อย่ารอทำสิ่งใหม่ๆ..ในปีใหม่ !

อย่ารอทำสิ่งใหม่ๆ..ในปีใหม่ !

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ทุกธุรกิจ จะปรับเปลี่ยนแผน หรือปรับแก้ เพิ่มเติมอะไรใหม่ๆ ในช่วงก่อนสิ้นปี เพื่อให้ปีใหม่ได้เริ่มสิ่งใหม่ๆบ้าง

จะว่าไปแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ปรับ ไม่เปลี่ยน ไม่เพิ่มอะไรเลย..

แต่หลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีหลังๆ ที่ Digital เข้ามาเปลี่ยนแทบทุกอย่างทั้งในเรื่องธุรกิจไปจนถึงการใช้ชีวิตส่วนตัวของแต่ละคน และจะเปลี่ยนมากยิ่งขึ้น เร็วยิ่งขึ้นในปีหน้านี้..

คำถามคือ...

แต่ละองค์กร จะรอใกล้สิ้นปีแล้วค่อยมาเปลี่ยน มาเริ่มอะไรใหม่ๆในปีใหม่..มันไม่น่าจะใช่แนวทางที่ควรเป็นในโลกยุคปัจจุบัน...!?

ในเมื่อเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน มีตัวชี้วัดในการทำธุรกิจ การทำการตลาดและการขาย ไปจนถึงการบริการ ที่ Real Time วัดผลได้ทุกวินาที...แล้วถ้าเราจะรอสิ้นปีค่อยปรับเปลี่ยนแผนหรือ ปรับเปลี่ยรโครงสร้างองค์กรใหม่แบบโลกยุคเดิมๆที่ทำกันมาเป็นร้อยปี...มันไม่น่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์ยุคปัจจุบันนะครับ!

คำถามที่เราควรถามตนเองในทุกๆวันนี้คือ...

 เราจะทำธุรกิจของเราแบบเดิมๆต่อไป โดยใช้วิธีคิดแบบเดิมๆ วิธีบริหารจัดการทุกอย่างแบบเดิมๆ จะทำให้เราประสบความนำเร็จแบบที่เคยเป็น...ได้หรือไม่!?”

 “ทุกวันนี้และวันพรุ่งนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องใด โดยเฉพาะในเรื่อง Digital Transformation ที่จะส่งผลกระทบกับ สินค้า-บริการ และธุรกิจของเรา รวมไปถึงพฤติกรรมของลูกค้าเราบ้าง?”

จากคำถามหลัก 2 คำถามนี้...ถ้าคำตอบทั้ง 2 ข้อคือ คิดแบบเดิมๆ ทำแบบเดิม ก็น่าจะส่งผลสำเร็จแบบเดิมได้ และ Digital Transformation ไม่ส่งผลอะไรกับธุรกิจและลูกค้าของเรา...

ก็ถือว่าท่านโชคดีมาก ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบ และไม่จำเป็นต้องอ่านต่อครับ!

แต่ถ้าคำตอบคือ คิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ยากที่จะไปรอดได้ และ Digital Transformation เริ่มส่งผลกระทบกับธุรกิจ...ก็ต้องรีบหาคำตอบและทางออกตั้งแต่วันนี้

ลองสังเกตุดู ธุรกิจและองค์กรที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก จะ ปรับตัวตลอดเวลา โดยไม่รอถึงสิ้นปีค่อยมาปรับตัว เปลี่ยนแปลงในต้นปีถัดไป..เพราะมันช้าเกินไป!

ถ้าเป็นในอดีต องค์กรใดที่มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ปรับเปลี่ยนวิธีการ หรือแม้กระทั่งนโยบายที่ปรับเปลี่ยนบ่อยๆแทบจะทุกไตรมาส หรือทุกเดือน หรือแทบทุกสัปดาห์ จะถูกมองว่าองค์กรนั้น ค่อนข้างสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง ออกไปในทางมั่ว เดี๋ยวเปลี่ยน เดี๋ยวเปลี่ยน จนคนในองค์กรยังมึน!

ส่วนองค์กรใด ที่ดูมั่นคง หนักแน่น แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร จะถูกมองว่า มีความมั่นคง ไม่สั่นไหวไปตามสถานการณ์ภายนอก คนทำงานจะรู้สึกสบายใจ...(สบายใจจนผ่อนคลาย เรื่อนเฉื่อยเลยครับ!)

แต่ในยุคปัจจุบัน ตรงกันข้าม !

ถ้าองค์กรใด ยังไปเรื่อยๆมาเรียงๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงภายในอะไรไปนานๆ...กลับกลายเป็นมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นผู้ที่ถูกกลืนไปกับโลกยุคเก่า ที่จะค่อยๆล้มลงไปแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะอยู่ในสภาวะเฉื่อย สภาวะเดิมมาตลอด จนยากที่จะเปลี่ยนอะไร!

ส่วนองค์กรใดในยุคปัจจุบัน ถ้าสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วในทุกเรื่อง ตั้งแต่โครงสร้างองค์กร สามารถยืดหยุ่นรองรับการเปลี่ยนแปลงในแต่ละสถานการณ์ได้ (หมดยุคโครงสร้างองค์กรแบบโบราณที่ซับซ้อน แตะต้องไม่ได้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้มานานแล้วครับ!)

และสามารถปรับเปลี่ยน สินค้า บริการ และช่องทางการเข้าถึงลูกค้า ไปจนถึงช่องทางการชำระเงิน เพื่อรองรับ Customer Journey ของลูกค้ายุคใหม่ ให้ลูกค้ายุคใหม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีแบบ“ทันใจและถึงใจ”ตลอดเส้นทางได้...

พูดง่ายๆ การเปลี่ยนได้ทุกอย่าง ในทุกเวลาที่ต้องเปลี่ยน กลายเป็นสิ่งจำเป็นขององค์กรและธุรกิจในยุคปัจจุบันไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องมั่ว ไม่ใช่ไร้ทิศทาง..ทิศทางยังคงชัดเจน แต่ในระหว่างทาง สามารถเปลี่ยนเส้นทางให้บรรลุเป้าหมายได้!

การไม่พยายามปรับเปลี่ยนอะไรเลย ท่ามกลางสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่เร็วและแรงในทุกวันนี้ จึงเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด!

การปรับเปลี่ยนที่เชื่องช้า ปรับเปลี่ยนแบบครึ่งๆกลางๆ เป็นเรื่องอันตรายรองลงมา..

คำถามสุดท้ายที่เราควรถามตัวเองในทุกๆวันก็คือ..

เราสามารถเปลี่ยนอะไรได้ในแต่ละวัน เพื่อให้องค์กรของเรา รองรับหรือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นในทุกๆวัน !?