คิดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9

คิดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9

ยิ่งวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช ใกล้เข้ามาทุกวัน ก็ยิ่งมีประชาชน

เดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระราชวัง เพิ่มมากขึ้นทุกวันที่ยอดผู้คนขึ้นไปบางวันที่เป็นวันหยุดแตะหลัก 80,000 คน ไม่ว่าแดดจะออกและฝนจะตก แต่ประชาชนก็ไม่ย่อท้อที่จะออกไปแสดงความอาลัยครั้งสุดท้ายต่อพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย 

ทั้งนี้เพราะประชาชนประจักษ์ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่มีประเทศชาติและประชาชนตลอดระยะเวลาที่ทรงงานหนัก และทุ่มเทพระวรกาย มายาวนานตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่ประชาชนบางคนได้รู้สึกว่าจะต้องไปกราบสักการะอำลาท่านอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิตนี้ แต่ก็มีคนอีกจำนวนมากที่เดินทางไปกราบสักการะมากกว่าหนึ่งครั้ง จนทำให้ในแต่ละวันกว่าที่ประชาชนจะได้ขึ้นถวายสักการะจะเป็นเวลา 02.00-03.00 น.ของวันใหม่ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงพระกรุณาให้ขยายระยะเวลาการกราบถวายพระบรมศพออกไปจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 5 ต.ค. นี้ แต่ก็เข้าใจว่ายอดจำนวนคนจะยังคงหนาแน่นระดับ 50,000 คนต่อวัน

เวลา 327 วัน(จนถึงวันที่ 26 ก.ย.) มีประชาชนเข้าถวายสักการะที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทรวม 11,260,388 คน และถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 834,241,170.01 บาท และจะเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของประเทศไทย ที่เห็นคนไทยร่วมใจกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ความจงรักภักดีของปวงประชาชนอีกจำนวนหนึ่ง ยังปรากฏในการก่อสร้างพระเมรุมาศ ที่บรรดาช่าง และประชาชนในสาขาวิชาชีพต่างๆ ได้อุทิศแรงกาย แรงใจ และแรงทรัพย์ในการช่วยทำให้สำเร็จที่เกือบจะสมบรูณ์แล้วตั้งแต่ปลายเดือนก.ย. ซึ่งมีความสวยงามดังสรวงสวรรค์ ยิ่งเห็นพระเมรุมาศแล้วเสร็จลง คนทั้งประเทศก็ยิ่งใจหาย และได้รับทราบว่าจะยังคงพระเมรุมาศให้ประชาชนได้ชมออกไปจนถึงสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ซี่งคิดว่าระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนคงจะสั้นเกินไป เพราะงานที่สวยงามปราณีตที่ใช้เวลาก่อสร้างมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีนี้น่าจะเก็บไว้ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมถึงศิลปกรรมอันสวยงามของประเทศไทย

คิดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9

นอกจากงานก่อสร้างพระเมรุมาศแล้วยังมีกิจกรรมอาสาที่อยู่เบื้องหลังอีกเป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่งานบริการสาธารณะ บริการอาหารและเครื่องดื่ม คณะทีมแพทย์ที่มาช่วยดูแลประชาชนที่เจ็บป่วย หรือ กลุ่มที่ประดิษฐดอกไม้จันทน์ จากประชาชน บริษัท และองค์กรต่างๆ เช่น โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ที่คาดว่าจะมีความต้องการใช้ถึง 7 ล้านดอกสำหรับในกรุงเทพมหานคร ทั่งไม่รวมต่างจังหวัดและต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่ทราบถึงยอดดอกไม้จันทน์ที่ประดิษฐได้ว่ามีจำนวนเท่าใด ในส่วนตัวของผู้เขียนนั้นก็ได้ร่วมกับเพื่อนหลายกลุ่มร่วมกันประดิษฐดอกดารารัตน์จากเปลือกข้าวโพด ได้รวมแล้วประมาณหนึ่งหมื่นดอก ที่ต้องขอเล่าว่าไม่ใช่งานที่ง่ายเลยเพราะในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเกิดการขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ โดยเฉพาะตัวเปลือกข้าวโพด และหนวดไม้จันทน์ที่ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างมหาโหด แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจดีของพวกเราทุกคนร่วมกัน จึงทำให้กิจกรรมประดิษฐดอกไม้จันทน์ลุล่วงไปด้วยดี

ในช่วงถวายพระเพลิงพระบรมศพของในหลวง รัชกาลที่ 9 คาดการณ์ว่าประชาชนก็จะไปร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก ทั้งประชาชนในเขตกทม. เอง และประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เท่าที่ทราบนั้นโรงแรมและ ที่พักที่อยู่รอบๆ พระบรมมหาราชวังได้ถูกจองเต็มมาตั้งแต่ประกาศวันถวายพระเพลิงอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปีแล้ว

ปัญหาประการหนึ่งก็คือเนื่องจากมีผู้ที่จะเดินทางไปร่วมงานจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีปัญหาการเดินทางที่ทางการได้ขอความร่วมมือในการใช้ขนส่งสาธารณะ โดยมีการจัดที่จอดรถตามจุดต่างๆ และมีรถสำหรับขนส่งประชาชนไปยังบริเวณพระบรมมหาราชวัง จุดใหญ่ๆ ทีทราบคือ สนามม้านางเลิ้ง และขณะที่ระบบรถไฟฟ้าวันที่ 26 ต.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีนั้น รถไฟฟ้าบีทีเอสจะให้บริการฟรีตลอดสาย ตั้งแต่สถานีหมอชิตถึงสถานีสำโรง และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีบางหว้า ส่วนวันที่ 25 และ 27 ต.ค. 2560 รถไฟฟ้าบีทีเอสจะให้บริการฟรีเฉพาะส่วนต่อขยาย ได้แก่ ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จากสถานีอ่อนนุชถึงสถานีสำโรง และส่วนต่อขยายสายสีลม จากสถานีวงเวียนใหญ่ถึงสถานีบางหว้า และรถประจำทางบีอาร์ที จากสถานีสาทรถึงสถานีราชพฤกษ์ เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางมาร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์บริเวณพระเมรุมาศจำลอง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ เตรียมให้บริการฟรี ในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ระหว่างวันที่ 25 - 27 ต.ค. 2560 พร้อมเปิดให้บริการเดินรถถึงตี 2 ในวันที่ 26 ต.ค. 2560

ข้อสังเกตที่ขอฝากไว้คือ ขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะรถเมล์นั้นจะไม่เพียงพอและไม่สะดวก และต้องการเรียกใช้บริการรถแท๊กซี่ แต่ปรากฏว่ารถแท๊กซี่ส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธที่จะเดินทางเข้าไปส่งผู้โดยสารในบริเวณลานพระเมรุมาศเพราะกลัวต่อปัญหารถติดที่กว่าจะเข้าออกจะใช้เวลามาก ซึ่งไม่สนับสนุนต่อนโยบายให้ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะ จึงขอฝากทางกทม. และกระทรวงคมนาคมเตรียมแผนรองรับในเรื่องการจัดการจราจร หรือการเพิ่มจำนวนรถสาธารณะให้เพียงพอสำหรับให้บริการประชาชนด้วย เพราะหากระบบขนส่งสาธารณะมีเพียงพอและสะดวกแล้วก็คงไม่มีประชาชนที่จะเดินทางด้วยรถส่วนตัว