เช็คสัญญาณออริจิ้น ฯ ราคาหุ้นทุบสถิติแพงเกินพื้นฐาน

เช็คสัญญาณออริจิ้น ฯ ราคาหุ้นทุบสถิติแพงเกินพื้นฐาน

พิธีกร Stock Gossip by Money Wise ติดตาม live จ-ศ 14.15-14.30 น.

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมายังเติบโตได้ไม่ดีหนัก จากปัญญาซัพพรายล้นตลาดโดยเฉพาะคอนโดมีเนียม บวกกับยอดปฎิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินยังสูงทำให้หลายบริษัทจำเป็นต้องปรับตัว ยิ่งในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กได้รับผลกระทบหนักกว่ารายใหญ่

ช่วงนี้ปีนี้ได้เห็นการขยับตัวของผู้ประกอบการรายเล็ก เพื่อปรับตัวและอาศัยจังหวะตลาดซบเซาจับมือพันธมิตรปรับพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง

 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เป็นผู้ประกอบการจากอสังหาฯ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และพื้นที่ชานเมือง โดยมีกลุ่มลูกค้าตลาดกลาง จนถึงตลาดกลางล่าง และต่างชาติ ได้ประกาศเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดบน พร้อมวางแผน 5 ปี ขึ้นมาติดกลุ่ม 5อันดับแรกของกลุ่มอสังหาฯ

ด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมด บริษัท พราว เรสซิเดนส์ จำกัด จำนวน 10 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 4,000 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดบนให้ได้

โดยพราว เรสซิเดนส์ เป็นบริษัทของกลุ่ม ‘ลิปตพัลลภ’ มีโครงการในมือตามหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายแห่ง เช่น โครงการบูลพอร์ต หัวหิน ,โครงการวานา นาวา หัวหิน ,เดอะพาร์ค 24 สุขุมวิท 24 และที่ดินทำเททองจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังเข้าไปร่วมทุนกับ บริษัทโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ด้วยการเข้ามาถือหุ้นใน บริษัทย่อย ของออริจิ้น ฯ 49 % คิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ร่วมกัน

จุดเด่นของกลุ่มนี้มาจากการเป็นอสังหาฯในระดับโลก มีแบนด์ติด 1 ใน 3 ในตลาดที่อยู่อาศัย และยังมีความรู้ความเชียวชาญในการก่อสร้างอาคารชุดในต่างประเทศ จะเข้ามาเสริมอสังหาฯด้านโลจิสติกส์ และอาคารสำนักงานขนาดกลางในเมือง ซึ่งจะตอบรับกับโครงการพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้ดี

ดังนั้นในอีก 5 ปีข้างหน้าในพอร์ตของ ออริจี้นฯ จะมีสินทรัพย์ครบวงจร ตั้งแต่ สำนักงานเช่า คลังสินค้า บริการด้านอสังหาฯ คอมมูนตี้มอลล์ โรงแรม อพาร์ทเมนท์ คอนโดมีเนียมและโครงการแนวราบ ซึ่งในปี 2561 มีการเปิดตัวโครงการมิกซ์ ยูส ที่พร้อมพงศ์ อีกด้วย

โครงการในอนาคตที่มีการขยายมากขนาดนี้ทำให้บริษัทจำเป็นต้องเพิ่มทุนรองรับการใช้เม็ดเงินลงทุนเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต โดยประกาศเพิ่มทุน 203 ล้านบาท เป็นหุ้นเพิ่มทุน 406 ล้านหุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปรสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิอีก3 ปีข้างหน้า

ด้วยอัตราการใช้สิทธิจะอยู่ที่ 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 20 บาทต่อหุ้น จากการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมได้รับผลกระทบจากการปรับลดสัดส่วนหุ้น (Dilution Effect) ประมาณ 21 %

นอกจากนี้ยังมีการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.05 บาท และปรับเป็นการจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นปีละ 2 ครั้งในอัตรารวมแล้วไม่น้อยกว่า 40 % ซึ่งสามารถช่วยลดผลกระทบจากการที่ผู้ถือหุ้นต้องใส่เงินเพิ่มทุนในราคาที่สูงกว่าในกระดานหุ้นปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2560-2561 ผู้ถือหุ้นยังไม่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มทุน และมีโอกาสลุ้นให้บริษัทมีผลดำเนินงานมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้

นาย นำชัย เตชะรัตนวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ปรับประมาณกำไรของออริจิ้นฯ ช่วง 2 ปีจากนี้ โดยปี 2560 อยู่ที่ 1,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % จากปีก่อน และปี 2561 มีกำไร 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 % จากปีก่อน

จากโครงการในมือ (Backlog) ที่ 25,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ ปีนี้ที่ 7,000 ล้านบาท และปีหน้าที่ 9,400 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 3 ยังมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 7,400 ล้านบาท น่าจะทำให้ยอดรอการขาย (Presales) เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังครึ่งปีแรกทำไปแล้ว 4,200 ล้านบาท 

รวมไปถึงรายการพิเศษจากการขายหุ้นให้ โนมูระ เรียลเอสเตท บันทึกเป็นกำไร 265 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3 ปี 60 และรับรู้รายได้จากการค่าบริหารงานอีก 200 ล้านบาท ช่วงไตรมาส 4 ปี 60

ดังนั้นผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง จึงมีทิศทางเติบโตชัดเจน และทำสถิติใหม่ จากครึ่งปีแรก มีกำไร 411 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่ง 2 ปีนี้จากนี้ไม่ค่อยน่ากังวลใจถึงความสามารถเติบโตน่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย

โดยได้มีการปรับประมาณการราคาหุ้นด้วยการรวมกำไรใหม่ และการเติบโตไว้แล้วที่ราคา 17.4 บาท แต่เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวเร็วและเกินกว่าพี/อี กลุ่ม มองว่าราคาหุ้นขึ้นมาทำสถิติใหม่ 20 บาทตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นปี 58 แพงเกินพื้นฐานไปแล้ว