เอกสารลับเพนตากอน : แผนบุกเกาหลีเหนือภาคพื้นดิน!

นั่นคือจะต้องส่งทหารของฝ่ายสหรัฐเข้ายึดประเทศนั้นทางภาคพื้นดิน

สะท้อนถึงแนวคิดของเหล่าบรรดาเสนาธิการผสมและแม่ทัพนายกองหรือ joint chiefs of staff ที่ประเมินสถานการณ์การเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือแล้วสรุปว่าการแก้ปัญหาเกาหลีเหนืออย่างถาวรไม่ใช่ด้วยวิถีทางการทูต หากแต่จะต้องบุกเข้ายึดครองแบบประชิดตัวเท่านั้น

แน่นอนว่าการตัดสินใจจะทำอย่างนั้นหรือไม่อยู่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แต่เพียงคนเดียว

รายงานลับนี้ได้รับการเปิดเผยวันก่อนโดยบีบีซีที่บอกว่าเอกสารประเมินภายในของเพนตากอนหรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฉบับนี้ลงนามโดยพลเรือโทไมเคิล ดูมอนท์ที่ส่งถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท็ด ลิว (Ted Lieu) แห่งพรรคเดโมแครตที่ได้ขอให้ทางกองทัพสหรัฐนำเสนอภาพที่อาจเกิดขึ้นหากจะต้องจัดการให้คิมจองอึนไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองอย่างจริงจัง

นายทหารสหรัฐยอมรับว่าหากจะต้องใช้วิธีการจู่โจมทางภาคพื้นดินเพื่อทำลายฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็คงจะต้องมีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล

รายงานนี้ยอมรับว่า “ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นภายใต้ทางเลือกนี้ยากจะประเมินได้”

เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่เกาหลีเหนือจะต้องตอบโต้หากเจอกับการบุกทางภาคพื้นดินของฝ่ายสหรัฐ

ความเสี่ยงสำคัญคือทหารฝ่ายอเมริกันที่จู่โจมในภาคพื้นดินจะต้องรุกเข้าทำลายอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวกับนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือฝังไว้ใต้ดิน

ส.ส. เท็ด ลิวบอกว่าพอได้อ่านบทวิเคราะห์นี้ของนายทหารสหรัฐที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษาทรัมป์แล้วก็มีความกังวลอย่างหนักหน่วงเพราะหากนี่เป็นแผนปฏิบัติการของสหรัฐจริง อาจจะหมายถึงการที่จะต้องมีคนตายเป็นหมื่นเป็นแสนในไม่กี่วันแรกของการเปิดศึกเช่นนั้น

เขาบอกว่าเมื่อได้ศึกษาข้อเสนอนี้แล้วก็เท่ากับเป็นการตอกย้ำสิ่งที่เชื่อว่ามาตลอดว่า

“ไม่มีทางออกทางทหารที่จะยอมรับได้”

รายงานนี้ได้รับการเปิดเผยในจังหวะที่ทรัมป์เพิ่งจะเริ่มออกเดินทางเยือนเอเชีย 5 ประเทศ 12 วันโดยมีหัวข้อสำคัญคือการที่จะเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เพิ่มการกดดันโสมแดงให้ลด, ละ, เลิกการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์

ทรัมป์ยืนยันมาตลอดว่าการเจรจาทางการทูตกับโสมแดงไม่ได้ผล และทางออกทางทหารยังอยู่บนโต๊ะ

พอทรัมป์พูดอย่างนั้นทำให้เกิดความกริ่งเกรงกันว่าผู้นำสหรัฐวันนี้มีความโอนเอียงไปทางจะ “จัดการ” กับคิมจองอึนด้วยการสั่งทหารให้เข้าไปยึดครองเกาหลีเหนือเหมือนที่เคยทำกับอิรักมาก่อนหน้านี้

อีกทั้งการซ้อมรบระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้เป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารอย่างเต็มรูปแบบเพราะส่งเรือบรรทุกเครื่องบินสามลำใหญ่มาสมทบกันในบริเวณใกล้กับคาบสมุทรเกาหลี

ตีความได้ว่าอาจจะเป็นการข่มขู่กดดันเกาหลีเหนือ

หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปิดศึกเพื่อส่งทหารเข้าทางภาคพื้นดินเพื่อทำลายฐานที่มั่นที่พัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

นี่มิใช่หรือที่คิมจองอึนอ้างว่าตลอดว่าเป็นแผนสหรัฐที่จะทำลายล้างเกาหลีเหนือและ “เก็บ” เขาอย่างโจ๋งครึ่ม?

ยิ่งมีข่าวจากวงในของทำเนียบขาวหลุดออกมามากเพียงใด, ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสงครามมากเพียงนั้น!