สภาพแวดล้อมเพื่อการคิดสร้างสรรค์

สภาพแวดล้อมเพื่อการคิดสร้างสรรค์

ใครๆ ก็บอกว่าเขาจะไป 4.0 กันแล้ว บอกว่า 4.0 ทุกคนต้องคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่มีใครบอกว่าแล้วสภาพแวดล้อมแบบไหน

ที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ได้ดีกว่ากัน บอกให้คิด แต่ทุกอย่างรอบตัวยังเหมือนเดิม ซึ่งถ้าคิดได้คงคิดกันมานานแล้ว ไม่ต้องให้ใครต่อใครมาบอก แปลว่าสภาพแวดล้อมมีผลอย่างยิ่งกับความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา 

ศาสตราจารย์Juliet Zhu พบว่า สี เสียง และแสง มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ ถ้านั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เบื้องหลังออกไปทางสีแดง เราจะทำงานตามกรอบได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเบื้องหลังเป็นสีน้ำเงิน เราจะคิดสร้างสรรค์ได้ดีกว่า สีที่เลือกใช้ในสำนักงาน หรือสถานที่ที่อยากให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ จึงควรเน้นให้ออกไปทางสีน้ำเงิน มากกว่าสีแดง จัดให้เดินตามกรอบ เลือกสีแดง สร้างสรรค์ให้เลือกสีน้ำเงินที่ดูคล้ายๆ สีท้องฟ้า หรือน้ำทะเลลึกๆ เป็นหลัก 

อาจารย์อธิบายว่าสีน้ำเงินทำให้นึกถึงท้องฟ้า หรือทะเลลึก ซึ่งฝรั่งมักรู้สึกท้าทายให้ออกเดินทางไปข้างหน้า เห็นฟ้าเห็นทะเลลึก มักนึกถึงการเดินทาง จึงส่งเสริมให้จินตนาการสร้างสรรค์ว่าข้างหน้าจะมีอะไรบ้าง ถ้าคนบ้านเราเห็นท้องฟ้าแล้วไม่รู้สึกว่าอยากเดินทาง อยากไปข้างหน้า สีน้ำเงินอาจไม่ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์สำหรับบ้านเรา แต่ให้อาศัยหลักคิดที่ว่าจัดสภาพแวดล้อมให้คนรู้สึกถึงการเดินทางไปในที่ใหม่ แล้วความคิดสร้างสรรค์จะตามมาเอง

คนส่วนใหญ่คิดว่าถ้าเงียบจัดๆ แล้วจะคิดสร้างสรรค์ได้ดีกว่า แต่จากการวิจัยพบว่าเสียงดังนิดๆ หน่อยๆ คล้ายๆ ในร้านกาแฟแพงๆ ช่วยให้คิดได้ดีกว่าที่เงียบสงัด ลองนึกถึงการคิดงานใหม่ ในวิหารที่เงียบสงัด เทียบกับคิดงานใหม่ในร้านกาแฟแพงๆ คงพอได้คำตอบว่าที่ไหนน่าจะคิดได้ดีกว่า เงียบเกินไปเราจะรู้สึกไม่ปลอดภัย และใช้ความพยายามไปกับการคิดหาทางเอาตัวรอดจากภัยต่างๆ ที่เรากังวลอยู่ 

ในทางตรงข้ามถ้าสำนักงานเปิดเสียงตามสายทั้งวัน หัวหน้าใหญ่ตะโกนสั่งคนนั้นคนนี้ทั้งวัน ก็ไม่ต้องคิดถึงการคิดสร้างสรรค์แล้ว เพราะเสียงดังมากๆ และเป็นเสียงที่เรารับรู้ได้ทั้งหมด เป็นอุปสรรคในการคิดสร้างสรรค์ เราจะหมดเวลาไปกับการติดตามเสียงเหล่านั้น มากกว่าที่จะมีเวลาสำหรับการคิดสร้างสรรค์ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะคิดสร้างสรรค์ครั้งใด ต้องไปร้านกาแฟเท่านั้น ที่ไหนก็ได้ ที่มีเสียงที่ไม่ดังเกินไป แต่ฟังแล้วรู่สึกปลอดภัยว่าไม่ได้อยู่คนเดียว

สถานที่แสดงผลงานสร้างสรรค์ทั้งหลายแหล่ ชอบใช้แสงที่สว่างมากๆ ซึ่งเหมาะสำหรับการนำเสนอผลงานจากความคิดสร้างสรรค์นั้น แต่ไม่เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์ แสงที่พอเพียงสำหรับการมองเห็นรายละเอียดต่างๆ โดยไม่สว่างเกินไป จะช่วยการสร้างสรรค์ได้ดีกว่า ซึ่งอธิบายได้ว่าเมื่อความคิดสร้างสรรค์อยู่ใกล้กับการคิดนอกกรอบ แสงสว่างที่สว่างมากๆ ทำให้เรารู็สึกเป็นเป้าสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมา

 ความคิดส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการคิดดูแลท่าทางของตนเอง ไม่ให้มีการออกนอกกรอบ จึงไม่ง่ายนักที่จะคิดอะไรสักอย่างที่อยู่นอกกรอบไปพร้อมๆ กับคิดระวังตัวไม่ให้ออกนอกกรอบ แสงสว่างที่เพียงพอ แต่ไม่สว่างมากจนกระทั่งคนคิดสร้างสรรค์กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่ผ่านไปผ่านมาช่วยให้ไม่ต้องกังวลว่าใครจะเห็นเราทำอะไรนอกกรอบ จึงเสริมความกล้าที่จะคิดใหม่ๆ ได้

ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากคนเดียว แต่เติบโตและกลายเป็นจริงได้จากคนหลายคนช่วยกันคิด จึงจำเป็นต้องมีที่ให้คนหลายคนมาช่วยกันคิดต่อยอด ในสำนักงานจึงต้องยอมให้มีสักแห่งหนึ่งที่คนมาคิดมาคุยได้อย่างสบายใจ งานวิจัยยังพบว่าการเคี่ยวเข็ญจากผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ช่วยให้การคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น ผู้ใหญ่ยิ่งสั่งมากเท่าใด งานคิดสร้างสรรค์ก็น้อยลงเท่านั้น 

ดังนั้นองค์กรใดอยากให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น หัวหน้าใหญ่ต้องสั่งการให้น้อยลง คิดสร้างสรรค์อยู่ไม่ไกลจากการคิดนอกกรอบเดิมๆ แต่คำสั่งของหัวหน้าใหญ่อยู่ใกล้มากกับกรอบเดิมๆ ที่มีอยู่ ดังนั้นจึงยากเย็นมากที่จะเดินนอกกรอบภายใต้สภาพแวดล้อมที่หัวหน้าใหญ่สั่งเก่ง เสียงเชียร์ และการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานต่างหากที่มีผลต่อความคิดสร้างสรรค์มากกว่า ถ้าเพื่อนดี ย่อมสร้างสรรค์ได้ดีกว่า ถ้าหัวหน้าใหญ่สั่งลูกเดียว แถมเพื่อนคอยจับผิด ใครๆ ก็ออกนอกกรอบไม่ได้ สร้างสรรค์ก็ไม่เกิด 4.0 ก็ไม่มี