มาตรฐานเส้นทแยง

ล่าสุดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยินยอมให้ “บุคคล” ซึ่งถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีร่ำรวยผิดปกติ อย่าง“พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” และ “พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์” มาเป็นกมธ.

000 แม้ “พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.” จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยออกกฎ ห้าม คนมีปมทั้ง2เข้า ประชุมเมื่อถึงการพิจารณามาตราว่าด้วยการตรวจสอบปมทุจริต-ร่ำรวยผิดปกติ แต่เชื่อแน่ว่า สังคมยังมีข้อกังขา ว่า หากอยากให้ ร่างกฎหมายออกมาอย่างเถรตรง สมกับเป็นความหวังแห่งอนาคตจริง ทำไม ถึงยอมให้ “พัชรวาท-บุญเรือง” สมัครเข้าทำหน้าที่

000 และแม้งานนี้ “มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.” จะออกหน้าว่าช่วยดูเนื้อหาให้คงเจตนารมณ์ดั้งเดิม แต่ก็แสดงความระอาผ่านคำพูดที่ว่า ฐานะคนนอก (สนช.) จะตำหนิก็ไม่ได้ จะทำได้มาสุดคือช่วยดูเนื้อหาหากพบความผิดเพี้ยนต้องใช้สิทธิ์โต้แย้ง

000 สำหรับเรื่อง ร่างกฎหมายปราบโกง ที่ สนช.อยู่ระหว่างพิจารณา นี่คงเป็นเพียงปรากฏการณ์เริ่มต้น ที่ทำให้สังคมแจ่มชัดว่า มาตรฐานของคน คสช. ตอนนี้กลายเป็นเส้นทแยงมุม ที่ตอกย้ำสักเท่าไร มันก็ไม่ตรง

000 ข่าวการเมืองร้อนๆ บนหน้าข่าววันนี้ หนีไม่พ้น 6 คำถามนายกรัฐมนตรี ที่ต้องบอกว่าอยู่เฉยๆน่าจะดีกว่า เพราะการเปิดคำถามออกมาเหมือนแบะท่าให้คนทั่วไปล่วงรู้เจตนา และจะกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเมามัน และยิ่งเป็นการลดทอนความขลังของความเป็น คสช. เพราะในวันที่เป็น“ขาลง”อย่างนี้ต้องทำใจยอมรับว่าหาคนเกรงใจยาก

000 คำถามของนายกฯ มีสาระสำคัญชี้ชัดว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองหน้าเดิมๆ จะเป็นทางเลือกสำหรับประเทศชาติในการเลือกตั้งหรือไม่ แล้วจะดีไหมถ้าจะลองของใหม่ และอาจเป็นของใหม่ที่คสช.สนับสนุน?

000  ที่สำคัญน่ายกฯ มีท่าทีอยากได้คนที่จะเดินหน้าสานต่อยุทธศาสตร์ชาติ และปฏิรูปประเทศตามแนวทางที่รัฐบาลคสช.ตั้งแท่นเอาไว้ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ฟันธงได้เลยว่าไม่มีใครเหมาะสมไปกว่า “ประยุทธ์และพวก” !!!