ดีเอสไอเปิดภารกิจ ทวงคืนที่ดินอันดามัน

* 16 พ.ย.นี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ นำทีมพนักงานสอบสวนพร้อมชุดตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศเข้าหารือกับหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นของจ.ภูเก็ต เพื่อบังคับใช้กฎหมายเต็มสูบกับกลุ่มบุคคลที่บุกรุกที่ดินหาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง หลังศาลฎีกาพิพากษาชัดเจนว่าเป็นการออกโฉนดทับที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยเอกชนต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและออกจากพื้นที่บุกรุกทุกแปลงภายในเวลา30วัน สำหรับเอกชนผู้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐทุจริตออกโฉนด แม้ว่าข้อหาสนับสนุนฯจะขาดอายุความไปแล้ว แต่ยังไม่พ้นบ่วงเพราะดีเอสไอจะแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีบุกรุก ส่วนที่ดินแปลงอื่นๆ ที่มีพฤติกรรมใกล้เคียงกันแต่ยังไม่ถูกฟ้องดำเนินคดี ลงพื้นที่รอบนี้ “อธิบดีไพสิฐ” จะได้หารือวางแนวปฏิบัติร่วมกับกรมป่าไม้ กองทัพเรือ สำนักงานเจ้าท่าและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อทวงคืนทรัพยากรธรรมชาติให้กลับมาเป็นของแผ่นดิน แม้จะต้องใช้เวลาสู้คดีโดยเฉลี่ยเกินกว่า10ปีก็ตาม

 **กรณีหนุ่มเออเร่อแห่งกว๊านพะเยา ทองหรือธนวัฒน์ พรมวงค์ อายุ46ปี ผู้เสียหายถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปสมัครบัตรเครดิต กู้ซื้อรถยนต์ รูดเงินสดกับสถาบันการเงินและนอนแบงก์7-8แห่ง ถูกตามทวงหนี้นับแสนบาท ภายหลัง “สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ” เจ้ากระทรวงตราชั่ง ลงพื้นที่จ.พะเยา รับเรื่องร้องทุกข์พร้อมส่งเรื่องให้ดีเอสไอเข้าช่วยเหลือ ล่าสุดอยู่ระหว่างตรวจสอบลายมือลายเซ็นกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ เพื่อพิสูจน์ว่า ผู้ที่สมัครใช้บัตรเครดิตและผู้ที่รูดใช้คือใครกันแน่ ระบบการตรวจสอบอนุมัติใช้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดของแต่ละสถาบันการเงินเป็นอย่างไร เหตุใดจึงอนุมัติบัตรให้กับบุคคลที่บกพร่องทางสติปัญญา และพฤติการณ์ลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นไปใช้สมัครบัตรเครดิตนี้ทำกันเป็นขบวนการหรือไม่

**ส่วนปัญหาหนี้ไม่เป็นธรรมในจ.ชัยภูมิ ที่ดีเอสไอเข้าไปสืบสวนพบการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พร้อมขอตรวจสอบที่ดินที่ยึดเอาจากลูกหนี้มูลค่ากว่า200ล้านบาทนั้น ฝ่ายเจ้าหนี้กำลังยื่นอุทธรณ์ภาษีต่อกรมสรรพากร ในส่วนของลูกหนี้ที่คดียังอยู่ในอายุความ ประสงค์จะฟ้องกลับเจ้าหนี้ ซึ่งกองทุนยุติธรรมสนับสนุนค่าทนายความในการฟ้องแพ่งและอาญา รวม7คดี ล่าสุด ผลงานการช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมตลอดจนแนวทางการปลดหนี้ ถูกขอไปเป็นข้อมูลเพื่อแถลงผลงานของหลายกระทรวงไม่เว้นแม้แต่การช่วยเหลือหนี้เกษตรกร