ทุ่งคาฯกางแผนหลังฟื้นฟู ยืนยันไร้นอมินีทุนใหญ่

ทุ่งคาฯกางแผนหลังฟื้นฟู ยืนยันไร้นอมินีทุนใหญ่

พิธีกร Stock Gossip by Money Wise ติดตาม live จ-ศ 13.30-14.00 น.

เอ่ยชื่อ บริษัท ทุ่งคา ฮาร์เบอร์ จำกัด (มหาชน) เชื่อว่ามีนักลงทุนหลายคนที่เคยลงทุนในหุ้นบริษัทนี้ยังเข็ดขยาด ด้วยประวัติผ่านการฟื้นฟูกิจการมาแล้วถึงสองรอบ จากการอยู่ในกลุ่มฟื้นฟูกิจการ หรือหุ้นรีแฮปโก้ ออกมาทำการซื้อขายรอบใหม่ แต่สุดท้ายไม่รอดต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ศาลล้มละลายกลาง

ช่วงปี 2555-2556 บริษัทประสบปัญหาหนี้สินท่วมตัว จากคดีพิพาททั้งกับธนาคารดอยซ์ แบงก์ เอ จี ฟ้องล้มละลายบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ในฐานะบริษัทลูก กรณีไม่ปฎิบัติตามสัญญาส่งออกทองคำ ข้อพิพาทกับประชาชนที่อยู่ละแวกเหมือง คดีปฎิรูปที่ดิน คดีชำระค่าตอบแทนใช้ที่ดินปฎิรูป

ช่วงระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการบริษัทสามารถเจรจาตกลงกับเจ้าหนี้ได้ก่อนกำหนด 5 ปี ซึ่งมีการขายบ.ทุ่งคำ ออกไป และเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO)และเฉพาะเจาะจง (PP) ทำให้มีจำนวนหุ้นทั้งหมด 23,400 ล้านหุ้น จากเดิม 756.93 ล้านหุ้น

ภายหลังจากการเพิ่มทุนแล้วบริษัทสามารถเจรจาตกลงกับเจ้าหนี้ได้ทั้งหมด ส่วนคดีกับทางดอยซ์แบงก์ เอ จี อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล แต่ได้มีการตั้งสำรองไว้แล้ว 333 ล้านบาท นอกจากนี้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ พร้อมทีมผู้บริหารชุดใหม่ เพื่อมาเรียกกระแสก่อนที่จะกลับเข้ามาทำการซื้อขายในตลาดหุ้นอีกเป็นรอบที่ 3 ในปี 2561

ปัจจุบันบริษัทมีโครงสร้างธุรกิจประกอบไปด้วย ธุรกิจเหมืองแร่ อสังหาริมทรัพย์ และพลังงานทดแทน ซึ่งรายได้หลักมาจากธุรกิจเหมืองแร่ 70 %และอสังหาฯ 30 % ส่วนรายได้จากพลังงานทดแทนเริ่มเข้ามาในปี 2561

สำหรับผลประกอบการรอบ 9 เดือน บริษัทมีรายได้ 257.53 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีกอ่น และมีกำไร 42.48 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 211.62 ล้านบาท

ปีนี้บริษัทมีรายได้จากเหมืองแร่หิน ที่สระบุรี ซึ่งยอดขายเกินกว่าเป้าหมายในปีนี้ 2 แสนตันอยู่ที่ 2.4 แสนตัน คาดการณ์ว่าในปีนี้น่าจะมียอดขายอยู่ที่ 2.7 แสนตัน ซึ่งในปีหน้ามียอดสั่งซื้อล่วงหน้าจากลูกค้าเข้ามา 5 แสนตัน ให้กับลูกค้ากลุ่มประเทศจีน เพื่อรองรับโครงการลงทุนรถไฟทางคู่

นอกจากนี้มีเหมืองแร่ดีบุกที่ เมียนมาที่เริ่มเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีปริมาณผลิตที่ 100 ตันต่อเดือน คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 30 % หลังจากเพิ่มเครื่องบดหินในปีนี้

ธุรกิจอสังหาฯ มีโครงการบ้านแนวราบที่สะพานหิน จังหวัดภูเก็ต โดยมียอดโอนขายไปแล้ว 100 ล้านบาท และได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมในพื้นที่ใกล้เคียงอีก 14 ไร่ เพื่อลงทุนโครงการใหม่ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจความต้องการตลาดจะเป็นโครงการในรูปแบบใด

ส่วนธุรกิจพลังงงานทดแทนมีลงทุนในประเทศ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรพูนสุข จำกัด จังหวัดชุมพร จำนวน 5 เมกะวัตต์ รับรู้รายได้ช่วง เดือนส.ค.-ก.ย. ปี 2561 โครงการกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตไฟฟ้า 6 เมกะวัตต์ รับรู้รายได้ปี 2563

สำหรับในต่างประเทศมีการลงทุนพลังงานทดแทนที่เวียดนามกับพันธมิตรซึ่งบริษัทจะถือหุ้น 60 % และที่อิรวดี เมียนมา ถือหุ้น 70 % คาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งสองโครงการในปี 2562

ด้านกลุ่มผู้บริหารชุดใหม่ ‘วิจิตร เจียมวิจิตรกุล ‘ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร กล่าวกับ Stock Gossip ปฎิเสธไม่ได้เป็นนอมินีให้กับนักลงทุนรายใหญ่ แต่เป็นการลงทุนด้วยตัวเองจากการผู้ถือหุ้นรายย่อย 1 % ลงทุน 10 ล้านบาทรับความเสียหายจากการลงทุนเหมือนกับรายย่อยอื่นก็เข้ามาเพิ่มทุนเพื่อบริหารจนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เม็ดเงินลงทุน 100 ล้านบาท 

คาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 ปี 2560 มีรายได้ขายหินเข้ามาเพิ่มอีก 70 ล้านบาท ส่วนในปี 2561 ตั้งเป้าจะมีรายได้อยู่ที่ 500-600 ล้านบาท แต่หากสามารถก่อสร้างและเปิดขายโครงการใหม่ได้ทัน รายได้มีโอกาสแตะที่ 1,000 ล้านบาท  ซึ่งตามแผนปีหน้าบริษัทยังเตรียมลงทุนเพิ่มเติมธุรกิจเหมืองในประเทศและต่างประเทศ เช่น เมียนมาและที่สปป.ลาว ซึ่งเงินลงทุนมาจากเงินทุนของบริษัท วงเงินสินเชื่อ และกระแสเงินสดเข้ามาเฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อเดือน

จากผลประกอบการทำให้บริษัทสามารถกลับมาซื้อขายอีกครั้งกลางปี 2561 อย่างไรก็ตามก่อนจะกลับมาซื้อขายต้องมาพิจารณาจำนวนหุ้นให้เหลือลดลงประมาณ 4,000-5,000 ล้านหุ้น อาจจะมีการขอประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลดราคาพาร์ทจาก 1 บาท