‘พานทองแท้’ แก้ข้อหาฟอกเงิน

‘พานทองแท้’ แก้ข้อหาฟอกเงิน

000 หลังจาก“พานทองแท้ ชินวัตร”บุตรชาย ทักษิณ ชินวัตร เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพื่อรับทราบข้อหาฟอกเงิน สมคบฟอกเงินไป เมื่อ18ต.ค.ที่ผ่านมา

 โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหาและขอเวลารวบรวมเอกสารหลักฐานประกอบคำให้การแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษรภายในเวลา60วันซึ่งจะครบกำหนดในวันที่18ธ.ค.นี้ จากนั้นคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ-อัยการ จะได้พิจารณาร่วมกันอย่างถี่ถ้วนก่อนสรุปสำนวนคดีว่าสมควรสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง โดยกระบวนการในชั้นสอบสวนต้องแล้วเสร็จก่อนที่คดีจะขาดอายุความในช่วงกลางปี61 

000 ผลพวงจากขบวนการรับจ้างติดคุกในการร้องขอรื้อฟื้นคดีอาญาให้กับครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ที่อยู่ระหว่างการชำระความของตำรวจ ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวง ได้เข้ามาจัดระบบก่อนก่อนหน้าที่ศาลฎีกาจะมีคำสั่งยกร้องไม่รับรื้อฟื้นคดี.โดยสลับให้ ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดยุติธรรมอีกคน เข้ามาดูแลงานรับเรื่องร้องทุกข์แทน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิพร้อมตีกรอบให้งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ทั้งหมดต้องยื่นผ่านศูนย์บริการร่วมเท่านั้น.กรณีร้องขอรื้อฟื้นคดีอาญาซึ่งเป็น “งานหิน” ต้องพิจารณาในรูปคณะกรรมการชุดใหญ่ของกระทรวง นั่นเพราะสิทธิในการรื้อฟื้นคดีอาญามีเพียงครั้งเดียวพลาดเท่ากับเสียสิทธิทันที ส่วนความเป็นมาในการช่วยเหลือ“ครูจอมทรัพย์” ทั้งที่เครื่องจับเท็จจับโกหกได้ว่าให้การเท็จและมีขบวนการว่าจ้างติดคุก จะกระจ่างแจ้งภายใน30วันด้วยการให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกระทรวงยุติธรรม

000 สำหรับข้อคลางแคลงใจในสาเหตุการเสียชีวิตของ น้องเมย ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งญาติอาจไม่วางใจในผลการชันสูตร ของทีมแพทย์รพ.พระมงกุฏเกล้า จนต้องร้องขอให้สภ.องครักษ์ ส่งศพมาให้ทีมพยาธิแพทย์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผ่าพิสูจน์ซ้ำ โดยมีคำสั่งแต่งตั้ง หมอแจน สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ ผอ.กองนิติวิทยาศาสตร์บริการ เป็นประธานกรรมการตรวจพิสูจน์แยกธาตุครั้งที่ 2. ร่วมกับนายแพทย์ชำนาญการและนักนิติวิทยาศาสตร์ชำนาญการ ซึ่งจะรู้ผลการตรวจสอบอย่างละเอียดในวันที่ 30 พ.ย.นี้. หลังจากนี้หากต้องการเคลียร์ทุกข้อข้องใจสงสัย ควรหรือไม่ที่จะกำหนดให้การตายโดยผิดธรรมชาติของทหารต้องส่งตรวจที่นิติเวชอื่น ที่ไม่ได้อยู่ในสังกัด รพ.ทหาร เช่นเดียวกับการเสียชีวิตของตำรวจหรือคดีวิสามัญฆาตกรรม ก็ต้องส่งให้หน่วยงานข้างเคียงเป็นผู้ตรวจสอบ เพื่อให้เกิดภาพของความโปร่งใสและถ่วงดุล