นกแอร์เพิ่มทุนฉลุย ทุนใหญ่ให้ผ่านแผนฟื้นฟูกิจการ

นกแอร์เพิ่มทุนฉลุย ทุนใหญ่ให้ผ่านแผนฟื้นฟูกิจการ

Stock Gossip by Money Wise ติดตาม live จ-ศ 14.15-14.30 น.

ผลการประชุมผู้ถือหุ้นของ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) NOK เป็นไปตามความคาดหมายด้วยการผ่านความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นใหญ่ทุกกลุ่ม ที่ต่างยอมใส่เงินเพิ่มทุนในครั้งนี้เพื่อให้นกแอร์หยุดเลือดไหลและกลับมาฟื้นตัวได้ตามกรอบแผนฟื้นฟูกิจการ และแผนปฎิบัติงานที่เสนอคณะกรรมการไปก่อนหน้านี้แล้ว

โดยมีการขอเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม รวม 1,207 ล้านหุ้น แบ่งเป็น หุ้นเพิ่มทุน 1,135 ล้านหุ้น อัตรา 1 หุ้นใหม่ต่อ 1 หุ้นเก่า ที่ราคา 1.50 บาท จะมีการชำระราคาหุ้นในวันที่ 16-20 ตุลาคมนี้ และอีก 71 ล้านหุ้น ไว้รองรับการแปรสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือ NOK-W1 เท่ากับว่าการเพิ่มทุนรอบนี้นกแอร์ได้เงินต่อลมหายใจประมาณ 1,700 ล้านบาท

บรรดาคณะกรรมการที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ขั้วหลักมี 2 กลุ่ม คือกลุ่ม จุฬางกูร การบินไทย และกระทรวงการคลัง ตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งแต่ละกลุ่มได้ส่งตัวแทนในฐานะกรรมการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ด้วย จากรายชื่อกรรมการฝากของกลุ่ม จุฬางกูร ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วนรวม 41.77 % โดยมีชื่อ ‘ณัฐพล จุฬางกูร ‘ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ที่ 23.51 % เห็นชอบการเพิ่มทุนในครั้งนี้ด้วยโดยได้มาประชุมด้วยตนเอง แต่ได้ส่งตัวแทนผ่านที่นั่งกรรมการ ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าคือ ‘นลินี งามเศรษฐมาศ’ เข้ามาร่วมประชุม ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) AIRA ซึ่งมีกลุ่มจุฬางกูรเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

โดยเธอได้ระบุภายหลังเสร็จสิ้นมติเพิ่มทุนในครั้งนี้ว่ามีความเชื่อมั่นต่อนกแอร์ว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนงาน หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหาร เข้าใจว่าต้องใช้เวลาเพื่อทำตามแผนระยะหนึ่ง ดังนั้นในฐานะกรรมการก็พร้อมที่จะสนับสนุน

ฝากของการบินไทยในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ถือหุ้นอยู่ 21.57% มีตัวแทนผ่านที่นั่งกรรมการ 2 คน คือ ‘อุษณีย์ แสงสิงแก้ว’ ดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย และ ‘ธีรพล โชติชนาภิบาล’ ตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายพาณิชย์ การบินไทย กล่าวถึงแผนการฟื้นฟูกิจการของนกแอร์ที่ได้เสนอมานั้นจะดูที่แผนว่าสามารถปฏิบัติได้จริงหรือไม่ และมีความเป็นไปได้แค่ไหน หลักๆแล้วการบินไทยพร้อมที่จะเข้ามาร่วมบริหารงานอย่างใกล้ชิดกับนกแอร์มากขึ้น เพื่อปรับการทำงานให้สามารถไปด้วยกัน

โดยจะช่วยเหลือและสนับสนุนงานทางสายการบินเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย การจัดการ ส่วนด้านเงินทุน มีกลุ่ม ‘จุฬางกูร’ เข้ามาสนับสนุนและช่วยเหลือในฐานะผู้ถือหุ้น ซึ่งถือได้ว่ามีความเชี่ยวชาญในการจัดหาแหล่งเงินทุนอยู่แล้ว น่าจะทำให้นกแอร์กลับมาฟื้นได้

นอกจากนี้คาดการณ์ว่ากลุ่มตัวแทนที่มาจากกระทรวงการคลัง ประกอบไปด้วย ‘สมหมาย ภาษี‘ และ ‘ประเวช องอาจสิทธิกุล’ แสดงออกถึงความมั่นใจในตัวผู้บริหารและแผนฟื้นฟูกิจการเช่นเดียวกัน

สำหรับการเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูกิจการ ภายใต้บริหารงานของ ‘ปิยะ ยอดมณี' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นกแอร์ ได้ขอระยะเวลา 3 ปี (2560-2562) เพื่อให้ฐานะการเงินกลับมาฟื้นตัวสามารถเติบโตได้ในอนาคต หากได้เงินเพิ่มทุนในรอบนี้ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น ทำให้เห็นรายได้เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายลดลงภายในระยะเวลาอันสั้น

ด้านแหล่งข่าวโบรกเกอร์หากนกแอร์เพิ่มทุนสำเร็จจะมีเงินสดเข้ามา 1,704 ล้านบาท ส่งผลทำให้ฐานะการเงินดีขึ้น ไม่ต้องเข้ากระบวนการฟื้นฟูกิจการ จากปัจจุบันส่วนทุนเฉพาะบริษัทเหลือเพียง 520 ล้านบาท เมื่อรวมเงินเพิ่มทุนรอบนี้ทำให้ส่วนทุนเพิ่มเป็น 2,200 ล้านบาท รองรับผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3 ที่คาดว่าจะขาดทุนต่อเนื่อง ส่วนปีหน้านกแอร์ยังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นกังวลว่าจะสามารถปรับกลยุทธ์ธุรกิจท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำได้อย่างไร จากปัจจุบันโดนแย่งส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศลดลงไปเรื่อยๆ มีต้นทุนดำเนินธุรกิจที่สูงรวมทั้งปัญหาภายในองค์กร หากยังแก้ไม่ได้เงินที่เพิ่มทุนไปอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มทุนรอบที่ 3 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับราคาหุ้น นกแอร์ ปรับตัวขึ้นมาสูงมาก มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะปัจจุบันซื้อขายกันสูงกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value ) ถึง 12 เท่า สูงกว่าอุตสาหกรรมอยู่ที่ 1 เท่า ดังนั้นหากดูจากพื้นฐานราคาหุ้น nok จะอยู่ที่ 0.40 บาทต่อหุ้น แนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวัง ซึ่งในสัปดาห์หน้าคาดว่าหุ้น nok จะโดนให้ซื้อด้วยเงินสด (cash balance ) จะมีผลต่อราคาปรับตัวได้