นวัตกรรมอาหารขับเคลื่อนไทยสู่ครัวโลก

นวัตกรรมอาหารขับเคลื่อนไทยสู่ครัวโลก

ปัจจุบันประชากรโลกมีจำนวน 7,600 ล้านคน และองค์กรสหประชาชาติได้คาดการณ์ว่าจำนวนประชาการจะเพิ่มขึ้นเป็น 9,800 ล้านคนภายในปี 2050

โดยจะมีอายุเฉลี่ยที่ยืนยาวขึ้น โดยประชากรอายุมากกว่า 65 ปี คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นถึง 181 % ขณะที่ทรัพยากรธรรมชาตินับวันจะมีปริมาณที่จำกัด และมีแนวโน้มลดลง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ หรือพลังงาน จึงเป็นที่มาของความพยายามในการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

อุตสาหกรรมอาหารมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปัจจุบันที่ปริมาณความต้องการอาหารทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของตลาดสำคัญๆ ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกสำหรับประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการพัฒนาสู่ความเป็น ครัวของโลกภาคธุรกิจชั้นนำจึงให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัยการผลิตอาหารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่การบริโภคที่ยั่งยืน และส่งเสริมสุขภาพที่ดี

งานมหกรรมแสดงสินค้าอาหารแบบครบวงจรอย่าง Anuga 2017 ที่มีการแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่ใหญ่และสำคัญของโลกงานหนึ่ง ที่เมืองโคโลญจน์ เยอรมนี ที่เพิ่งจบไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมกว่า 160,000 คน และมีผู้ร่วมจัดนิทรรศการกว่า 7,400 ราย กล่าวได้ว่า งานนี้เป็นแหล่งรวมกลุ่มผู้อยู่ในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในระดับชาติ และนานาชาติ เป็นเวทีแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน มีผู้ร่วมชมงานจากกว่า 180 ประเทศ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากทวีปยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และประเทศในภูมิภาคเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น จีน และอินเดีย

นวัตกรรมอาหารขับเคลื่อนไทยสู่ครัวโลก

ในงานนี้ มีการประกวดสินค้านวัตกรรมอาหาร โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมอาหารของ Anuga taste Innovation Show 2017 ดำเนินการคัดเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่ส่งเข้าประกวด ซึ่งมีบริษัทอาหารส่งผลงานเข้าประกวด 830 บริษัท จำนวนกว่า 2,000 รายการ และผลิตภัณฑ์ ‘สันในไก่ย่างถ่านเพื่อสุขภาพ’ ของบริษัท ซีพี ฟู้ด ประเทศอังกฤษ บริษัทลูกของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมออกบูธภายใต้แนวคิด “Lead the Way to Sustainability” เป็น 1 ใน 67 รายการที่ได้รับการคัดเลือกในงานนี้ โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมอาหารของ Anuga ยกให้เป็นอาหารที่มีนวัตกรรมในเรื่องคุณภาพปลอดภัย โปรตีนสูง แคลอรี่และไขมันต่ำ ดีต่อสุขภาพและสะดวกต่อการบริโภค ด้วยจุดเด่นของวัตถุดิบและส่วนผสมคุณภาพสูงที่ได้มาจากแหล่งที่ยั่งยืน และย่างด้วยถ่านที่มาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน เรียกว่าครบถ้วนการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ใส่ใจดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

นอกจากผู้ร่วมงานจะได้สัมผัส และรับรู้ความเป็นครัวโลกของซีพีเอฟในความเป็นผู้นำการพัฒนาและผลิตอาหารที่หลากหลายครบวงจร ซีพีเอฟยังนำเสนอเทคโนโลยีที่น่าสนใจ โดย สุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ซีอีโอ (ร่วม) ได้นำเสนอการใช้สมาร์ทโฟนสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) บนผลิตภัณฑ์สินค้าแบรนด์ CP ผู้บริโภคจะทราบถึงวัตถุดิบ ส่วนผสม คุณค่าทางโภชนาการ วิธีการปรุง และการเก็บรักษา โดยแสดงขั้นตอนกระบวนการผลิตในโรงงานจริงและข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานผลิตในรูปแบบอินโฟกราฟฟิก หรือ วีดิโอคลิป เพื่อให้น่าสนใจและเข้าใจได้ง่าย ซึ่งยังไม่มีผู้ผลิตรายใดจัดทำมาก่อน และปัจจุบันสามารถใช้ตรวจสอบกับสินค้ากว่า 170 รายการ ที่วางจำหน่ายในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เดนมาร์ค สวีเดน และฟินแลนด์ และมีเป้าหมายให้ครอบคลุมสินค้า CP Brand ที่ขายในต่างประเทศอย่างน้อย 80% ภายในปี 2020

สำหรับสังคมการบริโภคปัจจุบัน ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อความมั่นใจ และความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ทั้งด้านคุณภาพ และความปลอดภัย นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นนี้จึงนับเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาการของภาคธุรกิจที่มุ่งมั่นสู่ความความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมอาหาร และได้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ที่นับวันจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาหารและเทคโนโลยี

 ที่สำคัญ เป็นการพัฒนาที่มีเป้าหมายมุ่งสู่ความสมดุลอย่างยั่งยืน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

นับเป็นอีกแนวร่วมของการนำนวัตกรรมนำพาประเทศสู่ครัวโลก สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนสู่ไทยแลนด์ 4.0

////

โดย... อภิชาติ เกื้อการย์