บ้านหลังนี้เขย่า การเมืองสิงคโปร์

บ้านหลังนี้เขย่า การเมืองสิงคโปร์

ไปสิงคโปร์รอบล่าสุด ผมตั้งใจจะไปดูบ้านหลังที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะแห่งนี้ เพราะบ้านเลขที่ 38 ถนน Oxley Rd

กำลังเป็นประเด็นการเมืองร้อนแรงที่อาจมีผลทางการเมืองระดับชาติได้

บ้านของอดีตนายกฯลีกวนยิวกลายเป็นข้อพิพาทระหว่างนายกรัฐมนตรีหลี่เซียนหลงกับน้องสาวหลี่เว่ยหลิงและน้องชายหลี่เซียนหยางว่าจะทำอะไรกับบ้านหลังนี้

สองพี่น้องอ้างว่าคุณพ่อสั่งไว้ในพินัยกรรมให้รื้อบ้านหลังนี้เสียเพราะการดูแลรักษาจะสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น

ในแถลงการณ์ร่วมของสองพี่น้องนี้กล่าวหาว่านายกฯหลี่เสียนหลงและภรรยา (โฮชิง) ต้องการจะเก็บรักษาบ้านหลังนี้ไว้ “เพื่อจะเสริมส่งต้นทุนทางการเมืองของตัวเอง”

นายกฯหลี่เซียนหลงออกมาตอบโต้ทั้งส่วนตัวและผ่านรัฐสภาว่าเรื่องนี้เขาต้องการให้คณะรัฐมนตรีตัดสินร่วมกันเพราะอดีตนายกฯลีกวนยิวเป็นคนสำคัญของประเทศ และประชาชนคนสิงคโปร์ก็มีความเห็นแบ่งเป็นสองด้าน จำเป็นต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน

ลีกวนยิวเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2015 ด้วยอายุ 91

ผ่านไปได้เพียงเดือนกว่า ๆ หลี่เว่ยหลิงและหลี่เซียนหยางออกประกาศพร้อมกันว่าคุณพ่อได้สั่งให้รื้อบ้านหลังนี้หลังการเสียชีวิต และขอให้ชาวสิงคโปร์เคารพในการตัดสินใจนั้นด้วย

ลีกวนยิวระบุในพินัยกรรมไว้อย่างนั้น...มีเงื่อนไขเพียงว่าถ้าหากลูกสาวยังขออาศัยอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่งก็ให้รื้อบ้านหลังจากเธอย้ายออกไป

แต่ถ้าหากมีกฎหมายหรือระเบียบอะไรที่ทำให้การรื้อบ้านเกิดขึ้นไม่ได้ อดีตนายกฯคนดังก็สั่งไว้ว่าขอให้รักษาบ้านหลังนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของครอบครัวเท่านั้น ไม่เปิดให้สาธารณชนเข้ามาได้

ก่อนหน้านี้มีเสียงเรียกร้องจากประชาชนบางส่วนว่าหากลีกวนยิวจากไปแล้ว ก็ควรจะแปรสภาพของบ้านโบราณที่สร้างก่อนสงครามที่ผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ยุคใหม่ได้อาศัยอยู่ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1940s ให้เป็นพิพิธภัณฑ์หรือ “มรดกแห่งชาติ” เพื่อชนรุ่นหลัง

ขณะที่นายกฯหลี่เซียนหลงบอกว่าจะให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องนี้ สองพี่น้องตระกูลลีก็ออกมากล่าวหาว่าพี่ชายพยายามจะเก็บบ้านหลังนี้ไว้เพื่อสืบทอดมรดกทางการเมืองนี้ให้กับลูกของตัวเองต่อไป

เท่านั้นแหละ การเมืองสิงคโปร์ก็เดือดปุด ๆ ไปทั่วกลายเป็นหัวข้อซุบซิบนินทากันทั้งประเทศ และมีผลลามไปถึงคะแนนนิยมทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี

เพื่อนฝูงชาวสิงคโปร์ของผมไม่คุยเรื่องนี้อย่างเปิดเผย แต่ในวงสนทนาก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะแสดงความกังวลว่าการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัวตระกูลลีกำลังมีผลต่อการวางตัวนายกฯคนต่อไปของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่แน่ ๆ ก็นายกฯคนต่อไปไม่มีคนแซ่ลีแน่นอน อีกทั้งคนรุ่นใหม่อาจจะไม่ได้ให้ความเชื่อถือศรัทธาต่อคนในตระกูลนี้อย่างเข้มข้นเหมือนแต่ก่อน

ไม่น่าเชื่อครับว่าลีกวนยิวที่ก่อร่างสร้างประเทศขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น แต่เมื่อจากไปแล้ว ก็ยังไม่สามารถจะทำให้ลูก ๆ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

เพียงแค่ประเด็นว่าจะทำอย่างไรกับบ้านของตัวเองหลังจากลาโลกไปแล้วก็ยังเอาไม่อยู่

เหลือเชื่อครับ