อย่าโหนกระแส การตลาดแท้จริงต้องจริงใจ

อย่าโหนกระแส การตลาดแท้จริงต้องจริงใจ

การสร้างเรื่องราวให้ดูเป็นไปอย่างธรรมชาติ ทำจริง แสดงออกจริงและขยายความไปบอกต่อจริง จะทำให้เกิดกระแสบวกมากกว่า

เป็นข่าวคราววุ่นวายเมื่อมีนักการเมืองใช้รูปแบบเดิมโดยการนั่งรถโบกมือเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมาปลูกต้นดาวเรือง เนื้อหา (Content) อาจจะไม่เหมือนเดิม แต่การใช้วิธีการแบบเดิมๆเสมือนเป็นการหาเสียง ทำให้ผู้คนที่คุ้นตากับภาพนั่งรถโบกมือหาเสียงว่าไม่เหมาะสม เป็นการโหนกระแสเพื่อการหาเสียงเพื่อการเลือกตั้ง ทำให้เสียงตอบรับทางลบออกมามากมาย

ถึงแม้จะได้มีการออกมาขอโทษแล้วแต่ดูเสมือนกระแสทางลบก็ไม่ได้ลดลง คงเป็นเพราะทีมงานการตลาดไม่ได้ดูบริบทให้รอบด้าน การสร้างกระแสให้เกิดการแชร์โดยอาศัยบริบทเนื้อหาให้คนไปแชร์เรื่องของการทำความดีต้องเริ่มจากการกระทำที่จริงใจ จากใจที่แท้จริงและต้องโดนใจกลุ่มเป้าหมาย แต่สามารถกระตุ้นให้เป็นเรื่องราวได้จนเป็น talk of the town ได้

คุณสมบัติของการ Invisible คือ การสื่อสาร Viral Marketing นั้นต้องไม่ควรนำภาพสินค้ามาแสดงจนมองเห็นได้ว่าเป็น โฆษณาอย่างโจงครึ่ม กาสร้างเรื่องราวให้ดูเป็นไปอย่างธรรมชาติ ทำจริง แสดงออกจริงและขยายความไปบอกต่อจริง จะทำให้เกิดกระแสบวก

ประการที่สอง ต้องมีลักษณะของ Innovative คือมีแนวคิดที่ใหม่มีความคิดสร้างสรรค์ (Creative) อย่างน้อยไอเดียก็ต้องใหม่สำหรับกลุ่มเป้าหมาย มิติทางอารมณ์ต้องมีมุขใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ภาพนักการเมืองแห่รถยนต์ไปทั่วเมือง นอกจากเนื้อหาไม่ใหม่และวิธีการเดิมก็ไม่ใหม่ด้วย ต้องมีการหาแนวคิดใหม่ๆ เป็นไอเดียที่สดใหม่ไม่เคยเห็นจึงจะได้ผลเข้าสู่การรับรู้ของผู้บริโภค

ประการที่สาม คุณสมบัติของ Instant หมายความว่า Viral นั้น ต้องมีความสามารถในการจับกระแสของคนในช่วงนั้นๆได้ทันที การใช้กระแสที่เกิดขึ้นตอนนี้ เช่นการปิดร้านค้า ไม่ทำธุรกิจในวันสำคัญ จะทำให้เป็นที่ชื่นชอบได้มาก แต่ก็ต้องไม่ให้ดูเป็นการเอาหน้าหรือใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์จนเกินไป

ประการที่สี่ การสื่อสารต้องเกิดจากการเข้าใจ Insight ของลูกค้า การวิเคราะห์ถึงแรงจูงใจและความต้องการอย่างแท้จริงของลูกค้าว่าทำไมถึงบริโภคสินค้านั้นๆ การไม่พิจารณาถึงหรือไม่เข้าใจว่าผลตอบรับจะออกมาอย่างไร กระแสต่อต้านย่อมเกิดขึ้น การพิจารณาเข้าใจความต้องการ และความรู้สึกของประชาชนอย่างถ่องแท้จะทำให้การสื่อสารได้ผลมาก

      ประการที่ห้า ต่อมาคือ Interactive เป็นการสื่อสารแบบสองทาง การกระตุ้นให้มีการแชร์ หรือการพูดในวงกว้างเป็นการเสริมที่ได้ผล ปฏิกิริยาของผู้รับชมและพูดคุยมากเท่าไหร่ก็จะได้ผลมาก

ประการต่อมา ต้องมีลักษณะของ Identity มีความเป็นเอกลัษณ์ ที่เป็นลักษณะเฉพาะของทางแบรนด์สินค้านั้นๆ การสื่อสารต้องนำเสนอสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี บุคลิกภาพ Mood and Tone หรือนักแสดงที่ดูได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นั้นเท่านั้น แต่ก็ต้องประกอบกับการเนียนไม่มากจนเกินไปหรือน้อยไปจนไม่ทราบว่าเป็นใคร

และประการที่สำคัญที่สุดก็คือ การใช้สื่อ Social network ต้องมีการ Integrity กับการสื่อสารหรือกิจกรรมการตลาดเพื่อช่วยเหลือสังคมต้อง จริงใจ ซื่อสัตย์ ไม่โกหกหลอกลวง ที่สำคัญต้องทำจากใจที่แท้จริงมิฉะนั้นแล้วจะเป็นแค่การสร้างภาพที่เป็นเรื่องฉาบฉวย ทำให้เกิดภาพลักษณ์ทางลบมากกว่าทางบวกด้วยซ้ำไป

สรุปก็คือ หลักการของการทำ Viral Marketing ที่ใช้ในการสื่อสารการตลาดก็คือ ต้อง Innovative Instant Insight Invisible Interactive Identityและ Integrity  ที่สำคัญต้องมีไอตัวสุดท้ายที่เป็น ดัชนีชี้วัดความสำเร็จนั้นไม่ใช่แค่ดูจำนวน Views เท่านั้น

แต่ต้องมีการวัดเชิงคุณภาพ การสร้างกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ต้องมีความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งที่ต้องสามารถส่งอิทธิพลต่อการรับรู้ของลูกค้า สามารถทำให้ผู้พบเห็นเปลี่ยนทัศนคติได้อย่างแท้จริง และถ้าดีที่สุดคือการเข้าไปในการรับรู้และฝังในหัวลูกค้าให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการได้ เพราะข้อผิดพลาดในการทำจะส่งผลร้ายแรงที่สุด

Implant ฝังไปในการรับรู้ของลูกค้าว่านักการเมืองก็คือนักการเมือง