รอเสพ! Doctor Sang : ภาพยนตร์ไทยคุณภาพ พิถีพิถันงานสร้าง
เห็น "น้ำตา" ของคนในกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ รู้สึกสะเทือนใจยิ่ง ราวกับว่า การอุทิศชีวิตสร้างผลงานดีๆ แต่ไม่มีใครหรือหน่วยงานใดเห็น "คุณค่า"
พลันได้ชม Trailer ภาพยนตร์ไทย เรื่อง DoctorSang ที่เพิ่งปล่อยออกมาแล้ว มานั่งคิด ๆ ดูแล้ว จึงอยากเขียนถึงเสียหน่อย เพราะมีความน่าสนใจและจริตส่วนตัวก็ชื่นชอบภาพยนตร์ย้อนยุคเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเป็นเรื่องราวการต่อสู้ของหมอยาพื้นบ้านภาคกลาง มุ่งมั่นในอุดมการณ์ ทั้งการรักษาคนไข้ด้วยวิชาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ยังนำเสนอเรื่องราวคำสัญญากับหญิงอันเป็นที่รักว่าจะแต่งงานกัน
หากพินิจเพียงได้ชมเทรลเลอร์ของภาพยนตร์เพียง 2.22 นาที ที่นำเสนอแนวของภาพยนตร์ เรื่องของอารมณ์ภาพยนตร์ พล็อตเรื่องคร่าวๆ และฉากไฮไลท์ รวมไปถึงเปิดโฉมหน้าของเหล่านักแสดงเด่นๆ แล้ว.. บอกได้ว่างดงาม ตระงามตา และน่าติดตาม
เมื่อตรองลงรายละเอียดไปถึงการกำกับโทนสี แสงและเงา, เสื้อ ผ้า หน้า ผม จังหวะ ลีลา และการเคลื่อนไหว อันเป็นองค์ประกอบฉาก ครบถ้วนสวยงามและสมจริง เรียกได้ว่า mise-en-scene ล้วนไม่มีที่ติ
จึงเร้าใจอยู่ว่า จะได้เฝ้ารอชม "ภาพยนตร์ไทยประเด็นดี-ถ่ายทำมีคุณภาพ" น่าคุ้มค่าที่จะเสียเงินคว้าตั๋วเดินเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์ในเร็วนี้
ทว่า เมื่อได้ยินเรื่องราว และได้เห็น "น้ำตา" ของคนในกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวแล้ว รู้สึกสะเทือนใจยิ่ง ราวกับว่า การอุทิศชีวิตสร้างผลงานดีๆ แต่ไม่มีใครหรือหน่วยงานใด เล็งเห็น "คุณค่า" ที่จะให้การสนับสนุนให้งานสร้างสรรค์อันปลุกเร้าอุดมการณ์ได้มีพลังโลดแล่นในผู้คนจำนวนมากได้ดูชมกัน
หากย้อนอดีตหรือย้อนมองดูสภาพการณ์ในปัจจุบันก็ตามที การรักษาคนป่วยโดยใช้ความเชื่อมากกว่าความรู้จริงตามหลักแพทย์แผนไทยและสมัยใหม่ ย่อมทำให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขก็คงเห็นเป็นข่าวให้ได้แก้และชี้แจงอยู่เนื่องๆ
ดังนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจเป็นตัวกระตุ้นเตือนการประชาชนในการคิดวิเคราะห์หาแนวทางรักษาที่ถูกต้องก็เป็นได้ ถ้าหากมีการสนับสนุนให้ได้ชมภาพยนตร์กันอย่างกว้างขวาง
ขณะเดียวกัน เมื่อดูภาพรวมคร่าวๆ ของการผลิตภาพยนตร์ไทยแล้ว ช่างน่าหวั่นใจว่า คนที่ต้องการทำหนังดีๆ มีคุณภาพ กำลังหมดกำลังใจ ไม่กล้าจะลงทุนเพราะกลัวเจ๋ง จะให้หันไปทำหนังผีตลก หรือหนังแนวคอมเมดี้ติดเรท18+ เพื่อเอาใจวัยรุ่นอย่างเดียวก็ใช่เรื่อง
จึงเกิดคำถามภายในใจอยู่ว่า เหตุไฉน? รัฐบาลหรือบริษัทมหาชน มิสนใจนำหนุนแนวคิดดี ทุ่มเททำเป็นภาพยนตร์โปรดักชั่นเยี่ยมให้คนไทยได้เสพอย่างมีอารยะ และสามารถไปฉายงานเทศกาลต่างๆ บนเวทีนานาชาติได้อีกทางหนึ่ง เพื่อโชว์ความเป็นไทย ศิลปะและวัฒนธรรม ต่อสายตาชาวโลก
..อย่าให้คนอยากเสพภาพยนตร์ดีๆ คนทำภาพยนตร์คุณภาพ กลายเป็นคนกลุ่มเล็กๆ แล้วล้มหายไป.. รัฐต้องช่วย! อย่ายืนให้กำลังใจเฉยๆ ต้องรีบส่งเสริมก่อนที่อุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ไทยเกิดวิกฤต!?
