ย้อนรอย’กรุ๊ปลีส’ ติดกับดักกู้สะเทือนงบฯ

ย้อนรอย’กรุ๊ปลีส’ ติดกับดักกู้สะเทือนงบฯ

พิธีกร Stock Gossip by Money Wise ติดตาม live จ-ศ 14.15-14.30 น.

‘ผู้กู้ที่สิงคโปร์มีบริษัทแม่ขนาดใหญ่ที่ญี่ปุ่นการันตรี จึงไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหลักทรัพย์ ส่วนกลุ่มไซปรัสเจรจาเรียกหลักทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งมีหลักทรัพย์มากพอชำระหนี้ ทำให้ไม่มีความจำเป็นตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ และไม่มีความเสี่ยงต่อฐานะการเงินบริษัทที่มีความแข็งแรงจากงบปี59 มีกระแสเงินสด 2,500 ล้านบาท ‘

หนึ่งในข้อความให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 14 มี.ค 60 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับบริษัทของ ‘มิทซึจิ โคโนชิตะ’ ประธานกรรมการ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หลังผู้สอบบัญชีตั้งขอสงสัยกรณีเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับในงบปี 59 มูลค่า 3,477 ล้านบาท ที่ทำให้ราคาหุ้นร่วงติดฟลอร์ ถึง 4 ครั้งในระยะเวลา 4 เดือน (มี.ค- ก.ค.)

ราคาหุ้นต้นปี 60 ที่ 62.50 บาท ( 5 ม.ค. ) ร่วงมาอยู่ที่ 17.70 บาท (13 มี.ค. ) เป็นการลดลง 44.8 บาท หรือเปลี่ยนแปลง -71.68% ก่อนจะดีดตัวขึ้นมา 23.50 บาท (27 ก.ค.)

ก่อนหน้านี้ประเด็นดังกล่าวสั่นคลอนความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อบริษัทมาก โดยเฉพาะงบการเงินของกรุ๊ปลีสจะสะท้อนความเป็นจริงจากธุรกิจหรือเป็นการรับรู้ทางบัญชี เพียงอย่างเดียว

โดยมีประเด็นจากการปล่อยกู้ผ่านบริษัทย่อย คือ Group Lease Holdings Pte. Ltd. (GLH)อยู่ที่สิงคโปร์ ได้ปล่อยกู้ช่วงปี 58 มูลค่า 3,477 ล้านบาท คิดเป็น 40 %ของมูลค่าสินทรัพย์ของกรุ๊ปลีส แบ่งเป็นกลุ่มเกาะไซปรัส จำนวน 4 ราย มูลค่า 40 ล้านเหรียญ( 1,416 ล้านบาท)

กลุ่มสิงคโปร์ จำนวน 4 ราย มูลค่า 56 ล้านเหรียญ (2,016 ล้านบาท) มีดอกเบี้ย 282 ล้านบาท ได้อาศัยความสัมพันธ์และความเชื่อมโยงกับกรรมการบริษัทและผู้บริหาร ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ไปอีก 2-3 ปี

เมื่อประเมินจากการปล่อยกู้ในครั้งนี้ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจไฟแนนซ์ระดับเอเชียได้อนุญาตให้ ผู้กู้นำหลักทรัพย์ค้ำประกันมีที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ พันธบัตรรัฐบาลที่ลงทุนในต่างประเทศ รวมไปถึงหุ้นของกรุ๊ปลีสเอง จำนวน 11.5 ล้านหุ้น อีกด้วย

หากไม่นำรวมมูลค่าหุ้นกรุ๊ปลีสแล้ว พบว่าหลักทรัพย์นำมาค้ำประกันมีมูลค่าต่ำกว่ามูลหนี้ด้วยซ้ำ กลุ่มเกาะไซปรัส มี บ้าน อพาร์เมนท์ พันธบัตรรัฐบาลที่ลงทุนในต่างประเทศ รวมมูลค่า 23.6 ล้านเหรียญ และกลุ่มสิงคโปร์ มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นที่ดิน  ประเทศบลาซิล มูลค่า 30.1ล้านเหรียญ

เมื่อย้อนดูปี 58 ยังพบด้วยว่า แหล่งเงินทุนที่กรุ๊ปลีสปล่อยกู้ให้กับทั้ง 2 กลุ่มมูลค่า 72.9 ล้านเหรียญ (2,500 ล้านบาท )มาจากการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นครั้งที่ 3 (GL-W3) 3,300 ล้านบาท การอออกเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ 981 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 5% และเงินสดจากการดำเนินงานปี58 ที่ 966 ล้านบาท

การปล่อยกู้ ปี 59 ใช้แหล่งเงินทุนเดียวกันให้กับกลุ่มเกาะไซปรัสทั้งหมด 22.9 ล้านเหรียญ (800 ล้านบาท) เสนอขาย GL-W3 ดอกเบี้ยที่ได้รับชำระจากผู้กู้ในปี 58 และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปี59อีก 498 ล้านบาท

เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลออกมาแล้วทางกรุ๊ปลีสก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการติดตามทวงหนี้ได้ครบ พร้อมแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของบริษัทจากงบการเงิน และการตั้งเป้าหมายเติบโตในระยะยาว

งบการเงินกรุ๊ปลีส ปี 58 ถึงไตรมาส 2ปี 60 มีรายได้ 2,488 ล้านบาท ,2,922 ล้านบาท และ 1,557 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไร 582 ล้านบาท ,1,063 ล้านบาท และ 665 ล้านบาท ตามลำดับ

ผู้บริหารประกาศตั้งเป้าหมายในอีก 5 ปี(ปี 60-64) จะมีรายได้เติบโต 10 เท่า ขณะที่กำไรจะเติบโตมากกว่ารายได้ โดยเฉพาะการเติบจากพอร์ตสินเชื่อต่างประเทศ อยู่ที่ 90 % ของกำไรหรือโตเฉลี่ยประมาณ 50-100% ต่อปี

นาทีนี้คงพูดได้ยากว่าฐานะการเงินและการเติบโตของกรุ๊ปลีส ในอดีตและอนาคตที่ระบุไว้เป็นจริงแค่ไหน ซึ่งแหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ ประเมินว่ากรุ๊ปลีส กำลังเผชิญปัญหาอย่างหนัก หากข้อมูลที่บริษัทชี้แจงมาไม่ชัดเจนและน่าเชื่อถือเพียงพอ ซึ่งก.ล.ต. น่าจะมีข้อมูลที่สืบค้นและพบว่าข้อมูลที่ชี้แจงออกมาไม่ตรงกัน จนนำไปสู่การกล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI

ดังนั้นนักลงทุนที่ถือหุ้นดังกล่าวต้องเตรียมใจว่าหากความเชื่อมั่นต่อบริษัท ลดลงจากรณีดังกล่าวทำให้มีการแก้ไขงบการเงิน เมื่อเปิดทำการซื้อขายกลับมาอีกครั้งราคาหุ้นมีโอกาสร่วงติดฟลอร์ ได้ถึง 3 ครั้งติดกันๆ จากราคา 22 บาท ลงไปเหลือ 15 บาท และไม่ถึง 10 บาทได้