Scorpion

Scorpion

ตัวช่วยหนึ่งของชีวิต Expat คือ Netflix เปิดดูได้ทุกประเทศที่เดินทางไป ช่วงนี้ผมกำลังติดโชว์ Scorpion

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเรานำคนฉลาดสุดๆมาทำงานร่วมกัน นั่นคือคอนเซปต์ ของซีรีส์นี้

Scorpion เป็นชื่อของทีมที่ประกอบด้วยอัจฉริยะสี่คน 

Walter เป็นหัวหน้า เขามีไอคิวระดับ 197 เป็นอันดับสี่ของโลก (ไอสไตน์ไอคิว 165) เป็นนักเขียนโปรแกม และแฮกเกอร์ตัวฉกาจ รูปหล่อ แข็งแรง ฉลาด น่าจะเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ

Sly หรือ Sylvester เป็นอัจฉริยะด้านตัวเลข มีความจำแบบ photographic คำนวณค่าสมการได้เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ สอบผ่านเป็นทนายได้ด้วยการอ่านหนังสือเพียง 5 ชั่วโมง

Toby คือนักจิตวิทยาชั้นเลิศ จบจาก Harvard Medical School ด้วยวัยไม่ถึง 20 มองเพียงแวบเดียวสามารถอ่านคนได้แม่นกว่าหมอดู บอกได้ว่าใครคิดอะไรอยู่ แถมเป็นแพทย์มือฉมัง ทำผ่าตัดบายพาสหัวใจกลางแจ้งได้ด้วยเครื่องมือภาคสนาม

Happy เป็นเอนจิเนียร์ระดับพระกาฬ เธอสร้างอะไรก็ได้จากอะไรก็ได้ ซ่อมได้ทุกเครื่องในโลก เปิดเซฟในพริบตา ชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ ขับได้ตั้งแต่รถยนต์ ไปจนถึงเครื่องบินเจ็ต

ปัญหาคือ IQ อันสูงลิ่วแลกมาด้วย EQ อันต่ำต้อย

Happy เป็นเด็กบ้านแตกก้าวร้าวไม่สมชื่อ พ่อกับแม่แยกทางกันแต่เล็ก แถมส่งให้เธอไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า โหยหาความอบอุ่นมาตลอดชีวิต ไม่มีครอบครัวไหนอุปการะเธอจริงจัง Happy จึงหมดศรัทธาในมนุษย์ ใช้เวลาทั้งหมดกับสมองกลของเครื่องจักร

Toby เป็นนักจิตวิทยาก็จริง แต่มีปมเรื่องความฉลาดของตัวเอง มักจะโอ้อวดตัวเองเสมอๆ โดยไม่รู้ตัว เขาแอบรัก Happy แต่ไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึก มักใช้มุกตลกเป็นเครื่องเบี่ยงเบนความสนใจยามพื้นที่ส่วนตัวถูกรุกล้ำ

Sly ซื่อจนสร้างปัญหา ตอนเล็กๆ มักถูกแกล้งตลอดเวลาเพราะเป็นหนอนหนังสือ เขากลัวเกือบทุกอย่างในโลก ความสูง เครื่องบิน สัตว์ ความสกปรก ฯลฯ  ขาดความมั่นใจแม้แต่จะพูดกับคนแปลกหน้า

ส่วน Walter พระเอกของเรื่องมีปัญหาเยอะกว่าเพื่อน เขาขาดความสัมพันธ์กับพ่อแม่ตั้งแต่เล็ก ถูกจับเพราะแฮกองค์การนาซ่า โผงผางปากเสียพูดอะไรไม่เข้าหูคน ขาด EQ จนไม่เคยมีแฟนเป็นตัวตนได้นาน บุคคลเดียวที่มีความหมายคือพี่สาวของเขาซึ่งป่วยและเสียชีวิตไป เขาจึงรู้สึกเหมือนตัวคนเดียวในโลก ไม่มีใครให้รักและไม่รักใคร

เมื่อทีม Scorpion ต้องมารวมตัวกันเพื่อปกป้องโลกจากภัยคุกคามต่างๆ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร

ข้อคิดของผู้นำสมอง

1. IQ alone isn’t enough ความสนุกของโชว์ คือการโคจรมาพบกันระหว่าง High IQ กับ Low EQ 

แม้อัจฉริยะเหล่านี้จะมีความฉลาดมากมายในการแก้ปัญหาทางเทคโนโลยี แต่พวกเขาก็มีความโง่เช่นกันในด้านความฉลาดทางอารมณ์ Paige คือตัวละครที่ก้าวเข้ามาแก้จุดนี้ เธอเป็นนางเอกของเรื่อง แต่ที่สำคัญกว่าคืออดีตสาวเสิร์ฟลูกติดคนนี้มีทักษะด้าน EQ สูงมาก 

หน้าที่ของเธอคือการทำให้ทั้งสี่คนทำงานกับโลกภายนอกได้ และหลายครั้งช่วยแก้ปัญหาระหว่างกันและกันด้วย หากคุณมีทีมที่ฉลาดด้วย IQ อย่าลืมหาตัวช่วยทาง EQ เช่นกัน

2. Scorpion is real เรื่องนี้มิใช่เป็นเพียงเหตุการณ์สมมติเพ้อเจ้อ แต่เป็นภาพสะท้อนความเป็นไปจริงๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในยุค 21st Century 

บริษัทต่างๆในโลกกำลังพ่ายแพ้ต่อ Start-ups ซึ่งก็คือทีมเล็กๆที่ประกอบด้วยคนระดับอัจฉริยะเพียงไม่กี่คน Nathan Blecharczyk แห่ง Airbnb หรือ Sean Miller แห่ง Spotify ก็เป็นแฮกเกอร์ขั้นเทพมาก่อน แต่บนความฉลาดเหล่านั้นเราล้วนเคยได้ยินเรื่องเล่าด้าน Low EQ ของทั้ง Steve Jobs และ Elon Musk

3. EQ is real ผมเขียนเรื่องนี้บนเครื่องบินกลับจากเวียดนาม กิจกรรมภาคสนามของหลักสูตรส่งทุกคนออกไปปฏิบัติภารกิจในเมืองไซ่ง่อน แข่งขันวัดผลทั้งระหว่างกลุ่มและการบรรลุเป้าหมายองค์กร

หนึ่งบทเรียนที่สรุปได้คือเมื่อทีมขาด EQ ซึ่งกันและกัน พวกเขาจะตั้งเป้าหมายต่ำกว่าที่ควร ขาดความสนุกในการทำงาน และไม่มีใครกล้าก้าวขึ้นเป็นผู้นำ จากเป้าหมายรวม 50,000 คะแนน ทีมตั้งเป้าหมายเพียง 13,500 และไม่สามารถทำโบนัสได้ด้วยซ้ำ 

ดังนั้น EQ ไม่ใช่แค่เรื่อง nice to have แต่บางครั้งเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายระหว่างชัยชนะกับความพ่ายแพ้

จริงอยู่ว่างานที่ขึ้นกับ IQ กำลังถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยี เครื่องจักร หรือคน 1% ผู้เป็นอัจฉริยะของโลก แต่ Scorpion สอนเราว่าไม่มีใครทำได้ทุกอย่าง IQ ที่สูงส่งมักแลกมาด้วย EQ ที่สูญเสียไป

99% อย่างเราๆ ท่านๆ จึงควรฝึกความสามารถทางอารมณ์ หากอยากมีที่ยืนใน 21st Century ครับ