ดิจิทัล เทรนด์ 2018

ดิจิทัล เทรนด์ 2018

นวัตกรรมดิจิทัลในปี 2018 จะเพิ่มความคาดหวังแก่ผู้คนถึงการมีไลฟ์สไตล์ ที่สมาร์ทมากขึ้นด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา

ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทแชทบอท ให้คำแนะนำและบริการที่สอดแทรกการขายสินค้าได้ตรงเป้าหมายตรงเวลา หรือ Voice Assistant Platformอย่าง Siri, Alexa หรือ Google Assistant ที่สามารถสนทนาพูดคุยได้ราวกับมีตัวแทนของแบรนด์อยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม Alexa ของอเมซอน ที่มาเหนือชั้นกว่าการเป็นเพียงแค่การถามตอบ แต่ลูกค้าสามารถจบการสั่งซื้อสินค้ากับอเมซอนได้เพียงคำสั่งสั้นๆ ระหว่างการสนทนา

เช่นเดียวกันกับการที่ภาคอุตสาหกรรมเผชิญกับความท้าทายในการสร้างหรือเลือกใช้นวัตกรรมที่ชาญฉลาดในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายความสามารถของธุรกิจในการรับมือกับคู่แข่งหน้าเดิมและคู่แข่งจากต่างสนาม เช่น การผลิตแบบ Industry 4.0 หรือ Industrial Internet ที่นำเอาเทคโนโลยี IoT นวัตกรรมหุ่นยนต์ Edge Computing และ AI เข้ามาใช้ในสมาร์ทแฟคเตอรี่ เป็นต้น

ดิจิทัลที่มากกว่าการตลาด

ดิจิทัลในวันนี้ไม่ควรถูกมองแค่เพียงการใช้งานด้าน ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing)การใช้มีเดีย(Ad Platform)แอพและสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ควรถูกคิดครอบคลุมทั้ง Ecosystem ของธุรกิจนับแต่การใช้นวัตกรรมที่ชาญฉลาด (Smart) ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในเวลาที่เหมาะสม (Marketing Automation) เข้าใจถึงความสนใจของลูกค้า (Analytics) เสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความพอใจ (Targeting) ให้บริการที่ตรงความต้องการ (eCRM และ Voice Assistant Platform) การซื้อและการชำระเงิน (Digital Commerce และ Digital Payment) การออกแบบที่คำนึงถึงลูกค้าและการให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า (User Experience Design) 

ตลอดจนกระบวนการผลิตที่สายการผลิตเชื่อมต่อถึงกัน (Connect) อย่างชาญฉลาดตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การสต๊อกสินค้าและการจัดส่ง (IoT and Smart Factory) รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรทางเทคโนโลยีในการพัฒนาสินค้าและบริการ

ดิจิทัลในวันนี้ไม่ควรถูกมองแค่เพียงการใช้งาน ด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง การใช้มีเดีย แอพพลิเคชั่น และสมาร์ทโฟนเท่านั้น 

แต่ควรถูกคิดครอบคลุมทั้ง Ecosystem ของธุรกิจ นับแต่การใช้นวัตกรรมที่ชาญฉลาด ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในเวลาที่เหมาะสม เข้าใจถึงความสนใจของลูกค้า เสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความพอใจ ให้บริการที่ตรงความต้องการ การซื้อและการชำระเงิน การออกแบบที่คำนึงถึงลูกค้าและการให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า 

ตลอดจนกระบวนการผลิตที่สายการผลิตเชื่อมต่อถึงกัน อย่างชาญฉลาดตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การสต๊อกสินค้าและการจัดส่ง รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรทางเทคโนโลยีในการพัฒนาสินค้าและบริการ

เทรนด์มาแรงปี 2018

ยุคเริ่มต้นของการแข่งขันทางธุรกิจที่ต้องมีทั้งความสมาร์ท (Smart) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เริ่มขึ้นแล้ว ธุรกิจจำต้องเร่งประยุกต์ใช้ความสมาร์ทของเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI ในทั้งระบบ Ecosystem จึงทำให้เทรนด์ดิจิทัลปี 2018 ที่ควรจับตามอง ได้แก่:

1.สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ที่ถูกเร่งด้วยความสะดวกในการจับจ่ายผ่านดิจิทัลเพย์เมนท์อย่าง QR Code หรือระบบเพย์เมนท์อย่างอาลีเพย์ (Alipay) และระบบเพย์เมนท์ของธนาคารต่างๆ ซึ่งเป็น Ecosystem ที่อาจเกิดฟินเทคดิสรัปชั่นต่อระบบค้าปลีกและการเงิน ดังที่เกิดจาก WeChat และ Alipay ในจีนมาแล้ว

2.Targeting และ Marketing Automation ที่แบรนด์สามารถส่งแบนเนอร์ โฆษณา อีเมลหรือเมสเสจตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่อาจมีความสนใจผลิตภัณฑ์ในเวลานั้น และอาจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจใกล้เคียงกัน นับเป็นการใช้โฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและกำลังดึงเม็ดเงินมายังช่องทางดิจิทัลสูงขึ้นทุกปี ดังตัวเลขประมาณการจากบริษัท Magna ที่คาดว่าสัดส่วนการโฆษณาดิจิทัลในปี 2017 อยู่ที่ 209,000 ล้านดอลลาร์หรือคิดเป็น 41% ของการใช้มีเดียทั่วโลก ซึ่งสูงกว่าเม็ดเงินการใช้สื่อทีวีที่ 178,000 ล้านดอลลาร์หรือคิดเป็น 35%

3.การใช้แชทบอท หรือ Bot ในแชทหรือในแอพเพื่อให้บริการและการขายแบบอัตโนมัติ โดยเทคโนโลยีของบอทเองก็ถูกเร่งพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถสนทนาและตอบคำถามได้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดด้วยนวัตกรรม AI พร้อมกับการใช้งานของแพลตฟอร์มพูดได้อย่าง Voice Assistant เช่น Alexa หรือ Google Assistant ที่กำลังถูกนำมาเชื่อมต่อเข้ากับระบบหรืออุปกรณ์รอบบ้าน เพื่อสร้างประสบการณ์ในการให้บริการและการขายที่ตรงความต้องการลูกค้า

4. Analytics และ Big Data กำลังเป็นประเด็นร้อนที่องค์กรชั้นนำต่างทำความเข้าใจและเร่งมือที่จะวางแผน คัดกรองและจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพื่อแผนใหญ่ในการประยุกต์ใช้นวัตกรรม AI เพื่อให้ตอบโจทย์การค้าและธุรกิจมากที่สุด

5. Customer Experience (CX) ที่มุ่งการออกแบบและสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกค้าในทุกจุดที่ลูกค้าสัมผัสกับแบรนด์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การออกแบบที่คำนึงถึง User Experience (UX) Design ช่วยสร้างความเชื่อมโยงและความรักในแบรนด์ซึ่งถูกนำมาใช้กับออนไลน์หลายรูปแบบ

6. IoT และ Smart Device การที่อุปกรณ์สื่อสารและทำงานกันเองนับเป็นนวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพในทางอุตสาหกรรม การเกษตรและการอยู่อาศัย ธุรกิจจะประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ ในผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต รวมถึงการใช้หุ่นยนต์และนวัตกรรม Machine Learning ในโรงงานอีกด้วย

7. วางฐานราก AI ซึ่งเปรียบเสมือนกล่องดำที่องค์กรพยายามนำมาใช้ด้วยความหวังที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ แต่ยังคงต้องอาศัยความเข้าใจ ความรู้ การลงทุนด้านทรัพยากรและบุคลากรที่ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้พร้อมแข่งขันกับคู่แข่งทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมดิจิทัลอีกหลายแขนงที่เป็นกระแสแรงและอาจโหมกระหน่ำธุรกิจในปี 2018 อาทิ Blockchain ที่เป็นกลไกหลักของ BitCoin และสามารถถูกประยุกต์ใช้เป็น Trust System อื่นๆ รวมถึงเทคโนโลยี VR/AR/MR ที่กำลังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค หรือระบบรถยนต์หรือรถบรรทุกไร้คนขับ (AV) ตลอดจนแนวคิด Industrial Internet ที่กำลังถูกพัฒนาคู่ขนานไปกับ Smart Factory

ก้าวใหญ่ที่รออยู่

การประยุกต์ใช้นวัตกรรมดิจิทัลจะเกิดลุล่วงต่อเนื่องเมื่อองค์กรสามารถทรานส์ฟอร์มการดำเนินธุรกิจ วัฒนธรรมองค์กร และความสามารถของบุคลากรให้พร้อมเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (Industrial Revolution) ที่กำลังก่อตัว ปี 2018 คงเป็นปีที่ธุรกิจชั้นนำเร่งพลิกโอกาสเพื่อนำความสมาร์ทของเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมที่มีดิจิทัลเป็นแกนขับเคลื่อนสำคัญ