“พี่ตู่” กับ “พี่ตูน”

“พี่ตู่” กับ “พี่ตูน”

เป็นประเด็นที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะเป็นคนละภารกิจ คนละความรับผิดชอบ ระหว่าง “พี่ตูน บอดี้สแลม” กับ “พี่ตู่ ณ คสช.”

สาเหตุที่ถูกนำมาเปรียบเทียบก็เพราะ กิจกรรมวิ่งการกุศลเพื่อหาเงินบริจาคให้โรงพยาบาล 11 แห่งทั่วประเทศของ พี่ตูน สร้างกระแสความนิยมและได้รับการสนับสนุนจากมหาชนจนกลายเป็น ฟีเวอร์

แต่กิจกรรมนำพา รัฐนาวา ของ พี่ตู่” ในปีที่ 4 หลังการยึดอำนาจ กลับลดกระแสความนิยมของตนเองให้ดิ่งลงอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะการปรับครม.เที่ยวล่าสุด

พี่ตูน กลายเป็นผู้นำความหวังที่ทำให้ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา ทุกอาชีพ ได้ร่วมบริจาคเงินให้โรงพยาบาล ซึ่งจะว่าไปหลายคนก็อาจจะอยากบริจาคอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ช่องทาง หรืออาจต้องการบริจาคด้วยเงินเพียงเล็กน้อยตามกำลังทรัพย์ที่มี แต่ก็อายจนไม่กล้าบริจาค กิจกรรมวิ่งการกุศลทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการบริจาคได้ ไม่ว่าจะเงินมากหลักล้าน หรือเงินน้อยหลักสิบ แต่ก็มีส่วนร่วมสร้างบุญพอๆ กัน

ส่วน พี่ตู่ เคยเป็นผู้นำความหวังของคนไทยจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนประเทศในแบบที่ นักการเมือง ทำไม่ได้ ซึ่งก็คือการบริหารบ้านเมืองอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ และไม่เห็นแก่พวกพ้อง

แต่วันนี้สิ่งที่ พี่ตู่ ทำ กลับไม่ตอบสนองความต้องการของคนที่เคยสนับสนุน ทุกเรื่องล้วนถูกตั้งคำถามว่าแตกต่างจากนักการเมืองตรงไหน ที่สำคัญคือการ ไม่เห็นแก่พวกพ้อง” นั้น “พี่ตู่” ทำไม่ได้เลย ได้แต่อุ้มกระเตงคนที่ประชาชนไม่ต้องการ

จริงๆ แล้วการปรับครม.หนนี้ เป็นโอกาสสุดท้ายที่ พี่ตู่” จะกระชากเรทติ้งกลับมา โดยการนำนักบริหาร มืออาชีพ เข้าไปทำงานในกระทรวงสำคัญทั้งหมด แล้วสะกิดให้ รมต.สายทหารทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ได้รับโอกาสโชว์ฝีมือมา 3 ปีกว่าแล้วแต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ให้ถอยออกมา เพื่อเปิดทาง คนเก่ง-คนดี เข้าไปทำงานแบบไม่ต้องเลือกฝ่าย เลือกข้าง ลักษณะคล้ายๆ รัฐบาลแห่งชาติ

และอย่าลืมปลดล็อกคำสั่ง คสช.ที่เคยไปโยกย้ายข้าราชการระดับสูง (เฉพาะซี 11 ร่วม 20 คน) หรือแม้แต่การไปสั่งให้นักการเมืองท้องถิ่นหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งๆ ที่ตรวจสอบมานานแล้วแต่ไม่พบความผิด จึงถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้พวกเขา เพื่อดึงคนเก่ง คนดี มีความสามารถจากทุกวงการเข้ามาร่วมขับเคลื่อนประเทศ

บ้านเมืองเราไม่ได้มีอะไรเลวร้ายมากเกินไปหรอกครับ ดูอย่างตอน พี่ตูน” ไปวิ่งที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังไม่มีระเบิดสักลูก กระสุนปืนสักนัด วันนี้คนไทยเขารอผู้นำที่ดีที่จะมาสร้างความปรองดอง นำพาประเทศแบบไม่เลือกฝ่าย เพราะ ฮีโร่ของประชาชน” กับ คนการเมืองธรรมดา มันต่างกันตรงนี้