญต่อบาร์เรล โภคภัณฑ์อาหารมีความน่าสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น

ค่าเงินที่น่าสนใจคือ สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงเงินบาทของไทยด้วยค่ะ ส่วนเงินของประเทศพัฒนาแล้ว ดิฉันสนใจเงินยูโร ส่วนเงินดอลลาร์ หลังจากอ่อนค่าลงไปมากแล้วในปีที่แล้วและต้นปีนี้  ในช่วงถัดไปน่าจะชะลอการอ่อนค่าลง สกุลเงินดอลลาร์และเงินเยน ยังน่าสนใจในฐานะที่เป็นสกุลเงิน safe heaven คือ หากมีความกังวลในเรื่องร้ายๆ ผู้ลงทุนจะเข้ามาถือเงินสองสกุลนี้

อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศที่น่าสนใจคือ สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่ และภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น คือ โรงแรมและรีสอร์ต ส่วนอสังหาริมทรัพย์ในไทย ผลตอบแทนค่าเช่าในส่วนของที่อยู่อาศัยลดลง เพราะมีภาวะล้นตลาดอยู่

การจัดพอร์ตสำหรับผู้ต้องการอนุรักษ์เงินต้น (รับความเสี่ยงได้น้อย) แนะนำดังนี้ ลงทุนในกองทุนตลาดเงิน/เงินฝาก 25% พันธบัตร/หุ้นกู้ 33% อสังหาริมทรัพย์ (ได้รับค่าเช่า) 20% หุ้นไทย 10% หุ้นต่างประเทศ 10% และทองคำ 2% พอร์ตนี้มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 5.33% มีค่าความผันผวนประมาณ 6.35%

พอร์ตสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้ปานกลาง แนะนำให้ลงทุนในตลาดเงิน/เงินฝาก 15% พันธบัตร/หุ้นกู้ 28% อสังหาริมทรัพย์ 20% หุ้นไทย 20% หุ้นต่างประเทศ 15% และทองคำ 2% มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 6.83% และมีค่าความผันผวนประมาณ 7.9%

ผู้ที่รับความเสี่ยงได้เพิ่ม แนะนำลงทุนในตลาดเงิน/เงินฝาก 15% พันธบัตร/หุ้นกู้ 20% อสังหาริมทรัพย์ 20% หุ้นไทย 20% หุ้นต่างประเทศ 20% และทองคำ 3% และโภคภัณฑ์/การลงทุนทางเลือกอื่นๆ 2%  มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 7.47% และมีค่าความผันผวนประมาณ 8.55%

ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำลงทุนในตลาดเงิน/เงินฝาก 12% พันธบัตร/หุ้นกู้ 15% อสังหาริมทรัพย์ 20% หุ้นไทย 25% หุ้นต่างประเทศ 20% และทองคำ 5% และโภคภัณฑ์/การลงทุนทางเลือกอื่นๆ 3%  มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 8.13% และมีค่าความผันผวนประมาณ 9.35%

ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก แนะนำลงทุนในตลาดเงิน/เงินฝาก 10% พันธบัตร/หุ้นกู้ 10% อสังหาริมทรัพย์ 15% หุ้นไทย 30% หุ้นต่างประเทศ 25% และทองคำ 5% และโภคภัณฑ์/การลงทุนทางเลือกอื่นๆ 5%  มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 9.0% และมีค่าความผันผวนประมาณ 10.1%

สุดท้ายต้องขอย้ำว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลและปรึกษานักวางแผนการเงินก่อนการลงทุน และผลตอบแทนเหล่านี้ เป็นเพียงการคาดการณ์ โดยประมวลจากข้อมูลในอดีตผสมกับการคาดการณ์ในอนาคต จึงอาจจะเป็นหรือไม่เป็นตามนี้ก็ได้ค่ะ