เมื่อกระเป๋าเงินออนไลน์ตกเป็นเหยื่อแฮกเกอร์

 เมื่อกระเป๋าเงินออนไลน์ตกเป็นเหยื่อแฮกเกอร์

ยิ่งอะไรเป็นที่นิยมหรือมีความท้าทาย ยิ่งเป็นแรงดึงดูดให้เหล่าแฮกเกอร์เข้ามาประลองฝีมือ เช่นกระแสการซื้อขาย “บิทคอยน์ (Bitcoin)” 

ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะขณะนี้ค่าเงินทะยานไปสูงถึง 14,000 เหรียญ โดยเพิ่มขึ้น 2,500 เหรียญเพียงวันเดียว หรือกล่าวได้ว่าเพิ่มเป็น 14 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 

ข่าวล่าสุดที่ออกมาทำให้ผู้เล่นตลาดบิทคอยน์ต้องตื่นตระหนกไปตามกัน เมื่อตลาดแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง NiceHash หนีไม่พ้นแฮกเกอร์ โดยสูญเสียบิทคอยน์ ไปถึง 4,736.42 หรือเกือบ 68 ล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยกว่า 2,000 ล้านบาท ทาง NiceHash จึงต้องออกประกาศให้ผู้ใช้เปลี่ยนชื่อผู้ใช้และรหัสเข้า

เหตุการณ์นี้กระทบผู้ใช้งานกระเป๋าเงินชื่อดังนี้ทั่วโลก รวมถึงเหล่านักลงทุน บิทคอยน์ในประเทศไทยด้วย เหตุการณ์ไม่ใช่ครั้งแรกของตลาดแลกเปลี่ยนที่ถูกแฮก ในปีก่อนหน้าแม้ว่าค่าเงิน บิทคอยน์ยังไม่สูงเท่าปีนี้แต่ก็เป็นที่สนใจของเหล่าแฮกเกอร์เช่นกัน อย่างเมื่อปี 2558 Bitstamp ตลาดซื้อขายสกุลเงิน Crypto Currency สูญเสีย บิทคอยน์ ไปราว 19,000 เหรียญ หรือประมาณ 165,000 ล้านบาท และในปี 2559 ตลาดแลกเปลี่ยนแห่งใหญ่ของฮ่องกงอย่าง Bitfinex ถูกแฮกเกอร์ขโมยบิทคอยน์ ไป 119,756 หรือประมาณกว่า 2,000 ล้านบาทเช่นกัน ขณะที่เมื่อช่วงกลางปี 2560 มีข่าวตลาดแลกเปลี่ยนรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกที่เกาหลีใต้อย่าง Bithumb โดนแฮกสูญเสียไปกว่า 1 พันล้านวอน หรือประมาณ 800,000 กว่าเหรียญ และยังโดยขโมยบัญชีผู้ใช้งานไปอีก 30,000 บัญชี

ระบบความปลอดภัยจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเราเห็นบทเรียนของเหล่าบริษัทใหญ่ๆ ที่ถูกแฮกเกอร์โจมตีมีมาตลอด ไม่ว่าจะข่าวล่าสุดของผู้ใช้แมคโอเอสที่ผ่านมา จากการพบช่องโหว่ร้ายแรง หรือข่าวบริษัทให้บริการแอพพลิเคชั่นแท็กซี่ยักษ์ใหญ่ที่ถูกแฮกเกอร์โจมตี และยังมีบริษัทหรือองค์กรอีกไม่น้อยที่ถูกเล่นงานจากภัยร้ายเหล่านี้ หวังเพียงว่าบริษัทหรือองค์กรที่เหลือจะได้รับบทเรียนและสร้างระบบความปลอดภัยที่ป้องกันภัยร้ายไซเบอร์ได้รัดกุมมากยิ่งขึ้น 

แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่บริษัทองค์กรที่ตกเป็นเป้าหมาย ผู้ใช้ทั่วไปอย่างเราก็เป็นเหยื่อชั้นดีที่อาจกลายเป็นช่องทางเข้าถึงเป้าหมายใหญ่อย่างบริษัทที่เราทำงานอยู่ หรือถูกขโมยข้อมูลและสูญเสียเงินเช่นกัน ดังนั้นให้ผู้ใช้ทั้งหลายการตระหนักถึงการใช้งานอุปกรณ์ แอพลิเคชั่นต่างๆ อย่างรอบครอบปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่ภาครัฐหรือองค์กรต้องช่วยกันสร้าง