เกร็ดการเงิน

สวัสดีค่ะ สัปดาห์นี้ขอเสนอเป็นเกร็ดทางการเงินหลายๆ เรื่อง

ก่อนอื่นขอประชาสัมพันธ์กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆ ทยอยออกกันมาตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา กองทุนกลุ่มนี้เป็นกองทุนรวมหุ้นทุน อาจจะมีเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพบ้าง แต่ประเด็นสำคัญคือ ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีธรรมาภิบาลดี และที่พิเศษคือ มีการแบ่งค่าธรรมเนียมจัดการส่วนหนึ่งไปสนับสนุนการรณรวค์เรื่องธรรมาภิบาลและต่อต้านคอร์รัปชั่น หรือสนับสนุนสื่อที่ทำข่าวและสนับสนุนเรื่องธรรมาภิบาลและต่อต้านคอร์รัปชั่น ด้วยค่ะ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขียนถึงอเมซอน ว่าได้เข้าไปครอบครองตลาดค้าปลีก เกือบทั่วโลกและทำให้ห้างสรรพสินค้าหรือวงการค้าปลีกปั่นป่วน หลายห้างต้องปิดสาขากันอย่างมากมาย

แต่ วอลมาร์ท ก็ได้ทำให้ผู้คนแปลกใจด้วยการทำสถิติทำยอดขายออนไลน์ในช่วงลดราคาก่อนแบล็คฟรายเดย์ หรือก่อนวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้าพุ่งกระฉูด ทำให้ผู้คนเริ่มมองเห็นว่าธุรกิจค้าปลีกแบบปกติอาจจะพอมีทางที่จะแข่งขันหากมีการจัดการร่วมกับออนไลน์ จะสามารถแข่งขันกับการค้าปลีกผ่านอินเตอร์เน็ตแบบอเมซอนได้ หลังจากที่ห้างค้าปลีกต่างๆ ไม่ว่าจะชื่อดังหรือไม่ดัง ไม่ว่าจะจับลูกค้ากลุ่มไหน ต่างก็ทยอยปิดสาขากันไปเป็นแถวๆ ทำให้คนเริ่มเห็นว่า ค้าปลีกออนไลน์เมื่อรวมกับพลังของการมีห้างเพื่อโชว์ของให้ผู้คนเห็นและจับต้อง จะเป็นรูปแบบธุรกิจที่น่าจะมีพลังสูง

มีนักวิเคราะห์ออกมาทำนายว่า ธุรกิจค้าปลีก จะต้องปรับตัวกันอย่างมาก คล้ายๆ กับที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการบินเมื่อสองทศวรรษที่ผ่านมา คือต้องมีการควบรวม ล้มหายตายจาก และเกิดใหม่โดยมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เมื่อผ่านการปรับโครงสร้างแล้ว ธุรกิจค้าปลีกที่อยู่รอด ก็จะกลับมาแข็งแรงขึ้น

ทั้งนี้ ลูกค้ากลุ่มบน จากการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาดีลอยท์ ให้คำแนะนำว่า คณะกรรมการของธุรกิจต่างๆ ควรมีแนวทางในการตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจดังนี้

ให้ถามว่าสมมุติฐานที่ใช้ในการดำเนินกลยุทธ์ในปัจจุบันยังใช้ได้หรือไม่ หากใช้ไม่ได้จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือไม่

ธุรกิจของเรามีสิ่งใดที่อาจจะมากระทบทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่หรือไม่ และเราได้ดำเนินการอย่างไรที่จะพยายามแสวงหานวัตกรรมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหรือไม่

เราอยู่ในธุรกิจที่ถูกต้องหรือไม่ และเราอยู่ในสถานะที่ดีที่สุดในธุรกิจของเราหรือไม่ มีสิ่งใดที่เราสามารถจะนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้ธุรกิจของเราพร้อมสำหรับการเติบโตและเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้หรือไม่

กลยุทธ์ทางธุรกิจของเราถูกกำหนดให้ต้องเลือกทำหรือไม่ และเราเลือกที่จะทำหรือเลือกที่จะไม่ทำในสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่และทำไม

เรามีความสามารถในการเป็นผู้นำ และความสามารถในการลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามกลยุทธ์ของเราหรือไม่ ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถสร้างความสามารถ เพื่อให้เราประสบความสำเร็จในอนาคต เช่น การเข้าซื้อ หรือเป็นหุ้นส่วนกับกิจการที่มีความสามารถนั้น

เรามีผู้บริหารและคณะผู้บริหารที่จะบริหารจัดการตามกลยุทธ์ได้หรือไม่

เรามีความหลากหลายของผู้บริหารและทีมบริหารเพียงพอเพื่อรองรับกลยุทธ์ธุรกิจในอนาคตที่มีความไม่แน่นอน หรือไม่

ขอฝากให้ท่านผู้บริหารทบทวนดูนะคะ เพราะพลวัตรทางธุรกิจปัจจุบันเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว หากไม่ปรับตัว จะไม่สามารถอยู่รอดได้