มองเทรนด์วงการฟินเทคไทยปี 2018

มองเทรนด์วงการฟินเทคไทยปี 2018

ปี2018คาดว่าจะเป็นปีที่วงการฟินเทคไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในหลายด้าน

โดยเฉพาะเทคโนโลยีหรือกฎหมายใหม่ที่ออกมาสนับสนุนให้เกิดผู้ประกอบการหน้าใหม่หรือมีผู้เล่นเดิมเข้ามาจับตลาดลองไปดูกันว่ามีแนวโน้มอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้น

หนึ่ง..P2P Lending จะได้รับการรับรองแล้วหรือยัง เป็นเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการฟินเทคหลายรายต้องการให้เกิดขึ้นเสียทีหลังจากที่มีความพยายามจะร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยกู้ระหว่างบุคคลมาได้ระยะหนึ่งแล้วแต่หน่วยงานกำกับดูแลอย่างธนาคารแห่งประเทศไทยยังมีความกังวลว่าจะเกิดภาวะหนี้เสียและการหลอกลวงรวมถึงผู้เล่นเดิมอย่างธนาคารพาณิชย์ไม่ต้องการให้เกิดฟินเทคประเภทนี้ขึ้นอย่างไรก็ตามกฎหมายการปล่อยกู้ระหว่างบุคคลได้คืบหน้าไปอย่างมากและได้มีการรับฟังความคิดเห็นกันไปหลายรอบคาดว่าหากP2P Lendingจะเกิดก็ต้องเกิดในปี2018ไม่เช่นนั้นคงไม่มีโอกาสได้เกิดอีกแล้ว

สอง..ICOและ Social Trading มาแน่นอน ช่วงปลายปี2017 สมาคมบริษัทหลักทรัพย์และสำนักงานก.ล.ต.ได้หารือกันถึงการเปิดให้ภาคธุรกิจสามารถระดมทุนได้ผ่านกระบวนการICOแบบเป็นเจ้าของในส่วนของทุน(ไม่ใช่ออกเหรียญCrypto)รวมถึงการเปิดรับเทคโนโลยีSocial Trading (อนุญาตให้นักลงทุนสามารถติดตามและลงทุนตามผู้ที่เป็นMasterได้ทำให้เกิดอาชีพใหม่ที่เรียกว่าCopy Trade)

นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ยังได้เตรียมเปิดตัวLive Platformซึ่งเป็นแหล่งระดมทุนให้กับบริษัทขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพปี2018จึงเป็นปีที่น่าจะคึกคักสำหรับการระดมทุนรูปแบบใหม่

สาม..ได้เวลาของ Insure Techในบรรดาฟินเทคสายต่างๆธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยถือได้ว่ามีโอกาสเติบโตมากที่สุดเนื่องจากยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก(คนไทยอีกจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงการทำประกันชีวิต)โดยปี2017เป็นปีที่สถาบันการเงินด้านการประกันภัยและประกันชีวิตเริ่มเข้ามาให้การสนับสนุนผู้ประกอบการฟินเทคประเทศไทยเองยังมีInsure Techอยู่จำนวนไม่มากนักแต่เชื่อว่าอนาคตจะมีผู้ประกอบการสายนี้เกิดขึ้นอีกมาก

สี่..จะมีฟินเทคต่างชาติเข้ามาตีตลาดไทย ประเทศไทยถูกจดจ้องโดยฟินเทคจากต่างชาติมาได้ระยะหนึ่งแล้วแม้แต่ฟินเทคจากอินโดนีเซียยังให้ความสนใจที่ผ่านมาได้มีการติดต่อจากสมาคมฟินเทคในภูมิภาคอย่างสิงคโปร์ในการที่จะขอเข้าพบหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของไทยเพื่อที่จะเข้ามาขยายธุรกิจจึงไม่น่าแปลกใจว่าปี2018เราอาจจะได้เห็นผู้ประกอบการฟินเทคต่างชาติเข้ามารุกธุรกิจในไทยแต่น่าเสียดายที่ยังมีผู้ประกอบการไทยไม่กี่รายที่ออกไปขยายธุรกิจต่างประเทศ

ห้า.. Robot Trade เดินกันให้เต็มตลาดหุ้น ปี2017เป็นปีที่มีฟินเทคสายWealth Managementเกิดขึ้นจำนวนมากหลายรายพัฒนาจากการเป็นผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นแนะนำการลงทุนมาเป็นผู้พัฒนาRobot Tradingและมีแผนที่จะเริ่มเปิดการซื้อขายในปี2018ในเวลาไล่เลี่ยกันถือเป็นสัญญาณที่บอกว่าตลาดหุ้นไทยจะเต็มไปด้วยระบบเทรดอัตโนมัติมากขึ้น

นี่เป็นแนวโน้มของวงการฟินเทคไทยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี2018อย่างไรก็ตามกระแสของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดเทรนด์ใหม่ๆขึ้นอีกก็เป็นได้