มะกันเล่นงานโสมแดงรอบใหม่ มีหรือที่มังกรจีนจะไม่หงุดหงิด

มะกันเล่นงานโสมแดงรอบใหม่ มีหรือที่มังกรจีนจะไม่หงุดหงิด

เกือบจะทันทีที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กลับจากการเยือนจีนเมื่อต้นเดือนนี้,วอชิงตันก็ทำอะไรที่สี จิ้นผิงคงต้องหงุดหงิดไม่น้อยว่าด้วยกรณีเกาหลีเหนือ

ประการแรก คือ คำประกาศของสหรัฐ ที่ให้เกาหลีเหนือกลับไปอยู่ในบัญชีรายชื่อ "ประเทศสนับสนุนการก่อการร้าย" ซึ่งเดิมมีอีกสามประเทศคืออิหร่าน  ซูดาน และซีเรีย

ประการที่สอง คือ คำสั่งจากวอชิงตันให้ลงโทษบริษัทจีน ที่ยังทำมาค้าขายกับเกาหลีเหนือ รวมไปถึงบริษัทโสมแดง ที่ยังสามารถทำธุรกรรมในตลาดโลก

มะกันเล่นงานโสมแดงรอบใหม่ มีหรือที่มังกรจีนจะไม่หงุดหงิด

ข้อแรกนั้นทำให้สี จิ้นผิง คงจะต้องเสียความรู้สึกกับทรัมป์ เพราะหากสหรัฐ ต้องการให้ปักกิ่งช่วยพูดกับเปียงยาง ก็จะต้องละเว้นการกระทำใด ๆ ที่เกาหลีเหนือถือว่าเป็นการยั่วยุจากอเมริกาในระยะนี้

เพราะจีนเพิ่งส่ง "ทูตพิเศษ" ไปเปียงยาง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ที่ช่วงหลังทำท่าจะคลอนแคลน เพราะอเมริกามาแทรกแซงนี่แหละ

แม้แต่ทรัมป์เอง ก็ยังทวีตว่า การที่สี จิ้นผิง ส่งทูตพิเศษไปเปียงยางนั้นเป็น "เรื่องดี" และเขาจะคอยดูผลที่จะออกมา

เรื่องที่สองนั้น ปักกิ่งต้องโวย เพราะแค่ไม่กี่วันหลังจากทรัมป์บอกว่ามาเจอกับสี จิ้นผิง แล้วพูดกันรู้เรื่อง แต่แค่หันหลังให้เท่านั้น รัฐบาลสหรัฐก็ประกาศเล่นงานบริษัทจีน ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการค้าขายเกาหลีเหนือแล้ว

อย่างนี้ไม่ถือว่าตบหน้ากันแล้วจะตีความว่าอย่างไร

ทางการจีนไม่เกรงใจ ออกแถลงการณ์วิพากษ์อเมริกา ที่ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ ระบุว่า การคว่ำบาตรเพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐนั้น อยู่นอกเหนือขอบข่ายของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี)

ถ้อยแถลงจากนายลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนมีขึ้น หลังจากที่สหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ อันเนื่องจากมาจากการที่เกาหลีเหนือเดินหน้าโครงการอาวุธนิวเคลียร์

การคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐนั้น ครอบคลุมถึงการขึ้นบัญชีดำบริษัท และบุคลากรของจีนที่อเมริกาอ้างว่ามีความพัวพันทางธุรกิจที่ใกล้ชิดกับโสมแดง

สหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรบุคลากร 1 ราย องค์กรของจีน และเกาหลีเหนืออีก 13 รายที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

ชัดเจนว่าเป้าหมายคือ การสกัดท่อน้ำเลี้ยง ให้กับโครงการที่วอชิงตันกลัวว่า กำลังคืบหน้าไปมากกว่าที่คาดคิดทีเดียว

กระทรวงการคลังสหรัฐ บอกด้วยว่าในบรรดา 13 องค์กรที่ถูกคว่ำบาตรนั้น มี 4 รายเป็นบริษัทของจีน ส่วนอีก 9 รายเป็นบริษัทของเกาหลีเหนือ

เกือบไม่ต้องสงสัยว่า จีนจะต้องมองความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐ ด้วยความคลางแคลงในความจริงใจของทรัมป์ ในการคบหากับผู้นำของปักกิ่ง

เท่ากับว่าในท้ายที่สุดแล้ว ภาพจับไม้จับมือยิ้มแย้มแจ่มใสของทรัมป์กับสี และภรรยาของทั้งสองผู้นำ ก็เป็นเพียงการสร้างภาพระหว่างกันเท่านั้น

แต่เนื้อ ๆ ของความสัมพันธ์ยังมีปัญหาค้างคาอีกมาก

ดังนั้น โอกาสที่จะมีการเจรจาเพื่อลดความตึงเครียดตรงคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐจึงหดหายไปอีกรอบ

ยิ่งมีภาพการ “แปรพักตร์” ของทหารเกาหลีเหนือตรงเส้นที่ 38 ซึ่งถูกยิงบาดเจ็บหลังจากถูกไล่ตามอย่างแข็งขันของเพื่อนทหารที่ตั้งยามอยู่ตรงนั้น ก็ยิ่งทำให้คิม จอง อึน ต้องรู้สึกเสียหน้าอย่างยิ่ง

ฟ้าส่งทรัมป์มาเกิด ไฉนจึงส่งให้คิมน้อยมาร่วมโลกเดียวกันด้วย

ผมเดาเอาเองว่า นั่นคงเป็นคำถามของสี จิ้นผิง ที่กำลังประเมินไม่ออกว่า ทรัมป์จะเอายังไงกันแน่!