ทนายความกับแพทย์ ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน

ทนายความกับแพทย์ ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน

ช่วงนี้มีความรู้สึกดีเกือบทุกวันที่เห็นข่าว“ตูน ก้าวคนละก้าว”ที่ส่วนตัวถือว่าเป็น ก้าวของตูนที่วิ่งเพื่อชีวิตประชาชนคนไทยจำนวนมากที่ยากลำบาก

รู้สึกตื้นตัน บางครั้งก็เกือบจะเรียกน้ำหูน้ำตา เมื่อเห็นภาพประชาชนแม้จะต่างความเชื่อต่างศาสนา แต่ดูเหมือนความต่างนั้นไม่ทำให้เกิดกำแพงที่ก้าวข้ามไม่ได้

เป็นภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นง่ายๆ ในช่วงชีวิตบั้นปลายของเรา เหมือนดอกไม้ที่ผลิบานพร้อมๆ กัน โดยมิได้นัดหมาย 

เป็นความสุข อิ่มเอมใจ ที่พวกเราชาวไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ถูกใครสั่งหรือบงการให้ตีหน้าสร้างภาพเหมือนที่เห็นจนชินชา

อีกเรื่องหนึ่งที่คิดอยู่ในใจ แต่ไม่อยากแสดงออกในช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่ก็คิดเสมอว่าจะมีวันไหนที่ 2 วิชาชีพ คือ นักกฎหมาย ทนายความ กับแพทย์ หันมามองกันด้วยทัศนคติที่ไม่เป็นปรปักษ์กัน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แพทย์มองว่าพวกกฎหมายทนายความมุ่งร้ายกับแพทย์มากเกินไป มองความผิดพลาดด้านการรักษาพยาบาลเป็นเหมือนผู้กระทำความผิดอย่างมีเจตนาประทุษร้ายกับผู้ป่วย ไม่มีความรู้ในเรื่องการกระบวนการรักษาพยาบาล เพียงแต่จ้องจับผิดเพื่อประโยชน์ในทางคดีโดยไม่ได้ดูเจตนาของแพทย์อย่างแท้จริง และเรียกร้องให้แพทย์ต้องรับผิดมากขึ้นเรื่อยๆ สร้างความลำบากทั้งด้านภาระรับผิดชอบและการชดใช้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

คุณตูน แม้ว่าจะเป็นนักร้องนักดนตรี แต่เบื้องหลังของตูน คือนักกฎหมาย ที่เรียนจบกฎหมาย และเคยทำงานด้านกฎหมายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เชื่อว่า ในเบื้องลึกของจิตใจนั้น ตูน น่าจะเป็นนักกฎหมายที่นึกถึงความเป็นธรรม และนึกถึงหัวอกหัวใจของผู้ยากไร้ และอยากให้สังคมมีความเป็นธรรม

ถ้าคุณตูน อยู่ในวิชาชีพกฎหมายอย่างที่จบการศึกษามา คุณตูน ก็อาจไม่มีความคิดเหมือนเมื่อตูน มาเป็นนักดนตรี แต่ก็เชื่อว่าด้วยจิตใจที่ดี คุณตูนก็อาจจะเป็นนักกฎหมายที่ไม่มองว่าความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายหนึ่งจะแสวงหาประโยชน์จากอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะไม่เช่นนั้น คุณตูน คงไม่ออกมารณรงค์เพื่อช่วยโรงพยาบาลอย่างที่เห็น

นักกฎหมายทนายความอื่นๆ อาจคิดไม่เหมือนคุณตูนทั้งหมด แต่ถ้ามองว่า คุณตูน เอง ในอดีตก็อาจไม่ได้มองเห็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย

ปรากฏการณ์ ตูน ก้าวคนละก้าว หรือ คุณตูน วิ่งเพื่อชีวิต น่าจะทำให้นักกฎหมายทนายความทั้งหลายหันมามองภาพความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยด้วยใจที่เปิดกว้างและมองในแง่ดีมากขึ้น

เพราะแท้จริงแล้ว แพทย์กับผู้ป่วย ไม่มีใครคิดจะทำร้ายกัน