เพราะโลก“ดิจิทัล” ไม่ควรทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เพราะโลก“ดิจิทัล” ไม่ควรทิ้งใครไว้ข้างหลัง

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน ขึ้นชื่อว่า “ยุคดิจิทัล” ในปัจจุบัน อุปกรณ์ไอทีอย่างคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน แทบเล็ต ฯลฯ

เรียกได้ว่าแทบจะกลายเป็น “ปัจจัย4” หรือ“อวัยวะที่33”ของพวกเราไปเสียแล้ว

แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่อาจยังไม่เคยมีโอกาสได้เข้าถึงโลกดิจิทัลเหล่านี้เลย ซึ่งวันนี้ดิฉันขอเล่าให้ฟังถึงกรณีตัวอย่างจากประเทศอังกฤษ และการแก้ปัญหาโดยภาคประชาชนและภาคธุรกิจเพื่อสังคมของพวกเขากันค่ะ

จากรายงาน 2017 Basic Digital Skills ที่จัดทำโดยเวบไซต์The Tech Partnershipร่วมกับLloyds Bankเพื่อสำรวจทักษะทางด้านดิจิทัลของชาวอังกฤษประมาณ3% ของประชากรชาวอังกฤษวัย 15-24 ปี (หรือประมาณ 3 แสนคน) นั้นจัดว่าเป็นผู้ที่ “ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง” (left behind) ซึ่งหมายความว่า สำหรับคนหนุ่มสาวทั่วไป การขาดทักษะทางด้านดิจิทัลนั้นทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมทางสังคม เพราะทุกวันนี้ “ดิจิทัล” กลายเป็นปัจจัย 4 ของคนเกือบทุกคน และยังกลายเป็นประเด็นถกเถียงสำคัญในสภาสูงในรัฐสภาของอังกฤษ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้มากขึ้น

ที่ผ่านมามีบริษัทไอทีหลายแห่งพยายามพัฒนาทักษะความรู้ด้านดิจิทัล โดยผนวกเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม CSR ของบริษัท ซึ่งบ่อยครั้งมักเป็นโครงการที่ออกแบบมาสำหรับเยาวชนที่ได้รับการสนับสนุนหรือมีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาทักษะดิจิทัลของตนเองอยู่แล้ว แต่สำหรับคน 3 แสนคนที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้น จะช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างไร โจทย์นี้จึงเป็นที่มาให้กิจการที่เรียกตัวเองว่าเป็นPublic benefit companyอย่างNominetที่ได้ก่อตั้งหน่วยงานกองทุนการกุศลของตนเองขึ้นมาโดยมีชื่อว่า Nominet Trust ให้เข้ามาทำการศึกษาวิจัย เพื่อหาสาเหตุว่าอะไรที่ทำให้เยาวชนเหล่านี้ขาดโอกาสในการเข้าถึงดิจิทัล

ผลการศึกษาที่ได้นั้นพบว่ากลุ่มคนที่ขาดทักษะทางดิจิทัลนั้นมักเป็นคนที่ด้อยโอกาสทางสังคมในหลายๆ ด้าน โดยมีอุปสรรคหลัก 3 ประการด้วยกันนั่นคือ 1. อุปสรรคด้านทักษะพื้นฐานของตนเองเช่น ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้หรือไม่สามารถคิดเลขได้ 2. อุปสรรคแวดล้อม เช่น สภาพแวดล้อมหรือสถานที่อยู่อาศัยไม่สามารถเข้าถึงดิจิทัลได้ เช่น ไม่มีอินเทอร์เน็ต และ3. อุปสรรคเชิงระบบ เช่น การพักอาศัยอยู่กับสมาชิกครอบครัวหลายช่วงวัยหรือไม่ได้ทำงาน ซึ่งทำให้ขาดแรงบันดาลใจในการพัฒนาทักษาด้านดิจิทัล และอุปสรรคเหล่านี้จะยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีกเมื่อกลุ่มเยาวชนเหล่านี้ขาดการเข้าถึงดิจิทัลเป็นระยะเวลานาน ซึ่งโดยมากมักมีสาเหตุมาจากการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม (เช่นจำคุก) การย้ายที่อยู่อาศัย ครอบครัวแตกแยก การติดยาเสพติดหรือการมีความรุนแรงในบ้าน

สำหรับในมุมมองของบางคน การพัฒนาให้คนอ่านออกเขียนได้หรือคำนวณเลขได้อาจสำคัญกว่าการสร้างทักษะด้านดิจิทัล อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน ผลการศึกษาดังกล่าวพบว่าการมีทักษะทางด้านดิจิทัลและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้นั้นเป็นปัจจัยพื้นฐานที่เอื้อให้เยาวชนสามารถพัฒนาความรู้พื้นฐานของตนเองได้ และจะนำมาซึ่งผลประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายเช่นทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น มีความนับถือตนเองมากขึ้น และมีความสามารถในการหางานทำ เป็นต้น

ในกลางปีที่ผ่านมาNominet Trustจึงเปิดตัวโครงการ Digital Reach ซึ่งนับเป็นโครงการแรกในประเทศอังกฤษที่เน้นการสร้างทักษะด้านดิจิทัลให้แก่กลุ่มเยาวชนที่ขาดโอกาส โดยได้ร่วมกับองค์กรเยาวชนชั้นนำ 12 แห่งในอังกฤษ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 6 แสนปอนด์ หรือประมาณ 26 ล้านบาท นำมาดำเนินโครงการใน 6 ด้าน ในระยะเวลา 9 เดือนจากนี้ อาทิ การสร้างแคมเปญ#techmumsสอนความรู้พื้นฐานด้านดิจิทัลให้แก่บรรดาแม่ๆ, การสร้างDigital Hubsเพื่อสอนเยาวชนให้เป็น “Digital champions” เพื่อไปสอนเยาวชนขาดโอกาสรายอื่นๆ ต่อไป หรือการร่วมพัฒนาหลักสูตรอีเลิร์นนิ่งกับพาร์ทเนอร์ เพื่อสอนความรู้พื้นฐานด้านดิจิทัลให้แก่เยาวชน เป็นต้น

   “วิคกี้ เฮิร์น ผู้อำนวยการNominet Trustกล่าวว่า “เยาวชนที่ขาดโอกาสเข้าถึงดิจิทัลนั้นเป็นกลุ่มที่เข้าถึงยากมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง และเราจำเป็นต้องหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับพวกเขา เพื่อทำลายวงจรการขาดโอกาสนี้ให้หมด ซึ่งวิธีที่เราเคยทำมานั้นทำให้มั่นใจว่าDigital Reachจะสร้างผลที่จับต้องได้จริง และทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น จากเดิมที่เคยถูกทิ้งไว้เบื้องหลังมาโดยตลอด โดยในเร็วๆ นี้ เราจะประเมินว่าโครงการใดที่จะช่วยให้กลุ่มคนขาดโอกาสเหล่านี้สามารถติดอาวุธความรู้ด้านดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดหวังว่าสิ่งที่เราทำจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายๆ องค์กรให้หันมาลองทำในแบบของตนเองดูบ้าง”

ส่วนรัสเซลล์ ฮาวอร์ธ ซีอีโอของNominetซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งNominet Trustกล่าวว่า “การที่เราได้ทำงานร่วมกับองค์กรที่เชี่ยวชาญและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าเยาวชน เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เราได้มีส่วนในการสนับสนุนให้เยาวชนเหล่านี้ให้มีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่เยาวชนเหล่านี้จะได้ประโยชน์ แต่ยังเอื้อต่อเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกด้วย”

และเพื่อวัดผลว่าแคมเปญDigital Reachนั้นสร้างผลเชิงบวกได้มากน้อยแค่ไหน โครงการDigital Reachจะมีการวัดผลโดยร่วมมือกับLondon School of Economics and Political Scienceและผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เพื่อหาแนวทางการประเมินผลที่ได้ต่อไป

ทั้งนี้เพราะเป้าหมายของโครงการDigital Reachคือการพาทุกคนก้าวไปด้วยกันในยุคดิจิทัล โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Leaving no-one behind) นั่นเองค่ะ