‘เสี่ยเจริญ’ จัดกลุ่มโลจิสติคส์ดันกองไทคอนแตะ 3.2 หมื่นล้าน

ตั้งแต่ปี 59 ที่กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร๊อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) บริษัทในเครือ ของ Frasers Centrepoint Limited เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ใน บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ด้วยเม็ดเงิน 13,230 ล้านบาท กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ที่ 40.07 %

บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทในเครือ ของ ‘เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ‘ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน ) เป็นธุรกิจที่มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และอสังหาริมทรัพย์ คลอบคลุมในภูมิภาคอาเซียน

ดังนั้นธุรกิจที่เกี่ยงข้องกับโรงงาน คลังสินค้า เพื่อใช้กระจายสินค้าที่มีอยู่ในยังภูมิภาค สามารถเชื่อมต่อกับระบบโลจิสติคส์ และยังนำที่ดินเปล่ามาพัฒนาสร้างรายได้อีก จึงไม่มีอะไรตอบโจทย์ได้ดีไปกว่าการมีธุรกิจกองทุนอสังหาฯ อุตสาหกรรม อย่าง ไทคอน ฯ

ไทคอนฯ เป็นธุรกิจสร้างและให้เช่าโรงงานและคลังสินค้าในพื้นที่ กรุงเทพฯตะวันออก อีสเทิร์นซีบอร์ด ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ ตอนบน ตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ให้เช่า 1.5 ล้านตารางเมตร เดิมเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) ROJNA ดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกันมีกองทุนอสังหาฯ ไว้รองรับการขยาย ประกอบไปด้วย กองทุนรวมอสังหาฯ ไทคอน (TFUND) มีมูลค่าสินทรัพย์ 13,589 ล้านบาท มีรายได้ค่าเช่า 903 ล้านบาท อัตราจ่ายปันผล 5.72 % ต่อปี มีโรงงาน 235 แห่ง คลังสินค้า 8 แห่ง

กองทุนรวมอสังหาฯทีพาร์คโลจิสติคส์ (TLOGIS) มีมูลค่าสินทรัพย์ 4,983 ล้านบาท รายได้ค่าเช่า 355 ล้านบาท อัตราจ่ายปันผล 6.14 % ต่อปี เป็นคลังสินค้าทั้งหมด 63 แห่ง

กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) มีมูลค่าสินทรัพย์ 6,370 ล้านบาท มีรายได้ค่าเช่า 564 ล้านบาท อัตราจ่ายปันผล 8.29 %ต่อปี เป็นโรงงาน 39 แห่ง และคลังสินค้า 50 แห่ง

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯและสิทธิการเช่าอสังหาฯไทคอน (TREIT) มีมูลค่าสินทรัพย์ 7,696 ล้านบาท มีรายได้ค่าเช่า 563 ล้านบาท อัตราจ่ายปันผล 6.77 % ต่อปี

ปัจจุบันได้มีการเตรียมรวมสินทรัพย์กองทุนทั้งหมด เข้าไปอยู่ในกองทุน TREIT เพียงกองเดียว จะทำให้กองทุนดังกล่าวจะมีมูลค่าสินทรัพย์ 32,638 ล้านบาท มีรายได้ค่าเช่า 2,385 ล้านบาท มีสัดส่วนโรงงาน 300 แห่ง คลังสินค้า 192 แห่ง แบ่งเป็นมีกรรมสิทธิ์ 69 % และสิทธิการเช่า 31 % ซึ่งจะมีการขอมติขอผู้ถือหน่วยภายในต.ค.นี้

การรวมกองทุนดังกล่าวจะสามารถช่วยประหยัดภาษีจากที่ทางการยกเว้นภาษีการรวมกองทุนได้แล้ว ยังเป็นการจัดระเบียบคลัสเตอร์ ในกลุ่มธุรกิจใต้ร่มธงภายในเครือของตระกูล ‘สิริวัฒนภักดี’ อีกด้วย

‘วีรพันธ พูลเกษ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทคอนฯ เปิดเผยกับ Stock Gossip ว่าเดิมกลุ่มธุรกิจในเครือของ คุณเจริญ เช่าโรงงานและคลังสินค้าอยู่แล้ว บวกกับทำเลที่ตั้งกระจายทางเหนือ อีสาน และตะวันออก ทำให้เชื่อมระบบโลจิสติคส์ไปยังภูมิภาคอาเซียน จีนตอนใต้ได้ง่าย ดังนั้นจึงทำให้การเข้ามาถือหุ้นในไทคอน ฯ เป็นยุทธศาสตร์ ตามเป้าหมายเติบโตขึ้นเป็นผู้นำในอาเซียน

‘โรงงานและคลังสินค้า บิ๊กซี โออิชิ อยู่พื้นที่วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฝั่งท่าเรือแหลมฉบัง มีคลังสินค้าของ บิ๊กซี และ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ทางภาคอีสานก็โรงงาน อยู่ที่ขอนแก่น ขณะเดียวกันก็มีที่ดินเปล่าของคุณเจริญรอพัฒนาทางระยองอีก 1 หมื่นไร่ ยังไม่นับรวมสินทรัพย์ในต่างประเทศอีก ในอนาคตมีโอกาสเข้าไปซื้อสินทรัพย์ในกลุ่มนี้ด้วย ’

อย่างไรก็ตามกอง TREIT หลังรวมกองทุน 3 กองเข้ามาแล้ว เปิดช่องในการขยายสินทรัพย์เพื่อให้กองทุนเติบโตมากขึ้น ตั้งเป้าอยากจะขยายปีละ 10 % เพื่อรักษาอัตราการจ่ายปันผลที่นักลงทุนคาดหวังได้ 6.5 -7 % ต่อปี

จากการซื้อสินทรัพย์ที่มีรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การซื้อสินทรัพย์จะใช้เงินกู้ทั้งหมด จากวงเงินกู้กอง TREIT สามารถกู้ได้ประมาณ 60% แต่จะใช้อัตราการกู้เพียง 30 % เพื่อขยายกองทุน

ปีนี้ มีการซื้อสิทรัพย์เข้ามาโดย ไทคอนฯ ขายเข้ากองทุน 3,500 ล้านบาท ซื้อสินทรัพย์จากข้างนอก 1,000 ล้านบาท ทำให้มูลค่ากองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 36,500 ล้านบาท และจะมีพื้นที่เช่าเพิ่ม ส่งผลทำให้กอง TREIT มีสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในขณะนี้