เงิน 1,000 บาท กับการลงทุนใน “บิทคอยน์”

ที่มีชื่อว่า Chicago Board Options Exchange (CBOE) ได้เปิดเทรดตราสารล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาของบิทคอยน์ ซึ่งจะเป็นการเปิดตลาดให้นักลงทุนสถาบันสามารถเข้ามาลงทุนในบิทคอยน์ได้เป็นครั้งแรกในตลาดสหรัฐ และจะนำมาซึ่งเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะเข้ามาซื้อขายบิทคอยน์

คุณผู้อ่านหลายท่านคงจะรู้ดีว่า ปีนี้ราคาของบิทคอยน์ถีบตัวขึ้นไปสูงมากจนทะลุ 600,000 บาทต่อหนึ่งบิทคอยน์ ผมเองมองว่า การลงทุนในบิทคอยน์เป็นการลงทุนประเภทหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูงมาก 

แต่การลงทุนในบิทคอยน์นี้ไม่ได้เป็นการหลอกลวงใดๆ ผมเคยลงทุนในบิทคอยน์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2559 หรือประมาณปีหนึ่งที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นซื้อบิทคอยน์ด้วยเงิน 1,000 บาท และได้บิทคอยน์มาจำนวน 0.03600956 บิทคอยน์ หรือคิดเป็นราคาประมาณ 27,770 บาทต่อหนึ่งบิทคอยน์

เปรียบเทียบกับราคาในตอนนี้แล้ว ราคามันก็สูงขึ้นไปประมาณ 20 เท่าของราคาที่ผมเริ่มซื้อ

 คิดไปแล้ว...น่าเสียดายที่ซื้อน้อยไป

 สำหรับคุณผู้อ่านที่ยังไม่เคยซื้อบิทคอยน์มาก่อน และเป็นคนที่ชอบลงทุนและรับความเสี่ยงสูงได้ ผมก็อยากให้เริ่มลงทุนในบิทคอยน์ด้วยเงิน 1,000 บาทเช่นเดียวกับผม โดยผมมีข้อแนะนำมาฝากบางประการ ดังนี้ครับ

หนึ่ง ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับ “เงินสกุลดิจิตอล”

เงินสกุลดิจิทัล (Digital Currency) หรือ Cryptocurrency สำหรับคุณผู้อ่านที่อ่านและฟังภาษาอังกฤษได้ ผมขอแนะนำให้อ่านบทความภาษาอังกฤษจำนวนมากมายมหาศาล เพื่อปูความพื้นฐานในเรื่องนี้เสียก่อน หรือหาวีดีโอดีๆได้ในยูทูบ หรือฟังพ็อดคาสท์ (Podcast) ซึ่งดาวน์โหลดได้จากแอพในโทรศัพท์มือถือ ค้นหาคำว่า Bitcoin, Cryptocurrency หรือ Digital Currency 

จากนั้นคุณผู้อ่านก็เริ่มศึกษาโดยการอ่านและฟังอย่างจริงจัง  

การศึกษาในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้ง่ายนัก เพราะจะมีศัพท์เทคนิคมากมายเช่น Blockchain, Hard Fork, Soft Fork, Smart Contract และอื่นๆอีกมากมาย ก็ขอให้คุณผู้อ่านอย่าเพิ่งท้อถอยนะครับ อ่านและฟังไปเรื่อยๆก็จะเข้าใจเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆเอง

สำหรับคุณผู้อ่านที่ไม่สันทัดภาษาอังกฤษมากนัก ก็ใช้คำค้นหาข้างต้นและตามด้วยพิมพ์คำว่า “ไทย” ต่อหลังคำค้นนั้นๆ ไปด้วย เช่น “Bitcoin ไทย” หรือ “Cryptocurrency ไทย” เท่านี้เอง บทความภาษาไทย วีดีโอ หรือคลิปเสียงก็จะแสดงผลออกมาให้คุณผู้อ่านได้อ่านอย่างมากมายให้คุณผู้อ่านได้ศึกษาได้มากมายเช่นกัน

สอง ซื้อบิทคอยน์ที่ไหนดี

เท่าที่ผมทราบ ตอนนี้ในประเทศไทยมีศูนย์ซื้อขายบิทคอยน์อยู่ด้วยกัน 3 แห่งคือ

- bx.in.th

- coins.co.th

- tdax.com

การสมัครเพื่อจะเข้าไปซื้อบิทคอยน์นั้นไม่ค่อยง่ายนัก เพราะจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบตัวตน หรือที่เราเรียกกันว่า KYC (Know Your Customer) เสียก่อน ซึ่งจะมีความยุ่งยากในการสมัครในระดับหนึ่ง แต่พอสมัครเข้าไปแล้ว จากนั้นจะซื้อจะขายอย่างไร  ก็จะยุ่งยากไม่มากนัก

คุณผู้อ่านที่คิดว่า อยากลงทุนในบิทคอยน์จริงๆ ผมขอแนะนำให้สมัครทั้งสามเว็บไซต์เลย ซึ่งผมเองก็สมัครไปทั้งสามที่ และเคยซื้อขายไปแล้วทั้งสามที่

ทั้งสามที่ก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่งจะไม่ขอพูดถึง ณ ที่นี้ 

ข้อดีของการสมัครทั้งสามที่ก็คือ คุณผู้อ่านจะสามารถได้รับข้อมูลราคาทั้งราคาซื้อราคาขาย และข้อมูลอื่นๆ เช่น คิดค่าธรรมเนียมเท่าไร  มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง เป็นต้น

สาม ดูแนวโน้มราคาของบิทคอยน์อย่างไร

วิธีง่ายๆที่ผมอยากแนะนำให้คุณผู้อ่านดูแนวโน้มราคาของบิทคอยน์ก็คือ การดูจากเว็บไซต์ซื้อขายบิทคอยน์ใหญ่ๆ ในต่างประเทศ ผมเคยค้นมาแล้วหลายแห่ง แต่คิดว่า 3 แห่งนี้ดีที่สุด

- bitfinex.com

- bithumb.com  เว็บซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้

- bitflyer.com   เว็บซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

สามเว็บไซต์ซื้อขายบิทคอยน์ด้านบนนี้อยู่ในกลุ่มของเว็บไซต์ที่ซื้อขายบิทคอยน์มากที่สุดในโลก ดังนั้นก่อนที่คุณผู้อ่านจะซื้อบิทคอยน์ ก็แวะเข้าไปดูระดับราคาในเว็บไซต์ทั้งสามแห่งข้างต้นนี้เสียก่อน เพื่อจะได้วางแผนในการซื้อขายบิทคอยน์ได้ 

ดังนั้นหากเริ่มต้นจะซื้อบิทคอยน์กันจริงๆ ก็ขอให้เริ่มต้นซื้อบิทคอยน์ด้วยเงิน 1,000 บาทเช่นเดียวกับผมไปก่อน  การเริ่มต้นซื้อก็จะส่งผลให้ตัวเราเอง ต้องทุ่มเทความสนใจและศึกษา 

เมื่อมั่นใจแล้วก็ค่อยลงทุนเพิ่มขึ้น หรือถ้าไม่ชอบก็อาจจะเลิกลงทุนไปเลย ซึ่งจะทำให้สูญเสียเงินลงทุนไปไม่มากนัก

ท้ายนี้ หลังจากที่ผมได้ลงทุนในบิทคอยน์ไประยะหนึ่งแล้ว ผมมีความรู้สึกว่า “องค์ความรู้ สามารถนำมาใช้ทำมาหากินได้” ผมจึงอยากสนับสนุนให้คุณผู้อ่านลองตั้งความหวัง ศึกษาเรื่องบิทคอยน์ และเงินสกุลดิจิทัลอย่างจริงจัง เผื่อจะได้นำไปลงทุนและแสวงหาผลตอบแทนออกมาได้อย่างจริงจัง

ทำให้นึกถึงคำพูดของ Benjamin Franklin นักวิทยาศาสตร์และนักการเมืองผู้โด่งดังชาวอเมริกันที่เคยพูดไว้ว่า  “An investment in knowledge pays the best interest.” แปลตามความได้ว่า “การลงทุนในความรู้นั้น จะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด”

ขอให้คุณผู้อ่าน...โชคดีในการลงทุน นะครับ

หาอ่านบทความ และความรู้ด้านการลงทุนของผู้เขียนได้เพิ่มเติมได้ที่ www.doctorwe.com