ลงทุนอย่าง Neutral Emotion

ลงทุนอย่าง Neutral Emotion

เข้าใจโลกการลงทุนดีขึ้น อารมณ์ต้องจะนิ่ง พร้อมทั้งยอมรับกับความผิดพลาดได้หากปัจจัย ข้อมูลเปลี่ยนแปลง

การลงทุนในตลาดหุ้นถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคนปฎิเสธได้ยากว่า ไม่ง่ายเฉกเช่นในหนังสือการลงทุนหลายเล่มที่วางขายในร้านหนังสือ ทั้งนี้คติพจน์ที่เข้าใจว่า อยากได้ลูกเสือ ไม่เข้าถ้ำเสือได้อย่างไร สะท้อนถึงว่า หากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากในธนาคาร ย่อมต้องยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ที่เราลงทุน

แต่การลงทุนย่อมมีความหมายที่แตกต่างกับการเก็งกำไร การลงทุนคือการประเมินสินทรัพย์ รายได้ และกำไรที่จะเข้ามาในอนาคตซึ่งสุดท้ายก็จะสะท้อนเข้ามาสู่มูลค่าของสินทรัพย์ในที่สุด ที่น่าสนใจคือ ทำไมคนส่วนใหญ่ประสบผลสำเร็จจากการลงทุนในที่ดิน อาคาร แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรกับการลงทุนในตลาดหุ้น

เราลองย้อนขั้นตอนการลงทุนในที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง อาคาร (ยกเว้นท่านที่ได้รับมรดก เพราะบรรพบุรุษท่านตัดสินใจให้เรียบร้อย) ว่า เมื่อท่านจะตัดสินใจลงทุนนั้น เราต้องสำรวจพื้นที่ทำเลด้วยตัวท่านเอง ประเมินทิศทางความเจริญของบ้านเมืองว่าจะเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมดีเพียงใด และองค์ประกอบโครงสร้างพื้นฐานล้อมรอบ หรือโครงการอนาคตนั้นดีแค่ไหน ราคาประเมินที่ดินข้างเคียงเท่าไร เงินที่ลงทุนจะมาจากแหล่งใดซึ่งแน่นอน สัดส่วนเงินกู้ไม่สูงจนเกินไป เดี๋ยวดอกเบี้ยจ่ายกินตาย และจบสุดท้ายว่า พื้นที่ทำเลมีศักยภาพดีเพียงใดและสามารถประกอบธุรกิจอะไรได้บ้างให้คุ้มลงทุน ก่อนตัดสินใจเคาะราคาเพื่อซื้อ หรือ ขาย

การลงทุนในที่ดินนั้น เราไม่ได้ติดตามดูราคาที่ดินเคลื่อนไหวทุกนาที ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ดังนั้น จิตใจของท่านจะนิ่ง ไม่เดือดร้อนใจ เพราะที่ดินท่านยังอยู่ ทำเลสิ่งแวดล้อมคงเดิม (ยกเว้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันจากนโยบายภาครัฐ) ท่านอาจมีการติดตามตรวจสอบดูบ้างว่า สิ่งแวดล้อมของบ้านเมือง ความเจริญที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ดินของท่านนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ท่านรอได้อย่างสุขุม และใจเย็น

เราลองย้อนกลับมาตรวจสอบขั้นตอนวิธีลงทุนหุ้นในตลาดหุ้นกันบ้างว่าเป็นอย่างไร

ท่านดูติดตามข่าวสารทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวันเพื่อตรวจสอบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างในโลก สหรัฐ ยุโรป เอเซีย ประเทศอาเซียน และประเทศไทย โดยการติดตามบางเรื่องก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้างอย่างงงๆ

จากนั้น ท่านอาจดูภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกขึ้นลงอย่างไร ราคาหุ้นกลุ่มนั้น กลุ่มนั้น กลุ่มนี้ซื้อขายในต่างประเทศโดยบางครั้งธุรกิจเหล่านี้ก็ไม่มีบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย ราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สารพัดเท่าที่สำนักข่าวต่างประเทศจะเสนอให้ท่านดูได้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วโลก แล้วก็เหมือนเดิม เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้างแบบ งงๆ

จากนั้นท่านก็จะตรวจสอบดูข่าวสารที่ส่งกันในไลน์ มือถือว่า หุ้นตัวไหนดี ราคาวิ่งนิวไฮน์ ดิ่งลงนิวโลว์ หุ้นตัวไหนรูปแบบราคาทางเทคนิคสวย ค่ายหลักทรัพย์ต่างๆเชียร์หุ้นอะไรบ้าง อ้าวตลาดหุ้นเปิดเทรด ติดตามหน่อยซิ ราคาหุ้นที่เชียร์กันในไลน์วิ่งมั้ย ถ้าวิ่งก็ลุยเลย ถ้าแย่ก็ตัดใจขายได้บ้าง ไม่ได้บ้างแล้วแต่อุปนิสัยส่วนตัว

อารมณ์ท่านผันผวนมาก ตลาดหุ้นดีก็อารมณ์ดี ได้กำไร ตลาดหุ้นดี ราคาหุ้นในพอร์ตลงก็หงุดหงิด ท่านติดตามราคาอย่างใกล้ชิด แต่ในขณะเดียวกัน ท่านลืมทำการบ้านอย่างที่ท่านปฎิบัติเมื่อต้องการลงทุน หรือ ซื้ออส้งหาริมทรัพย์ อาคารและ ที่ดิน อย่างที่ท่านเคยทำ ท่านขาดการเข้าไปศึกษาธุรกิจ งบการเงินว่า หุ้นที่ท่านอยากลงทุนนั้นเป็นอย่างไร กำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ แนวโน้มธุรกิจ เป็นทิศทางดีขึ้นหรือแย่ลง ท่านไปทางลัดดีกว่า คุยเอาประหยัดเวลา โดยไม่ประเมินว่า ราคาซื้อขายในกระดานหุ้นนั้น คุ้มค่าเหมาะสม ถูกแพงอย่างไร อาศัยดูกราฟราคาว่าเป็นอย่างไร ดูเทคนิคเป็นบ้าง ไม่เป็นบ้าง เดาเอา

ดังนั้น ผลลัพธ์จากการลงทุนในหุ้นก็ย่อมแตกต่างกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ ที่ดิน เช่นกัน ถ้าท่านนักลงทุนลองเปลี่ยนแปลงวิธี ขั้นตอนการตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น ด้วยการพิจารณา วิเคราะห์ เปรียบเทียบอย่างมีเหตุผล ศึกษาอ่านข้อมูลจากนักวิเคราะห์เพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือก โดยท่านอาจเชื่อ หรือ ไม่เชื่อก็ได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ท่านเข้าใจโลกการลงทุนได้ดีขึ้น อารมณ์ท่านจะนิ่งมากขึ้น พร้อมทั้งยอมรับกับความผิดพลาดได้หากปัจจัย ข้อมูลเปลี่ยนแปลงไปจากเวลาที่ท่านตัดสินใจซื้อ หรือ ขาย มูลค่าสินทรัพย์เป็นสิ่งที่ประเมินได้ยาก แต่หากท่านถามตัวเองว่า ถ้าราคาหุ้นในพอร์ตท่านทรงตัวไป 6-12 เดือน ดี และคุ้มค่ากับการลงทุนในทางเลือกอื่น ก็แสดงว่า หุ้นตัวนั้นสอบผ่านแล้วครับ