จับตาหุ้นนิคมฯ ครึ่งปีหลัง อมตะ-ดับบลิวเอชเอฯเด่นสุด

นับถอยหลังพระราชบัญญัติ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติรับหลักการเรียบร้อยแล้ว คาดการณ์ว่าคณะกรรมาธิการสามัญจะใช้ระยะเวลาพิจารณา 30 วัน ก่อนจะส่งกลับมายัง สนช. เพื่อทำการลงมติ และประกาศใช้เป็นกฎหมาย

ตามที่ประกาศว่าโครงการ อีอีซี จะคลอบคลุม พื้นที่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา โดยมีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ประกอบไปด้วย สนามบินอู่ตะเภา ตั้งเป้าหมายรองรับผู้โดยสาร 3 ล้านคน รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ –ระยอง ใช้ระยะเวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง ท่าเรือแหลมฉบัง รองรับตู้คอนเทนเนอร์ได้ 18 ล้านทีอียูต่อปี เขตอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเมืองใหม่เพื่อรองรับการขยายในอนาคต

ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงทำให้หุ้นในกลุ่มนิคม ฯ กลับมาได้รับความสนใจและให้น้ำหนักการลงทุนมากขึ้น โดยมีหุ้นที่ได้รับผลดีจากประเด็นดังกล่าว บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) AMATA บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WHA ซึ่งมี บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด เป็นบริษัทย่อย และ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) ROJNA

อมตะ มีที่ดินเตรียมขายมากที่สุดในกลุ่มประมาณ 14,000 ไร่ จากปัจจุบัน สามารถขายที่ดินได้แล้วจำนวน 623 ไร่ และยังตั้งเป้าหมายขายที่ดินในปีนี้ให้ได้ 1,000 ไร่ ขณะที่ดับบลิวเอชเอ ฯ มีที่ดินเตรียมขายประมาณ 11,000 ไร่ จากที่ครึ่งปีแรกสามารถขายได้ 584 ไร่ ซึ่งตั้งเป้าหมายยอดขายที่ดินในปีนี้ที่ 1,400 ไร่ และโรจนะ มีที่ดินในมือไว้ขาย 2,500 ไร่

นอกจากนี้ยังมีการประกาศชัดเจนถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่สนใจจะดึงเข้ามาเป็นลูกค้า อย่าง อมตะ จะเน้นไปที่กลุ่มยานยนต์ กลุ่มการบิน ส่วนดับบลิวเอชเอ ฯ เน้นไปที่กลุ่มหุ่นยนต์ กลุ่มการบิน

ราคาหุ้นอมตะ ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา บวกมาแล้ว 19.02 % จากราคา ต้นเดือนที่ 18.40 บาท (1 ก.ย.) ราคาปิดที่ 21.90 บาท (29 ก.ย.) ทำราคาสูงสุดที่ 22.30 บาท (28 ก.ย.) ส่วนดับบลิวเอชเอ ฯ บวกมาแล้ว 11.25 % จากราคา 3.20 บาท มาอยู่ที่ 3.56 บาท ทำราคาสูงสุดที่ 3.68 บาท (28 ก.ย.)

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส ให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังจนไปถึงปีหน้า เพราะ อีอีซี ดึงความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน โดยมอง ดับบลิวเอชเอ ฯ ราคาหุ้นยังน่าสนใจ ด้วยจุดเด่นทางด้านยุทธศาสตร์ทำเลที่เหมาะสม โดยมีนิคมฯ HESIE4 เปิดใหม่ในปีนี้รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เช่น หุ่นยนต์ ยานยนต์แห่งอนาคต และยังมีนิคม ฯ เดิม ESIE เป็นศูนย์รวมกลุ่มยานยนต์ และยังพัฒนาจัดตั้งนิคมฯ แห่งใหม่อีก 2 แห่งในจังหวัดระยอง

ล่าสุดได้ร่วมมือกับทหารเรือเพื่อพัฒนาคลัสเตอร์การบินที่สนามบินอู่ตะเภา เปิดโอกาสเข้าไปสร้างอาคารให้เช่าสำหรับกิจกรรมซ่อมบำรุง และแอร์ คาร์โก้ ทำให้ในอนาคตจึงมีความน่าสนใจกับนักลงทุนในกลุ่มนี้

นอกจากนี้หากดูจากสัดส่วนกำไรขั้นต้น มาจาก ยอดขายที่ดินนิคมฯ 21% ยอดขายคลังสินค้า 21% ค่าเช่าคลังสินค้า 18% ธุรกิจสาธารณูปโภค 13% ส่วนแบงกําไรจากธุรกิจไฟฟา 22% และอื่นๆ 6% เป็นจุดเด่นทีมีรายได้กระจายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะธุรกิจสาธารณูปโภค ทั้งไฟฟ้า น้ำ บำบัดน้ำเสีย ให้กับนิคมฯ ของบริษัท มองว่าราคาเป้าหมายที่ 3.6 บาท

บล.ธนชาต มองความได้เปรียบของจำนวนที่ดินรอขายในมือ ทำให้หุ้น อมตะ น่าสนใจมากกว่า หลังจากผู้บริหารได้เดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนต่างประเทศที่ผ่านมา บอกถึงสัญญาณความต้องการซื้อที่ดินเพิ่มขึ้น ทำให้น่าจะเห็นการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง คาดว่าสามารรถขายที่ดินได้เพิ่ม 20 % จากประเด็นการเดินหน้าโครงการอีอีซี ซึ่งก่อนหน้านี้ยอดขายที่ดินยังอ่อนแอ เติบโตเพียง 13 % จากเป้าหมายทั้งปีของบริษัท

ทางอมตะได้ให้กลยุทธ์จะจับกลุ่มลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง และสามารถใช้ บริษัทลูก อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) AMATAV สำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมากในประเทศเวียดนาม รวมทั้งได้เปรียบในจุดยุทธศาสตร์สำคัญจาก อมตะนคร ชลบุรี เป็นนิคมฯขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิและกรุงเทพฯ มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และยังมีนิคมฯ ที่สามารถรองรับการลงทุนโดยตรงที่เวียดนามได้ แนะนำลงทุนที่ราคา 23 บาท