นายกฯควันออกหู ‘บัตรคนจน’พ่นพิษ

นายกฯควันออกหู ‘บัตรคนจน’พ่นพิษ

อาจเป็นเพราะ“คาดไม่ถึง”หรือ“คิดไปเอง” จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีอาการ“ควันออกหู”

ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้(17ต.ค.)  เรียกว่ามีอารมณ์เสียซะอย่างนั้น

อยู่ๆกระทรวงการคลัง ดันมีแนวคิดที่จะโยกวงเงินค่าใช้จ่ายในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ในส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อย่างเช่น ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ค่ารถบขส. มูลค่า 500 บาทต่อเดือน มาเพิ่มเติมในวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เดิมมีอยู่ 200 และ 300 บาท เป็น 700 และ 800 บาท สำหรับผู้ถือบัตรที่อาศัยในต่างจังหวัด เพื่อจะได้ซื้อสินค้าบริโภค ตรงกับความต้องการจริงๆ เพราะประชาชนต่างจังหวัดไม่ได้ใช้บริการรถไฟฟ้า และรถบขส. เป็นประจำ

แนวคิดการโยกวงเงินจากการเดินทางไปซื้อสินค้าแทน กลายเป็นของเล่นใหม่ของการเมืองในโลกโซเซียลซะอย่างนั้น มีการระบุกันไปถึงขนาดว่ารัฐพยายามเอาเงินไปอุดหนุนซื้อสินค้าเอื้อกลุ่มเจ้าสัวเพียงไม่กี่ราย สร้างความสับสนเข้าไปใหญ่ ทำเอาทีมเศรษฐกิจรัฐบาลต้องเรียงหน้าออกมาแก้เกมกันจ้าละหวั่นไม่จริงๆ” 

 แม้แต่ กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่าข่าวเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็น 700 - 800 บาท  จากเดิม 200 - 300 บาท ไม่เป็นความจริง และเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน  เช่นเดียวกับ สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง บอกว่าข่าวที่บอกว่ากระทรวงการคลังเตรียมปรับเงื่อนไขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ หลังพบหลายคนไม่ได้ใช้ รถไฟฟ้า รถไฟและ บขส. จะโยกวงเงินส่วนนี้ไปเพิ่มการใช้จ่ายใน ร้านธงฟ้าแทนไม่เป็นความจริงกระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายในเรื่องดังกล่าว แต่พร้อมศึกษา

ประโยคอย่างนี้เท่ากับว่าข่าวที่ออกไปสื่อมวลชนกำลังเป็นแพะใช่ไหม?

ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วออกมาตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริงเกิดจากถูกผู้ใหญ่ตำหนิการให้ข่าวใช่หรือไม่ ฉะนั้นอะไรที่ยังไม่เป็นความจริง หรือยังไม่ได้ทำก็ไม่สมควรที่ออกมาให้สัมภาษณ์  เพราะการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนในเรื่องนี้ดูเหมือนมีการเสนอกันทุกสื่อแล้วจะบอกว่าไม่จริงได้อย่างไร 

บางทีคิดเร็วทำเร็วอาจจะเป็นเรื่องที่ดี แต่บางเรื่องหากคิดเร็วพูดเร็วเกินไปก็อาจจะเป็นภัยได้ ฉะนั้นนับจากนี้ไปจะทำอะไรต้องระมัดระวัง คราวนี้อาจโทษสื่อได้ แล้วคราวหน้าจะโทษใครดี