ออกมา(อีก)สักครั้ง จะได้ไหม

 ออกมา(อีก)สักครั้ง จะได้ไหม

ออกมา(อีก)สักครั้ง จะได้ไหม

ช่วงสิ้นปี 2560 นี้ มีเรื่องที่คนไทยมีความสุขทั่วหน้า อย่างน้อยก็หนึ่งเรื่อง นั่นคือการที่ พี่ตูน ได้วิ่งในโครงการ​ ก้าวคนละก้าว สำเร็จอย่างงดงาม 

พี่ตูนวิ่งไปถึงไหน คนไทยทุกเพศทุกวัย ก็ออกมาต้อนรับบนท้องถนนกันมากมาย ภาพที่เห็นเช่นนี้ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่ผมเสนอไว้ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ไหมหนอ

วันนั้น 9 กันยายน 2554 ในบทความเรื่อง “เพลงปฏิวัติ” ผมได้เล่าเรื่องราวของชาวเอสทัวเนียว่า เดือนกันยายน ค.ศ. 1988 ชาวเอสทัวเนียจำนวนกว่า 300,000 คน ได้นัดหมายออกไปรวมตัวกัน ที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เพื่อร่วมกัน “ร้องเพลง”

คน 300,000 คน คงไม่อยู่ดีๆก็ออกไปร้องเพลง โดยไม่มีเป้าหมาย พวกเขาออกไป เพราะในขณะนั้นประเทศในกลุ่มบอลติก ยังเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และอยู่ภายใต้ความกดดันมากมายจากรัสเซีย แม้แต่การร้องเพลงรักชาติ เพลงศาสนา ก็ยังเป็นสิ่งต้องห้าม

พวกเขาจึงนัดหมายกัน ออกไปร้องเพลงต้องห้าม ก็ลองนึกดูนะครับว่าคน 300,000 คน ร้องเพลงปลุกเร้าไปพร้อมๆกัน มันจะกระหึ่ม และมีพลังมากเพียงใด  

กระแสการเรียกร้อง มิได้หยุดเพียงนั้น ในปีต่อมา เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1989 ประชาชนของ 3 รัฐ ในบอลติก คือ เอสทัวเนีย ลัทเวีย และ ลิทัวเนีย ก็ได้นัดหมายกันออกไปยืนบนท้องถนน คราวนี้พวกเขาออกมาจับมือกันต่อเนื่องกัน จนกลายเป็น โซ่มนุษย์ 

โซ่มนุษย์ ที่ประกอบด้วยคน 2 ล้านคน มีความยาวต่อเนื่องจากเอสทัวเนีย ข้ามชายแดน เข้าสู่ลัทเวีย แล้วข้ามต่อไปยัง ลิทัวเนีย พร้อมกับการร้องเพลงและประกาศก้องว่า เราต้องการอิสรภาพ

ในที่สุดความฝันก็เป็นจริง พวกเขาได้รับอธิปไตย เป็นของตนเอง เป็นการปฏิวัติที่ไม่เสียเลือดเนื้อและชีวิต อาวุธที่ใช้ก็คือมือเปล่าและเสียงเพลง จนประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า นี่คือ “The Singing Revolution”....ซึ่งเป็นที่มาของบทความผมเมื่อปี 2554  ที่ตั้งชื่อไว้ว่า “เพลงปฏิวัติ” 

ครั้งนั้น ผมได้เสนอว่า การแก้ปัญหาอันยิ่งใหญ่ของชาติ ก็ต้องแก้ไขด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของคนในชาติ และปัญหาที่เป็นเนื้อร้ายของประเทศไทย และบั่นทอนประเทศมาตลอด ก็คือปัญหาคอรัปชั่น ผมได้เสนอให้คนไทยทั้งประเทศออกมานอกบ้าน เพื่อประกาศให้ดังก้องโลก ว่าเรายอมรับการคอรัปชั่น บั่นทอนชาติ ไม่ได้อีกแล้ว

ครั้งนั้นผมเสนอว่า ประเทศไทยมีความยาวจากเหนือสุดสู่ใต้สุด ประมาณ 2,000 กิโลเมตร ถ้าหากคนไทยออกมายืนเรียงแถวกัน แล้วจับมือกันอย่างต่อเนื่อง  เราก็จะได้ โซ่มนุษย์ที่มีความยาวที่สุด ยาวกว่าโซ่มนุษย์ของเอสทัวเนีย ลัทเวีย และ ลิทัวเนีย เสียอีก

ผมคำนวณไว้ในครั้งนั้นว่า ความยาวเหนือสุดจนใต้สุด น่าจะใช้คนไทยจำนวนประมาณ 2.5 ล้านคน ที่ออกมายืนนอกบ้านแล้ว ประกาศพร้อมๆกัน ให้โลกรับรู้และกดดันให้รัฐรับรู้ ว่าเราทนคอรัปชั่นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว และผมเชื่อว่าจะเป็นปรากฏการณ์ ที่สื่อระดับโลกจะให้ความสนใจ

หลังจากบทความเผยแพร่ออกไป บางท่านส่งอีเมล์ถึงผม บอกว่า นัดวันเมื่อไร บอกเลย มาแน่นอน บางท่านบอกว่า ขออาสาพาเพื่อนร่วมงานและคนรักชาติ ออกมายืนจับมือต่อเนื่องกัน รับรองอย่างน้อยได้ 2 กิโลเมตร ฯลฯ

ผมเสนอให้โซ่มนุษย์ 2.5 ล้านคน จากเหนือจนสุดใต้ ร้องเพลงปราบคอรัปชั่นด้วยกัน ให้ดังกระหึ่มไปทั่วประเทศ ให้โลกได้ยิน และให้เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Thailand’s  Singing Revolution Against Corruption” 

ทุกอย่างผ่านไป 6 ปี ไอเดียที่หลายท่านบอกกับผมว่าเข้าท่าดีนะ ก็จบลงแค่นั้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเป็นงานใหญ่ ต้องมีใครเข้ามาจัดการกันพอสมควร 

แต่วันนี้ พี่ตูน ได้พิสูจน์แล้วว่า คนไทยนับล้านคน สามารถที่จะออกมายืนบนท้องถนนร่วมกันได้จริงๆ ถ้าเขามีศรัทธาและมีความสุขที่ได้ร่วมทำในส่ิงที่ดีงาม  

6 ปีที่ผ่านไป วันนี้องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นก็มีเพิ่มขึ้น แข็งแกร่งขึ้น ผมจึงหวังว่า ถ้าคนไทยจะพิจารณาอีกสักครั้ง ไม่ต้องให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องเหนื่อยหนักอย่างพี่ตูน เพียงแค่ทุกคนเดินออกมานอกบ้าน ตามเวลาที่นัดหมาย แล้วจับมือกันเป็นโซ่มนุษย์ ภาพประทับใจที่มีความยาว 2,000 กิโลเมตร ก็จะเกิดขึ้น และน่าจะเป็นข่าวไปทั่วโลก

แต่แน่นอนว่า ต้องมีวาระที่มากไปกว่านั้น สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นพร้อมกันก็คือ คดีที่ค้างคาอยู่ จะต้องมีการลงโทษผู้กระทำผิดโดยเร็ว และมีแผนปฏิบัติการอื่นที่จริงจังและชัดเจน เพราะเมื่อวานนี้เอง องค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) ก็เพิ่งแถลง 10 ประเด็นคอรัปชั่นของปี 2560 และบอกว่า คดีเงินทอนวัด สินบน โรลส์รอยส์ ฯลฯ ก็ยังคืบหน้าน้อยมาก

แถมองค์กรฯ​ ยังระบุด้วยว่าที่ภูเก็ต มีส่วย สินบน และคอรัปชั่นทุกรูปแบบอยู่ที่นั่น ซึ่งตรงนี้ผมยอมรับว่าได้ยินแล้ว รู้สึกตกใจจริงๆ

วันนี้ ต้องขอขอบคุณพี่ตูน ที่ทำให้คนไทยออกมาบนท้องถนนได้จำนวนมากมาย และทำให้โรงพยาบาล 11 แห่ง ได้รับอุปกรณ์ๆ มูลค่ารวมกัน กว่าหนึ่งพันล้านบาท เป็นเงินบริจาคที่พี่ตูน ได้มาด้วยความเหนื่อยยากและเสียสละ 

แต่เงินบริจาคที่ได้มาจากศรัทธของประชาชน และความเสียสละของพี่ตูนนั้น ผมคิดว่าคงเป็นจำนวนที่น้อยมาก ถ้าเปรียบเทียบกับเงินที่คนมีอำนาจบางคน ได้โกงชาติและประชาชนไป ในหลายปีที่ผ่านมา 

พี่ตูน วิ่งไปร้องเพลงไป ให้ความสุขกับประชาชน ตลอดเหนือสุดใต้ ผมเลยขออนุญาตถามว่า ปีหน้า 2561 หาเวลาเหมาะๆ ออกมายืนบนถนนกันอีกสักครั้ง จะได้ไหม เพื่อสร้างโซ่มนุษย์ จากเหนือจนสุดใต้ จับมือกัน ร้องเพลงร่วมกัน เรียกร้องและกดดันร่วมกันอย่างสงบ ไม่ต้องมีใครคนใดต้องเหน็ดเหนื่อยอย่างพี่ตูน และไม่ต้องบริจาคเงินใดๆเลย

เพราะโซ่มนุษย์ที่ออกมา ก็แค่จะปกป้องเงินของชาติ มิให้ตกไปอยู่ในมือของผู้มีอำนาจ ที่ขาดคุณธรรม แค่นี้ก็มีคุณประโยชน์มหาศาลแล้วc